กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--สหมงคลฟิล์ม
โป๊ะแตก
กำหนดฉาย 3 มิ.ย. 2553
แนวภาพยนตร์ ตลกซ้อนตลก
บริษัทผู้สร้าง สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล และ เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์
บริษัทจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัทควบคุมงานสร้าง บาแรมยู, บั้งไฟฟิล์ม
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ, ปัญญา นิรันดร์กุล, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
ควบคุมงานสร้าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว, สุกัญญา วงศ์สถาปัตย์, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
ดำเนินงานสร้าง ศิตา วอสเบียน
ประสานงานสร้าง จันทพร ธนโกเศศ
กำกับภาพยนตร์ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
เรื่อง เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
บทภาพยนตร์ เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, พิพัฒน์ จอมเกาะ
กำกับภาพ จิระเดช สำเนียงเสนาะ, สมศักดิ์ ศรีสวัสดิ์, รัฐพล สันธนาคร
ลำดับภาพ ปภพ สุรสกุลวัฒน์, ชูพล ศรีไพร
กำกับศิลป์ วรากร พูนสวัสดิ์
ออกแบบเครื่องแต่งกาย นิรชรา วรรณาลัย
ดนตรีประกอบ-ออกแบบเสียง คณิศร พ่วงจีน
ฟิล์มแล็บ บริษัท สยามพัฒนาฟิล์ม จำกัด
บันทึกเสียง ห้องบันทึกเสียงรามอินทรา
เว็บไซต์ภาพยนตร์ www.pohtakmovie.com
ทีมนักแสดง หม่ำ จ๊กมก, เทพ โพธิ์งาม, เท่ง เถิดเทิง, โหน่ง ชะชะช่า, เป็ด เชิญยิ้ม, โน้ต เชิญยิ้ม, ค่อม ชวนชื่น, ถั่วแระ เชิญยิ้ม, ชูษี เชิญยิ้ม, นุ้ย เชิญยิ้ม, ตั๊ก ศิริพร, ตุ๊กกี้ ชิงร้อย, ฮาย อาภาพร, แอนนา มกจ๊ก
เหนือฟ้ายังมีนก
เหนือ “หม่ำ จ๊กมก” ยังมี “มด วงษ์คำเหลา”
เหนือ “เกาเหลา” ยังมี “โป๊ะแตก”
เมื่อตลกชั้นเซียน “หม่ำ จ๊กมก” ควงตลกขั้นเทพ “เทพ โพธิ์งาม”
มาฉีกเมนูการสร้างหนังทุกสำนัก
ด้วยเครื่องปรุงรสฮาที่ต้องน้ำตาเล็ด
ผสมมุขเด็ดอำวงการสุดจี๊ดจ๊าด
กับเมนู “หม่ำชวนดู เทพชวนชิม” ให้รู้ว่า
เหนือ “หนังตลก” ยังมี “หนังตลกซ้อนตลก” ที่ชื่อ...
“โป๊ะแตก”
3 มิถุนา...ฮาสะเทือนวงการ
ตามติดชีวิตกองถ่าย “โป๊ะแตก”
เมื่อผู้กำกับตลกชั้นเซียน “หม่ำ จ๊กมก” ขอฉีกตำราการสร้างหนังทุกสำนัก ลองของมากำกับนักแสดงตลกขั้นเทพ “เทพ โพธิ์งาม” พร้อม “รวมดาวชาวตลก” มาร่วมปล่อยมุขสดกันทั้งบาง
แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าไม่ใช่ “ความฮาแบบไม่ยั้ง”
ได้เห็นกันทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังทุกขั้นตอนของการทำหนังซักเรื่อง
