MINT มีกำไรสุทธิ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ในไตรมาส 1 ปี 2553

ข่าวทั่วไป Wednesday May 12, 2010 10:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในไตรมาส 1 ปี 2553 บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“MINT”) มีกำไรสุทธิ 600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ50 ขณะที่มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เนื่องจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารของ MINT มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ดังจะเห็นได้จากกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) ของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 และร้อยละ 23 ตามลำดับ เป็นผลสืบเนื่องจากในไตรมาสนี้ กิจกรรมการเดินทางและท่องเที่ยวมีการปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับบรรยากาศทางการเมืองภายในประเทศค่อนข้างมีเสถียรภาพ ธุรกิจโรงแรมของ MINT ในไตรมาส 1 ปี 2553 ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของกิจกรรมการท่องเที่ยวเดินทางและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นและเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้อัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยของโรงแรมทั้งหมดในเครือ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 59 มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 61 รายได้จากธุรกิจโรงแรม เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 อย่างไรก็ดี จากความตึงเครียดทางการเมืองประกอบกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่กรุงเทพมหานครในเดือนเมษายน กลับมาเป็นปัจจัยกดดันต่อการดำเนินธุรกิจอีกครั้ง แต่ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า ช่วงในไตรมาส 2 และ3 ของทุกปีของประเทศไทยจะเป็นช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยว MINT คาดหวังว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะสามารถคลี่คลายภายในเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้ธุรกิจโรงแรมจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในครึ่งปีหลัง เนื่องจากการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก และ MINT มีแผนที่จะเปิดให้บริการโรงแรมใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นต์ รีจิส โอเท็ล กรุงเทพ และอนันตรา รีสอร์ท ที่มัลดีฟส์ ในไตรมาส 1 ปี 2553 ที่ผ่านมา ธุรกิจอาหารของ MINT มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 และกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 23 จากความสำเร็จในการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพทำให้ความสามารถในการทำทำากำไร (EBITDA Margin) ปรับตัวสูงขึ้นจากร้อยละ 14 เป็นร้อยละ 16 แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเมืองภายในแระเทศ แต่ธุรกิจอาหารของ MINT แสดงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งโดยมีกำไรจากการดำเนินเนินงาน (EBITDA) คิดเป็นร้อยละ 40 ของกำไรจากการดำเนินเนินงานโดยรวมของ MINT นอกจากนี้ จากการที่ MINT เข้าถือหุ้นใน MINOR สัดส่วนร้อยละ 99.92 ในไตรมาส 2 ปี 2552 ทำให้ MINT มีรายได้จากการจัดทำงบการเงินรวมกับ MINOR ในช่วงครึ่งปีหลัง และส่งผลให้ MINT มีรายได้เพิ่มเติมเข้ามาในไตรมาสนี้ถึง 695 ล้านบาท ณ ปัจจุบัน MINT เป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์ไตล์แบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ Esprit Bossini Tumi Charles & Keith และ Gap ในเดือนมีนาคม ได้เปิดร้าน Gap สาขาแรกในกรุงเทพ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ดังจะเห็นได้จากยอดขายในช่วงอาทิตย์แรกที่เปิดตัวสูงถึง 1.2 ล้านบาทต่อวัน Press Contacts: Pratana Mongkolkul / Ririnda Tangtatswas at Tel: (662) 381-5151

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