กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--ไอบีเอ็ม
นักวิเคราะห์ชี้ เมนเฟรมของไอบีเอ็มและระบบ LINUX ช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย บริษัทวิจัยอิสระเผย เมนเฟรมมี “ความแข็งแกร่งในแง่ของเวอร์ช่วลไลเซชั่น ความปลอดภัย และเสถียรภาพโดยรวมของระบบ”
นักวิเคราะห์จาก Forrester ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ชื่อดังด้านไอทีระบุ เมนเฟรม IBM System z เป็นแพลตฟอร์มที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสำหรับการผนวกรวมแอพ-พลิเคชั่น UNIX/Linux และช่วยให้ผู้ใช้สามารถประหยัดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และปรับปรุงอัตราการใช้ทรัพยากร โดยอาศัยความสามารถในด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยีเวอร์-ช่วลไลเซชั่น (Virtualization) การรักษาความปลอดภัย และการบริหารจัดการระบบ
ในรายงานฉบับใหม่ที่มีชื่อว่า “Why Choose Linux on the Mainframe” (เหตุใดจึงควรเลือกใช้ Linux บนระบบเมนเฟรม) แบรด เดย์ นักวิเคราะห์จาก Forrester ได้กล่าวถึงประเด็นปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ทรัพยากรบุคคล และการใช้ทรัพยากรการประมวลผล ซึ่งเป็นปัญหาที่ลูกค้ามักจะประสบพบเจอในการใช้โครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลแบบกระจัดกระจาย (distributed) บนแพลตฟอร์ม Linux หรือ Unix
รายงานฉบับนี้ชี้ว่า ระบบเมนเฟรมช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์มากอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ “ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ x86 เพิ่มสูงขึ้น เพราะจำเป็นต้องรองรับอิมเมจใหม่ๆ ของ Linux OS แอพพลิเคชั่นใหม่ๆ และความต้องการใหม่ๆ เกี่ยวกับการจัดสรรบุคลากร และจำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ด้วยเหตุนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวและเพื่อดึงดูดลูกค้ารายใหม่ๆ ไอบีเอ็มจึงได้เปิดตัว System z Business Class Mainframe ซึ่งให้พลังการประมวลผลและขีดความสามารถในระดับเมนเฟรม แต่มีราคาถูกกว่า
รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า “ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2006 ไอบีเอ็มได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากตลาดในเรื่องที่เกี่ยวกับการรองรับเวิร์กโหลด Linux บนเครื่อง System z และล่าสุด ไอบีเอ็มได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ ‘มิดเฟรม’ System z9 Business Class ในระดับราคาที่คุ้มค่า โดยราคาใกล้เคียงกับเครื่องเซิร์ฟเวอร์ขนาดกลางสำหรับ Unix และ/หรือ Linux/RISC รายงานดังกล่าวคาดหมายว่าไอบีเอ็มจะสามารถขยายตลาดให้กับ System z โดยใช้เหตุผลเรื่องการผนวกรวมระบบ Linux เป็นจุดขายหลัก”
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ไอบีเอ็มได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ในส่วนของระบบเวอร์ช่วลไลเซชั่น การใช้ทรัพยากร และการบริหารจัดการระบบ และเมื่อเดือนตุลาคม 2006 ไอบีเอ็มได้ประกาศโครงการมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ซึ่งครอบคลุมทั่วทั้งบริษัท โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะทำให้เมนเฟรม System z ของไอบีเอ็ม มีลักษณะใช้งานง่ายขึ้นสำหรับบุคลากรที่ดูแลงานด้านคอมพิวเตอร์ทั่วไปภายในปี 2011 ทั้งนี้ภายใต้โครงการดังกล่าว ไอบีเอ็มได้ดำเนินการปรับปรุงซอฟต์แวร์เพื่อให้บุคลากรด้านไอทีสามารถตั้งโปรแกรมและบริหารจัดการระบบเมนเฟรมได้สะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้างระบบอัตโนมัติสำหรับการพัฒนาและติดตั้งแอพพลิเคชั่นในสภาพแวดล้อมเมนเฟรมอีกด้วย
นอกเหนือจากความสะดวกในการบริหารจัดการแล้ว เมนเฟรม System z9 ของไอบีเอ็มยังช่วยปรับปรุงขีดความสามารถในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยระบบจะรองรับการทำงานได้ 80 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ของขีดความสามารถทั้งหมดของระบบ นอกจากนั้น แพลตฟอร์มดังกล่าวยังรองรับการทำเวอร์ช่วลไลซ์สำหรับเวิร์กโหลดโดยอาศัย z/VM ความสามารถทั้งหมดนี้จะช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มที่ใกล้เคียงกัน
z/VM รุ่นใหม่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถรองรับการขยายตัวของศูนย์ข้อมูล โดยสนับสนุนหน่วยความจำที่มีขนาดใหญ่กว่า จึงขจัดความจำเป็นในการขยายเวิร์กโหลดขนาดใหญ่บนเวอร์-ช่วลแมชชีน (virtual-machine) สำหรับ z/VM หลายๆ ก๊อปปี้ ทั้งนี้ z/VM เวอร์ชั่นล่าสุดได้รับการเปิดตัวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่รายได้จากเมนเฟรมของไอบีเอ็มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 3 ไตรมาสติดต่อกัน Forrester ระบุว่า z/VM เป็น “แพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการผนวกรวมทั้งแอพพลิเคชั่นและข้อมูลและเวิร์กโหลด Unix/Linux ซึ่งปัจจุบันถูกใช้งานอยู่บนเซิร์ฟเวอร์หลายๆ เครื่อง และย้ายไปไว้บนเครื่องเมนเฟรมเครื่องเดียวกัน โดยยังคงรักษาจำนวนอิมเมจของโลจิคัลเซิร์ฟเวอร์ที่แยกจากกันไว้เช่นเดิม”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
คุณปรีติ ประพันธ์วิทยา โทร 02-273-4418 อีเมล์ preeti@th.ibm.com