ตามติดชีวิตกองถ่ายแบบฮากระจายไปกับหลากหลายคาแร็คเตอร์ “เล่นจริง อำจริง” ของผู้อำนวยการสร้างจอมเฮี้ยบ, ผู้กำกับปากร้าย, ดาราขี้วีน, ตลกจอมเครียด, ทีมงานขี้เมาท์ และอีกมากมายก่ายกอง(ถ่าย) หนุกหนานขำกลิ้งไปกับตลกสุดโต่ง, ดราม่าสุดแสนโศกา, แอ็คชั่นมันส์ระเบิด(เละ), สยองขวัญสั่นประสาท ยันฉากเลิฟซีนสุดซี้ดกับเหล่าผู้ชายหลายบาป...ว่าเข้าไปนั่นคละเคล้ามุขเด็ดขำเข็ดFUN เฮฮาน้ำตาเล็ด...ตลอดเรื่อง กับ “โป๊ะแตก” หนังตลกรสชาติใหม่สไตล์ “หนังซ้อนหนัง - ตลกซ้อนตลก” ที่จะทำให้คุณฮาไม่เสร็จกันเลยทีเดียว
เปิดหม้อโป๊ะแตก
เมื่อผู้กำกับหนังตลกร้อยล้าน “หม่ำ จ๊กมก” คิดอยากจะสร้างหนังตลกแนวใหม่ๆ ขึ้นมาดูซักเรื่อง... หนังตลกหลากหลายแนว ทั้งตลก-แอ็คชั่น, ตลก-ครอบครัว, ตลก-ดราม่า และ ตลกรากหญ้า ก็ผ่านมือเขามาหมดแล้ว ยังจะเหลือแนวไหนให้กำกับอีก คิดไปคิดมา ก็ปิ๊งไอเดียแจ่มๆ ขึ้นได้ เอาวะ...หนังตลกทดลองในแบบ “หนังซ้อนหนัง” นี่แหละที่อยากทำมานานแล้ว ด้วยประสบการณ์ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในวงการหนังที่สั่งสมมากว่ายี่สิบปี ก็ได้เวลาที่เขาจะหยิบยกเอาเรื่องราวในวงการหนังไทยมาล้อเลียนและอำด้วยมุขขำเข็ดฟัน มันส์ไม่มียั้ง ให้แสบๆ คันๆ กันตั้งแต่ผู้อำนวยการสร้าง, ผู้กำกับหนัง, นักแสดง, ตัวประกอบ, ตากล้อง, คอสตูม, เมคอัพ, ช่างไฟ, เด็กถือไมค์บูม, พ่อครัว ยันไปถึง นักข่าว กันเลยทีเดียว
พร้อมทั้งเผยจะๆ ตาถึงเบื้องหน้าและเบื้องหลังการทำหนังไท้...หนังไทยที่ทุกคนเห็นแล้วจะต้องขำกลิ้งไม่เป็นท่า ฮากระจายไม่เป็นทาง (“ฮาเรี่ยราด...” พี่หม่ำตะโกนย้ำมุข) ในหนังตลกซ้อนหนังตลก มุขเสริมมุข ลุกขึ้นมาฮากับ “โป๊ะแตก” หนังตลกเรื่องล่าสุดของค่ายใบโพธิ์ สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่พร้อมเสิร์ฟความฮาไปทุกหย่อมหญ้า 3 มิถุนายนนี้
“หนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังเกี่ยวกับหนังนะครับ งงมั้ย เป็นหนังซ้อนหนัง เกี่ยวกับการทำหนังที่ดูง่ายๆ สบายๆ ฮาไปเรื่อยๆ ฮาไม่ห่วงชาวบ้าน คือตั้งใจจะทำแบบนี้อยู่แล้วนะ แรงบันดาลใจก็เกิดจากเราไปถ่ายหนังนี่แหละ บางทีเห็นผู้กำกับคนโน้นเป็นอย่างงี้ ดาราคนนั้นเป็นอย่างงี้ เล่นไม่ถูกใจคนในกองถ่าย เป็นเรื่องของการถ่ายทำหนัง เบื้องหลังการทำงาน ที่จริงเบื้องหลังการทำงานก็จะเป็นแบบนี้แหละ ก็คือก็ทำกันแบบนี้แหละ มันเป็นหนังแบบต้องใช้คำว่าภาพยนตร์ฮาสะเปะสะปะ ภาพยนตร์ฮาไม่ห่วงชาวบ้านชาวช่อง ฮาไม่รู้เรื่อง ผมพูดภาษาหนังไม่ค่อยถูก ไม่รู้จะบอกยังไง รู้แต่ว่าเปิดฉากมาซีนแรกก็ได้เรื่องฮาเละเลยล่ะ
คือส่วนใหญ่ผู้ชมไม่ค่อยได้เห็นหนังแนวนี้ ไม่ค่อยเห็นเบื้องหลังการถ่ายหนังกันหรอก ก็คืออยากให้เห็นวิธีการทำงานอีกแบบหนึ่ง ซึ่งดูมันไม่เหมือนหนังหรอก แต่มันเป็นวิธีการการถ่ายทำหนังจริงๆ การถ่ายทำกว่าจะได้มาแต่ละคัทเนี่ย เริ่มจากอะไรบ้าง เริ่มจากเทปเดิน แล้วค่อยมาตีสเลท สั่งกล้องแล้วค่อยมาสั่งแอ็คชั่นซึ่งยากนะ หลายขั้นตอนนะกว่าจะถ่ายได้ ผมไม่เคยทำหนังแนวอย่างนี้ ส่วนมากก็จะทำแบบมีเป็นเรื่องราวเป๊ะๆ มาเลย มีพระเอกมีนางเอกมีอะไรพวกนี้ใช่มั้ย แต่พอมาถึงเรื่องนี้มันเป็นหนังซ้อนหนังอีกที คล้ายๆ เหมือนต่างคนต่างเล่น ใครฮาสุดว่ากันไป เป็นมุขสดๆ หน้ากองซะส่วนใหญ่ มีอะไรเต็มไปหมดเลยทั้งคนเบื้องหน้าเบื้องหลัง ก็จะได้เห็นกันว่าเค้าทำหนังกันอย่างนี้นะ”
