กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--สามารถคอร์ปอเรชั่น
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการโดยรวมของกลุ่มบริษัทสามารถในไตรมาส 1 ด้วยรายได้รวมทั้งสิ้น 4,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นกำไรสุทธิ 148 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 240 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นสัญญาณบวกที่ตอกย้ำความมั่นใจในการสร้างธุรกิจยั่งยืนตามเป้าหมาย
สรุปผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 53 โดยแยกตามสายธุรกิจของกลุ่มสามารถ ได้ ดังนี้
สาย ICT Solutions นำโดย บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวมในไตรมาส 1 ปี 53 จำนวน 1,732 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ มีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 328 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ เป็นผลจากการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากงานโครงการต่างๆ ที่ประมูลได้ในปีที่ผ่านๆ มา โดยเฉพาะปีที่แล้ว กลุ่มสามารถเทลคอมฯ ประมูลงานได้ รวมมูลค่าถึง 8,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Broadband IP และโครงการระบบตรวจบัตรโดยสารของสนามบินสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ ยังประมูลงานโครงการที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท เป็นจำนวนกว่า 10 โครงการ ซึ่งถือเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับกลุ่มสามารถโดยรวม เพราะจะก่อให้เกิดการรับรู้รายได้ที่ต่อเนื่อง และยังสามารถต่อยอดธุรกิจสู่บริการ ICT outsourcing อื่นๆ ในอนาคต
ในปีนี้แม้จะมีเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานโครงการภาครัฐมากนัก โดยในไตรมาสแรก กลุ่มสามารถเทลคอมฯ มีการเซ็นสัญญางานใหม่รวมมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท ทำให้รวมแล้วมีโครงการในมือราว 7,000 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าในไตรมาส 2/53 จะมีการเซ็นสัญญางานใหม่รวมมูลค่าอีกไม่ต่ำกว่า 1,500 — 1,800 ล้านบาท
สายธุรกิจ Mobile Multi-media นำโดย บริษัท สามารถไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 2,272 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 27 ล้านบาท โตขึ้น 170 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาเดียวของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มกระเตื้อง ส่งผลโดยตรงต่อยอดขายโทรศัพท์เคลื่อนที่ในไตรมาสแรก โดยมีอัตราการเติบโตทางด้านรายได้ที่ 5 เปอร์เซ็นต์ มียอดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศรวม 830,000 เครื่อง นอกจากนั้นธุรกิจคอนเทนต์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 27 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ i-Mobile 3GX ปัจจุบันมียอดผู้ใช้บริการรวมแล้วกว่า 70,000 รายและยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สาย Technology Related มีรายได้รวม 526 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ อันเป็นผลจากธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำอย่างบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิสเซส จำกัด (CATS) ผู้ให้บริการศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และบริษัท Kampot Power Plant จำกัด ผู้ผลิตไฟฟ้าป้อนแก่โรงงานปูนซิเมนต์ไทยที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งสร้างรายได้ให้กับกลุ่มสามารถฯ ปีละไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ส่วนบริษัท วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด บริษัท วิชั่น แอนด์ ซิเคียวริตี้ ซิสเต็ม จำกัด และบริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด ก็มีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงส่งผลให้สายธุรกิจนี้ มีกำไรเพิ่มขึ้นถึง 18 เปอร์เซ็นต์
นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้ายถึงแนวโน้มธุรกิจจากนี้ไปว่า “เราได้มีการติดตามสถานการณ์ทั้ง การเมือง เศรษฐกิจและสังคมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถปรับแผนงานรองรับการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา โดยในไตรมาส 2 สายธุรกิจ Mobile Multi-media จะมีการเปิดตัวมือถือไอ-โมบายรุ่นใหม่อีกกว่า 20 รุ่น ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ด้านสายธุรกิจ ICT Solutions คาดว่าแนวโน้มธุรกิจด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมยังมีทิศทางบวก โดยจากนี้ไปจะมีงานที่เข้าร่วมประมูลอีกกว่า 6,000 ล้านบาท
นอกจากธุรกิจปัจจุบันที่มีเป้าหมายในการสร้างรายได้และกำไรสูงสุดแล้ว กลุ่มสามารถยังได้ศึกษาและเตรียมการทั้งทางด้านเทคโนโลยีและเงินลงทุน เพื่อขยายสู่ธุรกิจใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับบริการสาธารณะ อาทิ โครงการสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดย่อม ก็มีความคืบหน้า คาดว่าน่าจะสามารถสรุปแนวทางการลงทุนได้ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า สำหรับโครงการรถเมล์ NGV นั้น บริษัทฯ ได้แสดงความสนใจมาตั้งแต่แรก โดยเฉพาะในส่วนของระบบสื่อสารอิเลคทรอนิกส์ต่างๆ ซึ่งบริษัทฯ มีความรู้ความชำนาญ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอความชัดเจนจากภาครัฐ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ ที่บริษัทฯ กำลังศึกษาและเจรจาอยู่ คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็สอดคล้องไปกับทิศทางและเป้าหมายในการสร้างรายได้ประจำและรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทสามารถ”
“กลุ่มบริษัทสามารถ” มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างครบวงจร ภายใต้บริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท และมี 3 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน)