กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--กบข.
กบข. เตรียมเพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้น-ตราสารหนี้ต่างประเทศโดยมีเพดานสูงสุด 15% ของเงินกองทุนในอีก 2 เดือนข้างหน้า หลังคลังมีประกาศแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การลงทุน เน้นกระจายความเสี่ยง ดันผลตอบแทนระยะยาวเพิ่ม
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเห็นบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยภายหลังจากที่กระทรวงการคลังได้ออกประกาศแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการเงินของ กบข.ซึ่งได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2550 โดยอนุมัติให้ กบข.ลงทุนในหุ้น หุ้นกู้แปลสภาพเป็นหุ้นสามัญ หรือใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นจากเดิมต้องไม่เกินร้อยละ 20 เป็นต้องไม่เกินร้อยละ 30 การลงทุนในต่างประเทศจากเดิมต้องไม่เกินร้อยละ10 เป็นต้องไม่เกินร้อยละ15 และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จากเดิมต้องไม่เกินร้อยละ 5 เป็นต้องไม่เกินร้อยละ 8 ของเงินกองทุนนั้น ส่งผลทำให้การลงทุนของ กบข. ซึ่งเป็นการบริหารเงินออมระยะยาวมีความคล่องตัว และมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น ในการกระจายความเสี่ยงการลงทุนในแต่ละประเภทสินทรัพย์ ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนการลงทุนในระยะยาวสูงตามเป้าหมายคณะกรรมการลงทุน
สำหรับแผนการลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ในต่างประเทศ ของ กบข. ในปี 2550 กบข. เตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น เพื่อกระจายความเสี่ยงการลงทุน โดยจะลงทุนในหุ้นทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศในช่วง 2 เดือนข้างหน้าจะเพิ่มเป็นร้อยละ 10 ตราสารหนี้ร้อยละ 5 ซึ่งทำให้เพดานการลงทุนในต่างประเทศของ กบข.เพิ่มเป็นร้อยละ 15 จากปัจจุบันลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ต่างประเทศรวมกันประมาณร้อยละ 10 ของเงินกองทุน
“การเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น ไม่ใช่เรามองตลาดหุ้นไทยไม่ดี แต่เป็นไปตามหลักการลงทุนที่ดี ซึ่งต้องมีการกระจายการลงทุน เพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยเราจะลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนในระยะยาวของกองทุนอยู่ในระดับสูง” นายวิสิฐกล่าว
นายวิสิฐ กล่าวว่า หลังจากที่เพิ่มน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้พอร์ตการลงทุนในตลาดหุ้นของ กบข.ทั้งในและต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม โดยปัจจุบัน กบข.ลงทุนในตลาดหุ้นไทยประมาณร้อยละ 12 จากเพดานการลงทุนในตลาดหุ้นที่สามารถลงทุนได้ทั้งในและต่างประเทศรวมกันต้องไม่เกินร้อยละ 30