ถือเป็นเมนูหนังตลกรสชาติใหม่ที่สุดฮาน้ำตาเล็ดของตลกซูเปอร์สตาร์ “หม่ำ จ๊กมก” ที่คราวนี้ขอควงเอายอดตลกขั้นเทพอย่าง “เทพ โพธิ์งาม” มาเป็นเครื่องปรุงรสชั้นดีที่จะมาสร้างความแซบอีหลีให้กระฉ่อนไปทั้งวงการ
“คือหาจังหวะดีๆ ที่จะร่วมงานกับพี่เทพนี่ยากมาก ซึ่งเรื่องนี้ก็ตรงกับพี่เทพกับผมด้วยไง เพราะในเรื่องพี่เทพเขาจะบ่นว่าไอ้เด็กเนี่ยมึงมาจากไหน เพราะว่าเมื่อก่อนเคยมาอยู่กับกู แต่เดี๋ยวนี้ไม่เห็นหัวกูแล้วอะไรทำนองนี้ในหนังนะ ในเนื้อของมันน่ะ คือมันจะได้แมทช์กันพอดีกับตัวพี่เทพกับตัวผมเองด้วย
พี่เทพเป็นคนร่าเริง เป็นคนที่มีอารมณ์ศิลปินสูง และลึกมาก คนที่ไม่เข้าใจพี่เทพจะมองพี่เทพไปอีกอย่าง ผมรู้สึกเข้าใจเขาได้เพราะผมก็อยู่กับเขามานาน พี่เทพเขาจะเล่นตลกเหมือนกับผมนี่แหละ คือไม่อยากเล่นอะไรซ้ำซากอยู่กับที่ เป็นคนเล่นไปเรื่อยๆ ได้อันไหนไปอันนั้น เป็นคนที่มีวิธีคิดก้าวไกลกับเรื่องของตลกมาก ถ้าใครเล่นกับเขาดีๆ นะจะเห็นเขาแบบมุมมองเขาแบบเป็นตลกที่แบบเหนือเมฆเหนือชั้นมาก ก็เหมือนหนังเรื่องนี้ ถ้าอยู่ด้วยกันปุ๊บ เอาแล้วพี่เทพกับผมเอากันแล้วไง”
นอกจากนี้ เชฟหม่ำยังพกเอาบรรดาเครื่องเคียงรสแสบฮามาเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็น เท่ง เถิดเทิง, โหน่ง ชะชะช่า, ค่อม ชวนชื่น, ถั่วแระ เชิญยิ้ม, โน้ต เชิญยิ้ม, เป็ด เชิญยิ้ม, ชูษี เชิญยิ้ม, นุ้ย เชิญยิ้ม, แอนนา มกจ๊ก, ตั๊ก ศิริพร, ฮาย อาภาพร, ตุ๊กกี้ สามช่า และอีกมากมายที่เชฟหม่ำจะคลุกเคล้าเย้าหยอกให้ “โป๊ะแตก” กลายเป็นเมนูเด็ดที่คอหนังตลกจะต้องอิ่มแปล้ไปด้วยเสียงหัวเราะอย่างแน่นอน
“ก็อยากจะแบบว่าลองเอากล้องมาตั้งแล้วแบบใครอยากเล่นอะไรก็เล่น คือพี่เทพอยากเล่นอะไรก็เล่นเลย คนอื่นๆ อยากเล่นอะไรเล่นเลยภายใต้โครงเรื่องเกี่ยวกับการทำหนังนี่แหละ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน ก็เหมือนทำหนังทั่วไป มันยากตรงอันไหนสั่งคัทเล่นกับสั่งคัทจริงในหนัง ตอนทำใหม่ๆ ก็งงกับมันเหมือนกันนะ งงไปหลายรอบ เดี๋ยวตีสเลทเดี๋ยวไม่ตี คำว่าตีสเลทเนี่ยคือถ่ายหนังจริง แต่ที่ไม่ตีเนี่ยคือหมายถึงว่าเหมือนบรรยากาศดาราที่มาแล้วยังไม่ได้เข้าฉาก ก็มานั่งคุยกันคุยเรื่องลูกเรื่องเมียคุยเรื่องเด็กเรื่องผู้หญิงบ้างคุยเรื่องจิปาถะ ก็คุยกันไปเรื่อยเหมือนกองถ่ายทั่วไป ใครที่มายังไม่ถ่ายก็นั่ง บางคนก็นอน เห็นมั้ยมันเป็นกิจวัตรประจำของคนกองถ่ายอยู่แล้ว คนทำกับข้าวก็ทำไป เด็กจัดไฟก็เรื่องจริงก็จัดไฟกันไป เด็กขนไฟก็ขนไฟไป
