กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--ฮิลล์แอนด์นอลตัน
ในไตรมาสแรกของปี 2553 เทเลนอร์ กรุ๊ป มีรายได้รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 24,000 ล้าน โครนนอร์เวย์ (127,200 ล้านบาท) โดยเติบโตจากเดิมร้อยละ 3 และมีกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมใน ไตรมาสที่ 1 ของปี 2553 คิดเป็นร้อยละ 30 โดยมีกระแสเงินสดอยู่ที่ร้อยละ 20 เทเลนอร์มียอดผู้ลงทะเบียนใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 5 ล้านคน ทำให้มียอดรวมทั้งสิ้น 179 ล้านคน
“เทเลนอร์ กรุ๊ป เริ่มต้นปี 2553 ด้วยการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยแนวโน้มทั่วไปในภูมิภาคเอเชียและสแกนดิเนเวียนยังคงส่งผลในแง่บวก เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นว่าเทเลนอร์ กรุ๊ป มีการเติบโตของรายได้ที่ดีขึ้น โดยมีกระแสเงินสดหมุนเวียนเกือบ 5 พันล้านโครนน์ สืบเนื่องมาจากผลลัพธ์ทางการเงินที่แข็งแกร่งและความโปร่งใสของเงินทุน” จอน เฟรดริค บัคซอส ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป กล่าว
มร. ซิคเว่ เบรกเก้ รองประธานบริหาร เทเลนอร์ กรุ๊ป และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ เอเชีย กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นแนวโน้มที่ดีในตลาดเอเชีย เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2552 บริษัทสาขาของเทเลนอร์ กรุ๊ป ในเอเชีย มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 เมื่อคำนวณจากค่าเงินท้องถิ่น กระแส เงินสดยังคงเข้มแข็ง เนื่องด้วยมาตรการที่มีประสิทธิภาพของแต่ละบริษัท การเติบโตจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การเติบโตจากการทำงานเชิงปฏิบัติการ และการเติบโตของการใช้งานบริการด้านเสียงและอินเทอร์เน็ต สำหรับประเทศอินเดีย เราได้จัดตั้งบริการเครือข่ายใน 8 พื้นที่ ตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2552 และยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายขอบเขตการให้บริการอย่างไม่หยุดยั้งในปี 2553 ยูนินอร์นับได้ว่าได้รับการตอบรับที่ดีในตลาดเป็นอย่างยิ่ง โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีและนำเสนอบริการที่ทันสมัยให้กับลูกค้า”
วิมเพิลคอม หลักไมล์สำคัญของเทเลนอร์
“การดำเนินธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จของวิมเพิลคอมนับได้ว่าเป็นหลักไมล์สำคัญของเทเลนอร์ กรุ๊ป หุ้นของบริษัท วิมเพิลคอม เริ่มเปิดขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2553 และมูลค่าทางตลาดของเทเลนอร์ กรุ๊ป ร้อยละ 39.6 ในบริษัท อยู่ที่ 55,000 ล้านโครนน์ หลังจากจบการซื้อขายหุ้นในวันแรก การดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของวิมเพิลคอม เมื่อผนวกรวมกับโครงสร้างทางธรรมาภิบาลที่ปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นับได้ว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการสร้างคุณค่าในอนาคต” บัคซอส กล่าวเสริม
การดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งในภูมิภาคสแกนดิเนเวียน
“การดำเนินธุรกิจในภูมิภาคสแกนดิเนเวียนยังคงเข้มแข็ง โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการพัฒนาในแง่บวกของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ช่วงปีที่ผ่านมาความต้องการใช้งานโทรศัพท์ประเภทสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ประเภทข้อมูลและกระตุ้นการเติบโตของรายได้ ขณะนี้ เรากำลังอัพเกรดเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในตลาดภูมิภาคสแกนดิเนเวียน และขณะเดียวกันก็คาดหวังที่จะรักษากระแสเงินสดประจำปีให้อยู่ที่ประมาณหนึ่งหมื่นล้านบาท” บัคซอส กล่าวเสริม
เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียเริ่มฟื้นตัว
“การดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียเริ่มปรับตัวดีขึ้นโดยมีแนวโน้มในทางบวกสำหรับการดำเนินการด้านการเงินในไตรมาสนี้ สำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศอินเดีย เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นกิจกรรมต่างๆ ดำเนินไปด้วยความรวดเร็ว คุณภาพของเครือข่ายนับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากภายในขอบเขตการให้บริการ โดยมีจุดให้บริการ 180,000 แห่งและ มีพนักงานปฏิบัติงานราว 2,500 คน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาของยูนินอร์ในตลาด ในช่วงเริ่มต้นนี้ เราต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาฐานของลูกค้าที่ดีเอาไว้ เราได้พัฒนาระบบจัดจ่ายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง” บัคซอส กล่าวเสริม
ปรับทิศทางใหม่
“สืบเนื่องมาจากการฟื้นตัวของภูมิภาคเอเชีย และการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้นในภูมิภาคสแกนดิเนเวียน เราคาดหวังว่ากำไรก่อนหักภาษีสำหรับปี 2553 จะดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับทิศทางธุรกิจที่เคยคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ เรายังได้ปรับรายจ่ายด้านการลงทุนต่อหุ้นลงเล็กน้อย สืบเนื่องจากธุรกิจที่เติบโตยิ่งขึ้นของยูนินอร์ และการลงทุนที่ลดลงในไตรมาสแรก” บัคซอส กล่าวสรุป