กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับหลักทรัพย์ใหม่ 3 บริษัทเข้าซื้อขายในวันที่ 21 และ 22 ธันวาคม 2548 ดังนี้
1) วันที่ 21 ธันวาคม 2548 บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) จะเข้าซื้อขายในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ใช้ชื่อย่อ “ASCON”
2) วันที่ 22 ธันวาคม 2548 บริษัท ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) จะเข้าซื้อขายในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดวัสดุก่อสร้าง ใช้ชื่อย่อ “CSP”
3) วันที่ 22 ธันวาคม 2548 บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) จะเข้าซื้อขายในกลุ่มวัตถุดิบและสินค้า อุตสาหกรรม หมวดยานยนต์ ใช้ชื่อย่อ “IHL”
ASCON ระดมทุนรองรับการขยายตัวของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
ASCON ดำเนินกิจการรับเหมาก่อสร้างโครงการขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ทั้งประเภทบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม และโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีบริษัทย่อยอีก 3 แห่งที่เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ คุณภาพสูงที่ได้รับการยอมรับ คือ เครื่องอัดอากาศของ Quincy Compressor และซีลกันรั่วของ Garlock Sealing Technologies รวมถึงให้คำปรึกษาด้านวิศวกรรมต่างๆ ปัจจุบัน ASCON มีโครงการรับเหมาก่อสร้างอยู่ในระหว่างดำเนินการ 1 โครงการมูลค่า 528.44 ล้านบาท
ASCON มีทุนเรียกชำระแล้วทั้งสิ้น 200 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 150 ล้านหุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งในระหว่างวันที่ 7 - 9 ธันวาคม 2548 ได้มีการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 50 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 4.20 บาท ซึ่งเท่ากับอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น หรือพีอี (P/E Ratio) ที่ 6 -7 เท่า
ASCON จะนำเงินระดมทุนจำนวน 200 ล้านบาท ไปลงทุนซื้อที่ดิน ก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงและโกดัง จัดซื้อ อุปกรณ์เพื่อใช้ก่อสร้าง ซื้อเครื่องจักร อุปกรณ์และอะไหล่เพื่อรอการจำหน่าย รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน การระดมทุนครั้งนี้ มีบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
ภายหลังไอพีโอ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ASCON ประกอบด้วย กลุ่มตนุมัธยา ถือหุ้นร้อยละ 32.25 และกลุ่มวิไลลักษณ์ ถือหุ้นร้อยละ 25.65 ของทุนเรียกชำระแล้ว ทั้งนี้ ASCON มีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลักหักภาษีเงินได้และเงินทุนสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี
CSP มุ่งให้บริการเหล็กครบวงจร เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์รองรับอุตสาหกรรมรถยนต์
บมจ. ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ (CSP) เป็นศูนย์บริการเหล็กที่ให้บริการจัดหาเหล็กแผ่นชนิดม้วนตามประเภทและขนาดที่ลูกค้าต้องการ รวมทั้งแปรรูปเป็นเหล็กแผ่นและเหล็กแถบ รวมถึงผลิตท่อเหล็กรีดเย็นซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ ต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถนำไปใช้ได้สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ท่อเหล็ก เฟอร์นิเจอร์ บรรจุภัณฑ์ และก่อสร้าง เป็นต้น
CSP มีทุนชำระแล้ว 500 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 400 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งเมื่อวันที่14 - 15 ธ.ค. 2548 บริษัทได้เสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 100 ล้านหุ้นแก่ ผู้มีอุปการคุณของบริษัท ผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย รวมถึงผู้ลงทุนประเภทสถาบัน ในราคาหุ้นละ 3.00 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด ( มหาชน ) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
CSP จะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นรวม 288 ล้านบาทหลังหักค่าใช้จ่าย ไปใช้เพื่อชำระเงินกู้ระยะสั้นและระยะยาวรวม 238 ล้านบาท ที่ได้กู้ยืมมาเพื่อซื้อเครื่องจักรในการผลิตท่อเหล็กรีดเย็นรองรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรม รถยนต์และเฟอร์นิเจอร์ นอกจากนี้ ยังจะนำส่วนที่เหลืออีก 50 ล้านบาทไปขยายและปรับปรุงอาคารโรงงานรองรับโครงการผลิตท่อเหล็กรีดเย็นใหม่นี้
CSP มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ กลุ่มชัยสุพัฒน์ ถือหุ้นร้อยละ 75.20 ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้วหลังไอพีโอ และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี
IHL ขยายกำลังการผลิตหนังเบาะรถยนต์ รองรับผู้ผลิตรถทั้งในและต่างประเทศ
บมจ. อินเตอร์ไฮด์ (IHL) มีทุนเรียกชำระแล้ว 300 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 45 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 15 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท ในระหว่างวันที่ 14 - 16 ธ.ค. 2548 ได้เสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 15 ล้านหุ้นแก่บุคคลทั่วไป 6.5 ล้านหุ้น ผู้ลงทุนสถาบัน 5.5 ล้านหุ้น และผู้มีอุปการคุณ 3 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 18.25 บาท คิดเป็นค่าพีอีที่ 8.7 เท่า โดยบริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท
IHL เป็นผู้ผลิตเบาะที่นั่งรถยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ที่ใช้หนัง ได้แก่ พวงมาลัย กระปุกเกียร์ ของ ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ อาทิ โตโยต้า นิสสัน ฟอร์ด ฮอนด้า อีซูซุ ซูบารุ มิตซูบิชิ เป็นต้น ซึ่งบริษัทได้ระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอสุทธิประมาณ 265.12 ล้านบาท เพื่อนำไปก่อสร้างโรงงาน ขยายกำลังการผลิตรองรับคำสั่งซื้อในอนาคต ซื้อเครื่องจักร และชำระคืนเงินกู้
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ IHL ได้แก่ กลุ่มนายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ถือหุ้นร้อยละ 47.15 และกลุ่มซูมิโตโม ถือหุ้น ร้อยละ 20.00 ของทุนเรียกชำระแล้วหลังไอพีโอ IHL มีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี
ผู้สนใจข้อมูลของบมจ. แอสคอน คอนสตรัคชั่น บมจ. ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ และ บมจ.อินเตอร์ไฮด์ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.asconthai.com www.cspsteel.com และ www.interhides.com ตามลำดับหรือที่เว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ www.set.or.th และเว็บไซต์ของบริษัทเซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด www.settrade.com
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049
วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-229-2797--จบ--