ตอนแรกก็คิดว่ามันจะขำหรือเปล่านะ พอถ่ายซักฉากสองฉากแรก ก็เออโอเคนะ มันเหมือนถ่ายหนังทุกอย่าง ตั้งแต่เริ่มเอาโปรเจ็คต์หนังไปคุยกับเจ้าของหนัง มาถึงการบวงสรวง การถ่ายหนัง จนถึงตอนหนังฉายเลย ทุกอย่างมันเหมือนถ่ายหนังหมดจริงๆ แต่เราเอามาทำแบบวิธีการของผมตามที่คิดๆ เอาไว้
ผมอยากบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ฮาแบบ...แบบยังไงดีอ่ะ แบบที่คุณไม่เคยเห็นแล้วกัน แบบที่ทุกท่านไม่เคยเห็น ฮาแบบสดๆ เหมือนท่านได้ดูหนังแบบสดๆ ต่อหน้าเลย คือเหมือนการถ่ายหนังจริงๆ เลย ให้เป็นเรื่องเป็นราวเบื้องหลังของความฮา ก็เป็นอีกสไตล์หนึ่งที่ผมอยากทำ และเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องแรกที่ผมเอาดาราเอาตลกมาเยอะมาก มากันเกือบทั้งวงการ นอกจากตัวหลักอย่างผมและพี่เทพแล้ว ก็มีทั้งคุณโหน่ง คุณเท่ง คุณชูษี พี่ค่อม พี่ถั่วแระ พี่เป็ด พี่โน้ต คุณนุ้ย คุณตั๊ก อ้อ ตุ๊กกี้กับฮาย อาภาพรก็มา โอ๊ยเยอะแยะมากันทั้งหมดแหละ ใครอยากเห็นเบื้องหลังการถ่ายหนังก็ต้องมาดูกัน แบบฮาๆ เลย มันก็รวมตลกหลายคน ตัวเด่นๆ ดังๆ รวมอยู่ในเรื่องนี้หมดเลย ไม่รู้ใครฮาสุด ก็ว่ากันไป ต้องไปดูเอาเอง ดูแล้วฮาสนุกสนานแน่นอนครับ”
เครื่องปรุงรสแซบ
หม่ำ จ๊กมก (เล่นเป็น หม่ำ จ๊กมก)
สุดยอดผู้กำกับและศิลปินตลกชื่อดังของเมืองไทย เป็นที่รักของทุกคน รวมทั้งนายทุนผู้ผลิตภาพยนตร์ หนังแต่ละเรื่องของเขาล้วนแล้วแต่ทำเงินเข้าหลักร้อยล้านแทบทั้งนั้น ไม่แปลกที่นายทุนจะเชื่อมั่นในตัวเขาอยู่ตลอดมา
แต่ด้วยนิสัยเจ้าอารมณ์ เป็นคนใจร้อน ปากจัด ก็ทำให้ทีมงานและนักแสดงถึงกับขยาดกับอารมณ์แปรปรวนของผู้กำกับร้อยล้านรายนี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าปฏิเสธที่จะเล่นหนังของเขา แหม...ก็หนังพี่เค้าได้ตังค์ทุกเรื่องนี่นา
ล่าสุด เขากำลังสร้างหนังเรื่อง “โป๊ะแตก” โดยดึงเอาอดีตลูกพี่ที่เคยปลุกปลั้นเขาขึ้นมาในวงการตลกอย่าง “เทพ โพธิ์งาม” มาเล่นเป็นพระเอก (“งานนี้แหละว้า กูจะได้เอาคืนซะที” หม่ำกระหยิ่มยิ้มย่องดังลอดออกมาให้ได้ยิน)
“เรื่องนี้เล่นเป็นผู้กำกับ เป็นตัวของตัวเองเลยเป็นผู้กำกับเลย แต่ว่าจะเจ้าอารมณ์กับพี่เทพเป็นพิเศษ พี่เทพเล่นอะไรก็ไม่ถูกใจผมในเรื่องน่ะนะ เล่นอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ผมทั้งเอาถาดทั้งเอาอะไรตีหัว ก็ยังเล่นไม่ได้เรื่องเลย ไม่ถูกตาผมเลยพี่เทพ นี่คือในเรื่องเล่นไม่ถูกตาผม แต่มีซีนสุดท้ายนี่เขาเล่นเฉยๆ ไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ผมบอกว่าเขาเล่นดี เขาเล่นดีมาก ก็แกล้งๆ อำๆ เอาฮากันไป
ก็มีประชดประชันแบบว่าผู้กำกับบางคนก็ดุร้ายนะบางคนน่ะ แล้วไม่ได้ดั่งใจ บางทีก็น่าสงสารดาราเหมือนกันนะ เคยเจอมาหลายคนเหมือนกันน่ะ ดาราบางคนก็เล่นแข็งเหมือนเอาท่อนไม้มาตั้ง บางทีก็มีเหมือนกันนะ บางทีเราก็เห็น เราก็เคยเจอผู้กำกับแบบเอะอะเสียงดัง โวยวาย ผู้กำกับขี้เล่นก็มี ผู้กำกับสนุกอย่างเดียวก็มี มันแล้วแต่ ดาราขี้แอ็คก็มี มันมีหลายรูปแบบ โอ๊ย...ทุกอย่างแหละ มันรวมอยู่ในนี้แหละ”
