กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--IR PLUS
"สุพันธุ์ มงคลสุธี" มั่นใจครึ่งปีแรก SYNEX ยังโชว์ผลงานเข้าเป้า หลังโค้งแรกปั๊มกำไรกระฉูดกว่า 118% คุยพร้อมเดินหน้าใช้กลยุทธ์ขยายฐานลูกค้า เพิ่มสินค้าใหม่เข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นและมุ่งควบคุมค่าใช้จ่ายต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา เชื่อหนุนผลประกอบการทั้งปีเติบโตต่อเนื่องได้ แม้สถานการณ์การเมืองไม่เอื้ออำนวย
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและซีอีโอ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 2553 ว่า คาดว่าจะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ถึงแม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ทางการเมืองจะยังร้อนระอุ แต่เนื่องจากบริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การขยายธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่แท้จริงตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถรับมือกับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกได้อย่างคล่องตัว ซึ่งจะเห็นได้จากบริษัทฯ สามารถผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตได้อย่างโดดเด่นตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/2552 ต่อเนื่องมาจนถึงไตรมาสที่ 1/2553 และเชื่อว่าในครึ่งปีแรกของปีนี้ผลประกอบการของบริษัทฯ จะยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ดังกล่าว
"ในปลายปีที่ผ่านมาเราได้ปรับกลยุทธ์การขยายธุรกิจใหม่ โดยมุ่งควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีนัยสำคัญ มุ่งเพิ่มโปรดักส์ใหม่ๆ เข้ามาจัดจำหน่ายให้หลากหลายยิ่งขึ้น และให้ความสาคัญกับการขายสินค้าที่เป็น Exclusive Brand มากยิ่งขึ้น ซึ่งการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ ซินเน็ค (ประเทศไทย) ประสบความสำเร็จ ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างชัดเจน ดังนั้น หลังจากนี้บริษัทฯ จะยังคงยึดนโยบายดังกล่าวในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งในไตรมาสที่สองนี้ จะได้เห็นซินเน็คฯ จัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่ม Smart Mobile อย่างเต็มตัว หลังจากที่พบว่าเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตที่ดี"
เขากล่าวอีกว่า ในปีนี้หลังจากที่ได้สานต่อกลยุทธ์การขยยายธุรกิจแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้เห็นสัญญาณบวกสนับสนุนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการฟื้นตัวของตลาดสินค้าไอที ที่พลิกกลับมาเติบโตได้อีกครั้งตามการฟื้นตัวของของเศรษฐกิจ และมีปัจจัยบวกจากกการเปลี่ยนเทคโนโลยี platform ใหม่ของ CPU intel และการเปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่ อย่าง Microsoft window 7 เข้ามากระตุ้นการใช้งานอุปกรณ์ไอทีของผู้บริโภค มีงบประมาณในโครงการไทยเข้มแข็งเข้ามาสนับสนุนการใช้สินค้าไอทีในสถานศึกษาเชื่อว่าสนับสนุนให้ยอดขายสินค้าของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ประกอบกับในปีนี้ซินเน็คฯ จะให้ความสำคัญกับการให้บริการหลังการขายอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น และมุ่งขยายศูนย์บริการ และสาขาในภูมิภาค และเร่งขยายร้านไอทีรูปแบบทันสมัย ซีเน็ค ช็อป (Cnex shop) ซึ่งเป็นระบบแฟรนไชส์ค้าปลีกของซินเน็คฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้าอินเทรนด์ ให้กลุ่มลูกค้าไลฟ์สไตล์ และ เพิ่มรายได้ไปในเวลาเดียวกัน จึงคาดว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากปี 2552 ได้ โดยคาดว่ารายได้ทั้งปีจะเติบโตไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อนที่ทำได้ 13,490 ลบ.
ทั้งนี้ SYNEX รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1/2553 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิจำนวน 71.92 ล้านบาทเทียบกับกำไรสุทธิ จากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 32.92 ล้านบาท กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 39 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ118.47 โดยผลกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการขายและบริการรวมของบริษัทฯ ที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงปีเดียวกันของปี 2552 ร้อยละ 27.46 หรือเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 807.58 ล้านบาท ทำให้มีรายได้รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวน 3,748.55 ล้านบาท
สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการขายสินค้าฮาร์ดดิสก์ทั้งแบบติดตั้งภายในและแบบพกพา รวมถึง อุปกรณ์เพื่อการพิมพ์เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ยังมาจากการขยายสาขาต่างจังหวัดและการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า เพิ่มมากขึ้นทั้งทางด้านสินค้าและบริการ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสามารถควบคุมได้ไม่ให้เพิ่มขึ้นไปตามสัดส่วนของยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยเพิ่มขึ้นจากในช่วงปีเดียวกันของปี 2552 อยู่เพียงร้อยละ 14.43 ในขณะที่ยอดขายเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 27.46 ประกอบกับบริษัทฯสามารถลดต้นทุนทางการเงิน ของไตรมาส 1 ปี 2553 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกัน เดียวกับของปี 2552 ลงเป็นจำนวนเงิน 4.88 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 42.85 จึงสะท้อนให้ผลกำไรสุทธิเติบโตอย่างโดดเด่นดังกล่าว
ข้อมูลบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SYNEX) ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ระบบสารสนเทศ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ โดย เป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้ามากกว่า 50 ตราสินค้าจากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก และมีฐานลู กค้าทั้งหมดมากกว่า 5,000 ราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการคอมพิวเตอร์ทั้งที่เป็นร้านค้าปลีกและค้าส่งทั่วประเทศ
ปัจจุบันแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 8 กลุ่มธุรกิจ คือ 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์ชิ้นส่วน เช่น MOTHER BOARD , Hard Disk Drive, CPU 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทวัสดุสิ้นเปลือง เช่น หมึกพิมพ์ โทนเนอร์ และแผ่นบันทึกข้อมูล เช่น 3.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์เพื่อการพิมพ์ เช่น เครื่องพิมพ์แบบต่างๆ 4.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทเน็ทเวิร์ก เช่น Switch, UPS, Server, Network Cabling System, Wireless LAN, Hub และ Router 5.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทอุปกรณ์แสดงผลข้อมูล เช่น จอภาพ และเครื่องฉายภาพสไลด์ 6.กลุ่มผลิตภัณฑ์ประเภทชุดคอมพิวเตอร์ประกอบเสร็จและกึ่งเสร็จ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Notebook) เครื่องคอมพิวเตอร์แบบสั่งประกอบ มี Lemel ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เอง 7.กลุ่มผลิตภัณฑ์ MCE (Multimedia Consumer Electronic) เช่น GPS อุปกรณ์แผนที่นำทาง กล้องดิจิตอล USB Flash Drive และ External Harddisk 8.กลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
IR PLUS : คุณจุฬารัตน์ เจริญภักดี(ฟ้า)
Tel. 02-554-9395 E-mail : jurarat@irplus.in.th