บีโอไอเผยแนวโน้มลงทุนอุตสาหกรรมสนับสนุนขยายตัว ซับคอนไทยแลนด์สร้างโอกาสชิ้นส่วนไทย — ต่างชาติตบเท้าร่วมงานคับคั่ง

ข่าวทั่วไป Thursday May 13, 2010 11:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--บีโอไอ บีโอไอเผยแนวโน้มการลงทุนอุตสาหกรรมสนับสนุนของไทยขยายตัวต่อเนื่อง ไตรมาสแรกขอลงทุนกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท และการจัดงานซับคอนไทยแลนด์ 2010 จะช่วยกระตุ้น ให้เกิดการลงทุนมากยิ่งขึ้น เพราะผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยจะมีโอกาสขยายตลาดในต่างประเทศ และเปิดทางให้เกิดผู้ผลิตชิ้นส่วนรายใหม่ บีโอไอตั้งเป้ายอดซื้อขายชิ้นส่วนจากงานซับคอน ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท หลังนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศแห่ร่วมงานคับคั่ง นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดงานซับคอนไทยแลนด์ 2010 (SUBCON Thailand 2010) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 — 15 พฤษภาคม 2553 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ว่า การจัดงานในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยให้เกิดการซื้อขายชิ้นส่วนจากผู้ผลิตของไทยแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมสนับสนุนมากยิ่งขึ้น ประกอบกับสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และโอกาสในการขยายตลาดชิ้นส่วนของไทยในต่างประเทศ จากข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน หรืออาฟต้า ทำให้แนวโน้มการลงทุนของอุตสาหกรรมสนับสนุนน่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ มีการยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมสนับสนุน จำนวน 108 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 25,646 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนโลหะและเครื่องจักร ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนจากยางและพลาสติก โดยเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2552 ซึ่งมีจำนวน 73 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 7,666 ล้านบาท “ ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมสนับสนุนช่วยสร้างมูลค่าในการเป็นแหล่งน่าลงทุนให้กับประเทศไทย เพราะบริษัทผู้ผลิตสินค้าชั้นนำของโลกจะย้ายฐานการผลิตไปประเทศที่มีอุตสาหกรรมชิ้นส่วนที่เข้มแข็ง อุตสาหกรรมสนับสนุนจึงเป็นหัวใจสำคัญต่อการเข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ” เลขาธิการ บีโอไอกล่าว ทั้งนี้ การจัดงานซับคอนไทยแลนด์ 2010 มีผู้ตอบรับเข้าร่วมงานมากกว่าทุกครั้งที่จัดมาตลอด 3 ปี โดยบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนมาออกบูธแสดงสินค้าจำนวน 250 บูธ เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับจำนวนบูธในปีที่ผ่านมาซึ่งมี 189 บูธ ขณะที่บริษัทชั้นนำและคณะนักธุรกิจจากต่างประเทศก็ตอบรับเข้าร่วมงานมากกว่าทุกครั้ง ทั้งนักลงทุนจากญี่ปุ่น จีน ฝรั่งเศส อังกฤษ ออสเตรเลีย อิตาลี เวียดนาม และมาเลเซีย รวมประมาณ 80 ราย จึงคาดว่าจะมีการจับคู่เจรจาธุรกิจกับผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยได้ไม่น้อยกว่า 2,500 คู่ และคาดว่าจะเกิดการซื้อขายชิ้นส่วนเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท สำหรับบริษัทชั้นนำหลายรายที่ต้องการหาผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศ และจะเข้าร่วมงานซับคอนไทยแลนด์ 2010 กระจายอยู่ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ บีเอ็มดับเบิลยู เดมเลอร์ไคร์สเลอร์ เมอร์เซเดสเบนซ์ โรเบิร์ท บอช ซัมมิท ออร์โต้ ซีท เอ็นอาร์บีแบริ่ง และ โกบอล ฟลีท เป็นต้น กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การเจรจาจับคู่ธุรกิจและเชื่อมโยงอุตสาหกรรม การแสดงนิทรรศการอุตสาหกรรมสนับสนุนของไทยและภูมิภาคเอเชีย บูธการนำเสนอความต้องการชิ้นส่วนและ การแสดงนโยบายจัดซื้อชิ้นส่วนของผู้ประกอบการรายใหญ่ บูธให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และกิจกรรมเชื่อมโยงด้าน R&D ระหว่างผู้ผลิตชิ้นส่วนกับสถาบันวิจัย และมหาวิทยาลัย เพื่อนำผลการวิจัยและพัฒนาไปต่อยอดการผลิตในเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสัมมนา ตลอดทั้ง 3 วัน โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ มาร่วมบรรยายให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทย อาทิ บีโอไอ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม กระทรวงพาณิชย์ ศูนย์เทคโนโลยีไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือเอสเอ็มอีแบงก์ ศูนย์บริการปรึกษาการออกแบบและวิศวกรรม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด มหาชน และสมาคมบริหารงานจัดซื้อและซัพพลายเชนแห่งประเทศไทย หัวข้อที่น่าสนใจ ได้แก่ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปัจจุบัน บทบาทบีโอไอกับการส่งเสริมเอสเอ็มอีไทย การเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันและสร้างทางเลือกใหม่ กลยุทธ์การขอสินเชื่อกับเอสเอ็มอีแบงก์ ยุทธการปั้นเอสเอ็มอีไทยบุกอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสไดร์ และกลยุทธ์เพิ่มโอกาสแก่เอสเอ็มอีไทยให้ก้าวไกลสู่อาเซียน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