ผลงานการแสดงและกำกับภาพยนตร์ (ยุคปัจจุบัน): มือปืน โลก/พระ/จัน (2544), องค์บาก (2546), บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม (2547-กำกับ), เฉิ่ม (2548), ต้มยำกุ้ง (2548), แหยมยโสธร (2548-กำกับ), วาไรตี้ผีฉลุย (2548), บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2 (2550-กำกับ), คู่แรด (2550), หม่ำเดียว หัวเหลี่ยมหัวแหลม (2551-กำกับร่วม), ฮะเก๋า (2551), องค์บาก 2 (2551), หลวงพี่กับผีขนุน (2552), สาระแนห้าวเป้ง (2552), วงษ์คำเหลา (2552-กำกับ), แหยมยโสธร 2 (2552-กำกับ), ครูบ้านนอก บ้านหนองฮีใหญ่ (2553), องค์บาก 3 (2553), โป๊ะแตก (2553-กำกับ)
เทพ โพธิ์งาม (เล่นเป็น เทพ โพธิ์งาม)
ศิลปินตลกตัวจริงของวงการ ผู้เป็นแบบอย่างให้กับตลกรุ่นหลังมากมายได้เจริญรอยตาม
อดีต-เป็นลูกพี่ของตลกชื่อดัง “หม่ำ จ๊กมก” ปัจจุบัน-เป็นลูกหนี้ของใครก็ช่างมันเถอะ และเป็นนักแสดงที่เล่นหนังให้กับอดีตลูกน้องของตัวเอง แม้จะต้องถูกต่อว่า ด่าทอ ถากถางสารพัดถึงขั้นเลือดตกยางออกจากไอ้ผู้กำกับหม่ำที่มีอำนาจที่สุดในกองถ่ายนี้ แต่ “ต้องอดทน ดีกว่าทนอด วันนี้เป็นทีของมึงไอ้หม่ำ วันหน้าถึงคิวกูเมื่อไหร่ เสร็จกูแน่ เพราะยังไงกูก็ยังไม่ตายง่ายๆ หรอกเว่ย” ป๋าเทพได้แต่คิดในใจ (อีกละ) อย่างผู้ผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชน
“ก็ดีใจนะที่ได้มาร่วมงานกับหม่ำเขา เพราะว่าเขาได้ทำหนังทำอะไรไว้ เราก็ได้อานิสงส์ตรงนี้หน่อย กับคนที่เคยอยู่ด้วยกัน ช่วงนี้เขาก็กำกับหนังเรื่องนี้ ‘โป๊ะแตก’ ก็เป็นความคิดของไอ้หม่ำนี่แหละ มาเล่าให้ฟังบอกว่าป๋ามาเล่นหนังให้ซักหน่อย เราก็เอาอยู่แล้ว พอฟังมันเล่าเรื่องดูก็เออแปลกๆ ดีซึ่งบางทีหนังตลกที่ดูๆ มามันก็คล้ายกันหมดเนอะ แต่มาไอ้นี่มันก็ไปอีกแบบหนึ่ง ความคิดมันก็คือเอาไอ้ภาพที่อยู่เบื้องหลังไปเปิดเผยหรือไปแฉให้หมดอย่างนี้ ป๋าว่ามันก็ธรรมชาติดี
หม่ำมันบอกเอาคาแร็คเตอร์ตามพี่เทพ พี่เทพเล่นยังไงก็เล่น ก็ส่วนมากพวกเราก็จะเล่นกันอย่างนี้แหละ เมื่อก่อนก็เล่นด้วยกัน ส่วนมากเราจะชอบอะไรที่มันสดๆ แบบนี้ มันสนุกดี
เรื่องนี้หม่ำเค้าตั้งใจอยากจะออกมาให้เป็นอีกแนวนึง เหมือนเป็นหนังตลกทดลองให้เห็นเบื้องหลังการทำหนังนี่แหละ มันก็เป็นหนังซ้อนหนัง มันก็ดีนะ ก็แปลกๆ ดีว่า เป็นอะไรที่ไม่จำเจดี หนีแนวหนีอะไรไปบ้าง ป๋าก็เชื่อมั่นนะเพราะหม่ำเขาเป็นคนที่เอาตัวรอดอยู่แล้ว เรื่องนี้ได้เงินแน่ๆ”
ผลงานภาพยนตร์ (ยุคปัจจุบัน): มือปืน โลก/พระ/จัน (2544), พันธุ์ร็อคหน้าย่น (2547), ดึก ดำ ดึ๋ย (2546-กำกับ), เดอะโกร๋น ก๊วนกวนผี (2547), เจ้าสาวผัดไทย (2547), ขุนกระบี่ ผีระบาด (2547), พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า (2548), ไทยถีบ (2549), เมล์นรก หมวยยกล้อ (2550), เทวดาตกมันส์ (2551), หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย (2551), ผีตุ๋มติ๋ม (2552), โป๊ะแตก (2553), กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว (2553), มือปืนดาวพระศุกร์ (2553), หนังเค้านะเธอ (2553), ซามูไร (2553-กำกับ)
(บาง)เครื่องเคียงรสแสบ
เท่ง เถิดเทิง “มาถ่ายหนังเรื่องนี้เหมือนไม่ได้มาถ่ายหนัง เพราะมันเหมือนกับมาเสนอเบื้องหลังว่าเขามีอะไรกันบ้าง เวลาที่ยังไม่ได้ถ่ายกัน พวกเราทำอะไรกันบ้าง คุยอะไรกัน สนุกอะไรกัน โดยเอาชีวิตจริงที่เรายังไม่ได้ถ่ายหนังมานั่งคุยกันสนุกสนาน ซึ่งมันจะเป็นมุขสดๆ เป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นธรรมชาติ โอ๊ยงงไปหมด แล้วคนดูก็จะได้เห็นเบื้องหลังการถ่ายหนังว่าเวลาเขาไม่ได้ถ่ายแล้วเขาทำอะไรกัน มันสนุกดี พี่หม่ำบอกอยากเล่นอะไรก็เล่นเลย ไม่ต้องระวังมุมกล้อง ก็สดๆ ดี พี่หม่ำเค้าจะทำงานเร็ว แล้วทุกอย่างจะจบบนโต๊ะก่อนหมดเลย พอมาถึงกองถ่าย การทำงานมันก็จะราบรื่น คืออารมณ์ของพี่หม่ำเขาจะฟรีสไตล์กับพรรคพวกพี่น้อง จะมีเสียงหัวเราะตลอด”
โหน่ง ชะชะช่า “ไม่น่าจะมีอะไรมากมาย หนังพี่หม่ำสบายๆ อยู่แล้ว ก็เล่นเป็นตัวโหน่งเองนี่แหละ เอานิสัยจริงมาเล่น กับพี่หม่ำนี่สบายๆ เลย พี่หม่ำเป็นคนที่ว่าถ้าจะเอาใครมาทำอะไร เขาต้องดูก่อนว่าคนๆ นั้นเหมาะหรือเปล่า อย่างสมมติว่าพี่หม่ำมีทีมฟุตบอล พี่หม่ำคงไม่เอาคนที่เตะตะกร้อเก่ง แต่เตะฟุตบอลไม่เก่งมาเล่นแน่ พี่หม่ำคงไม่ทำอย่างนั้นแน่ พี่หม่ำเขาต้องมองก่อนว่า จะเอาไอ้โหน่งมาทำอะไร เท่งมาทำอะไร พี่ค่อมมาทำอะไร คือพี่หม่ำเขาจะเลือกคนที่เหมาะที่สุดนั่นแหละมาทำ มันก็ต้องเลือกกันไป เอาที่เหมาะที่สุดนั่นแหละ”
ค่อม ชวนชื่น “ในเรื่องเล่นเป็นหมอ มันจะเป็นหนังซ้อนหนังอีกที แต่ว่าก็ใช้ชื่อจริงกันหมด เรื่องนี้พี่เทพจะบทหนักหน่อย เล่นเป็นพระเอก แล้วก็จะได้ลูกธรรมชาติที่ตลกเล่นกัน นักแสดงที่มาเล่นนี่เจ็บๆทั้งนั้นเลย วันนี้มาเข้าฉากก็เจอพี่เทพ พี่ถั่วแระ โหน่ง เท่ง ชูษี แล้วก็หม่ำ ครบเลยหนังเรื่องนี้จะมีอะไรแปลกๆ เป็นหนังซ้อนหนัง ฮาดี ผมก็ไม่เคยเล่นแบบนี้ ปกติจะเล่นตามบทของเขาแต่วันนี้ได้เล่นเป็นธรรมชาติ เอานิสัยตัวเองมาเล่น ผมก็ไม่เคยเจอแบบนี้นะ แล้วหม่ำเป็นคนสนุกด้วย มันก็เลยสนุกกันใหญ่ ฮาแหละเรื่องนี้ ฮาโดยธรรมชาติ
ถั่วแระ เชิญยิ้ม “สวัสดีครับ ผมนายกสมาคมศิลปินตลก ถั่วแระ เชิญยิ้ม ก็เป็นนายกฯ มา 2 สมัยแล้ว ผมว่าภาพยนตร์เรื่องนี้รายได้ต้องมหาศาลแน่นอน ‘โป๊ะแตก’ แค่ฟังชื่อก็รู้แล้วว่า เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ถ้าไม่บู๊ล้างผลาญประสานงาล้างรุ่น คงเป็นไปไม่ได้แน่ แล้วตลกที่มาเป็นเข่งล้วนแต่มีคุณภาพทั้งนั้น พี่หม่ำคัดเอาแต่ตลกที่ฝีมือสุดๆ มา เรื่องนี้ไม่ผิดหวังครับ ร่วมงานกับหม่ำก็ง่าย สบาย แต่ต้องถูกใจผู้กำกับ ถ้าไม่ถูกใจเขาก็คัท เอาใหม่ ไม่ใช่ผ่านกันง่ายๆ ทีมงานทุกคนมีคุณภาพ อย่าคิดว่าตลกฮาไปวันๆ ไม่มีศักยภาพ ไม่ใช่นะครับ ตลกสามารถทำให้ท่านขำได้ สามารถทำเงินล้านได้”
ชูษี เชิญยิ้ม “คาแร็คเตอร์ไม่มีอะไรมากครับ บทก็ไม่มีให้ ทางก็ไม่ได้บอก ผู้กำกับสั่งให้เล่นแบบนี้ ก็ตามผู้กำกับ ผมมาเข้าในฉากเลิฟซีนเป็นฉากที่ดูแล้วอย่าคิดว่าเป็นการลามก เป็นความสนุกสนานของภาพยนตร์ ซึ่งไม่ได้เป็นนิสัยของเรา แต่มันเป็นสันดานของพวกเราเลย ก็สนุกสนานกันครับ จะได้เห็นว่าเบื้องหลังการทำหนังมันเป็นยังไง ถ้าอยากรู้ว่าฉากเลิฟซีนนี้สนุกขนาดไหนต้องไปชมครับ”
เป็ด เชิญยิ้ม “ผมก็ยังมีสุขดีอยู่ มาวันนี้ก็เอาเหล้ามาให้คุณหม่ำ เพราะหม่ำเขาสะสมเหล้า หม่ำก็เลยบอกว่าวันนี้มาแล้วก็เข้าฉากด้วยเลยดีกว่า ก็สมน้ำหน้าตัวเองที่มา ในเรื่องนี้ เทพ โพธิ์งาม เป็นพระเอกนี่ไม่ต้องพูดถึงเขาแล้ว เป็นเจ้าตำนานแห่งเสียงหัวเราะเลย ถ้าถามว่าอยู่กับร่องกับรอยไหม ก็บอกเลยว่าไม่อยู่กับร่องกับรอย กูอยากอยู่ทางไหนกูก็อยู่ แต่ถ้าถามว่าสนุกไหม ก็สนุกมากครับ ก็ไม่ได้เจอกันมานาน กับพี่เทพเราเคยอยู่ถนนเดียวกัน มาวันนี้ก็ได้นั่งคุยสารทุกข์สุขดิบกันสนุกสนานครับ ส่วนไอ้หม่ำผู้กำกับมันก็เก่งแต่เฉพาะพวกผมอ่ะ กับสาระแนไม่เห็นมันเก่งเลย กลัวเค้าอย่างกับอะไรดี แต่กับพวกเราทำอะไรไม่ถูกใจมันก็ด่า ทำปากเก่งแหละ
ก็ขอให้หนังประสบความสำเร็จ ขอให้หม่ำน้องรักทำให้ได้ถึงร้อยล้านอีกครั้ง ‘โป๊ะแตก’ เรื่องนี้ฮาจริงๆ ตั้งแต่วันบวงสรวงจนถึงวันปิดกล้อง เรื่องนี้ต้องดูให้ได้นะครับ”
โน้ต เชิญยิ้ม “ผมมาเล่นหนังหม่ำวันนี้ก็มาใช้หนี้เพราะหม่ำเคยไปเล่นหนังผม แล้วก็หนังลูกชายผมก็ 2 เรื่องแล้ว ก็มีข้อตกลงกันว่า ถ้าเขาไปเล่นหนังผมแล้วให้ค่าตัวหม่ำเท่าไหร่ แล้วผมมาเล่นหนังเขา เขาก็จะให้ค่าตัวผมเท่านั้น ถ้ารู้อย่างนี้ตอนไปเล่นหนังผมๆ ให้เขาเยอะๆ ดีกว่า เพราะไม่ใช่ตังค์ผมไง แต่เป็นตังค์บริษัท แต่มันก็ไม่เคยพูดเรื่องเงินกับผมเลย ขอแต่คิว มันนัดผมตั้งแต่ 7 โมงเช้า กว่าจะได้ถ่ายก็เที่ยง แต่ก็ชอบทีมงานนะ ชอบระบบการทำงาน คือทำหนังมันต้องแบบนี้ คิดนอกกรอบ จะได้มีอะไรใหม่ๆ
หม่ำเขามีมุมมองต่างจากคนอื่น ทั้งการนำเสนอก็ดี หรือว่ามุขก็ดี ด้วยนิสัยส่วนตัว รักพี่น้องเพื่อนฝูง เขานี้สุดยอดแล้ว เวลาทำงานเป็นคนที่จริงจัง แล้วก็จริงใจ เวลามาอยู่เบื้องหลังมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ ถ้าไม่ใจรักก็อยู่ไม่ได้ เพราะมันเหนื่อยกว่าเยอะมาก เหนื่อยกว่าการเล่นตลกหรือเป็นพิธีกร เห็นหม่ำทำงานแล้วผมมีความรู้สึกว่าอยากร่วมงานกับเขา เห็นทีมงานเขาแล้ว บอกได้เลยว่ามืออาชีพครับ เรื่องนี้ผมว่ามีจุดน่าสนใจเยอะทีเดียว เป็นหนังทางเลือก มีความบันเทิง มีความตลก ดูได้ทั้งครอบครัวครับ”
ฮ่าไฮ่...ฮาโฮก
1) ฉากบวงสรวงฮาป่วน - เปิดมาก็ได้ฮากันเลยกับฉากบวงสรวงเจ็ดสีเจ็ดศอก เมื่อเหล่าตลกและตัวประกอบถูกจับนุ่งโจงห่มสไบสีแสบสันต์ พร้อมวงมโหรีถ้วยถังกะละมังหม้อ มาประกอบพิธีเอาฤกษ์เอาชัยไม่เหมือนหนังเรื่องไหน
2) ฉากหม่ำเทพกลายร่างเป็นตัวเงินตัวทอง - เสือสิงห์กระทิงแรด หมาแมวแสนรู้ งูเงี้ยวเขี้ยวขอหลบไปไกลๆ สัตว์เรื่องไหนก็ไม่เหมือนเรื่องนี้ มีที่ไหนอัญเชิญตัวเห้...แม่นแล้ว ตัวเงินตัวทองนั่นแล มาเข้าฉากแบบสู้ไม่ถอย แถมงานนี้ทำอีท่าไหนไม่รู้ “หม่ำ-เทพ” ถึงต้องทุ่มสุดตัวองค์ลงกลายร่างและพูดจาภาษาเห้...กันเลย เอากับเค้าสิ
3) ฉากแอ็คชั่นมันส์ระเบิด — แจ้งเกิดเป็นผู้กำกับร้อยล้านจากหนังตลกแอ็คชั่นเรื่องดัง มีหรือที่ผู้กำกับหน้าเหลี่ยมจะไม่จับฉากแอ็คชั่นสุดมันส์มาอำเละให้ขำกระเจิงกันไปข้าง ฉากนี้ “หม่ำ-เทพ-เป็ด-โน้ต” รวมตัวเฉพาะกิจยิงกันสนั่นจอระเบิดตู้มต้ามเอฟเฟ็คต์กระจาย งานนี้มีผิดคิวเลือดโชก ป๋าเทพคอนเฟิร์ม
4) ฉากเลิฟซีนสุดซี้ด — ฉากเด็ดที่หลายคนรอคอย เมื่อ “หม่ำ-เทพ-เท่ง-โหน่ง-ค่อม-ชูษี-ถั่วแระ” ผนึกกำลังมะรุมมะตุ้มบนเตียงเดียวกัน(!!!) อะไรจะบังเกิด ถ้าไม่ใช่ความสยอง...เอ้ย...ความเสียวปนฮา แถมปิดท้ายมีหักมุมกลางลำกันอีกแน่ะ
5) ฉากป๊อกเด้ง — ไม่โผล่มาแจมได้ไง หนังของลูกพี่ทั้งคน งานนี้สาวขายฮาอย่าง “ตุ๊กกี้ สามช่า” เลยขอควงลูกทุ่งตัวแม่สุดสะบึม “เจ๊ฮาย อาภาพร” มาตั้งวงเล่นป๊อกเด้งในกองถ่ายแบบสวยๆ เบาๆ แต่ได้ฮากระจายกับลีลาเด้งได้เด้งดีจนหงายเงิบของเธอ (ก่อนที่เธอจะแปลงร่างไปเป็น “เจ้าหญิงขายกบ” แบบฮาเต็มตัวในเรื่องถัดไป...แหม! ขายของสองเด้งกันเลยทีเดียว)
เฮฮาภาษาโป๊ะแตก (Director’s Note)
หม่ำ: เป็นไงบ้างพี่เทพมาเล่นหนังเรื่อง “โป๊ะแตก” กับผม
ป๋าเทพ: ก็ดีถือว่าหาอะไรทำเพลินๆ แก้เซ็ง แต่กูอยากถามอะไรมึงหน่อย ทำไมมึงต้องเอากูมาโขกสับกับหนังมึงด้วยวะ ด่ากูตลอดทั้งเรื่อง สะใจมึงเลยใช่มั้ย
หม่ำ: โหย พี่เทพอย่าคิดมากน่า มันเป็นคาแร็คเตอร์ ผมให้พี่เล่นเป็นพระเอกเลยนะ
ป๋าเทพ: พระเอกบ้านเกิดมึงอ่ะดิ กูโดนมึงด่าตลอดทั้งเรื่อง ให้กูเล่นเป็นพระเอกทั้งที ทำไมไม่ให้กูเล่นบทดีๆ กว่านี้หน่อยวะ อย่างน้อยกูก็เคยเป็นหัวหน้ามึงมาก่อนนะโว้ย
หม่ำ: โถ่ พี่เทพ งานก็คืองานน่าอย่าคิดมาก เดี๋ยววันหลังผมชวนพี่มาเล่นหนังผมอีกดีมั้ย
ป๋าเทพ: พอแล้วหม่ำ กูร่วมงานกับมึงเรื่องเดียวกูก็ขายหน้าลูกเมียจะแย่อยู่แล้ว มาเยื่ยมที่กองถ่ายทีไร ก็เห็นมึงด่ากูอยู่ทุกวัน
หม่ำ: ได้ข่าวว่าพี่ทำหนังเรื่องใหม่อยู่ใช่มั้ย เอาผมไปเป็นดารารับเชิญด้วยมั้ยพี่เทพ ผมเต็มใจนะ
ป๋าเทพ: ไม่ต้องเลยไอ้หม่ำ หนังกูไม่มีมึงหนังกูก็ดังได้ มึงหัดอ่านหนังสือพิมพ์ดูบ้างมั้ย อ่านออกมั้ย หนังกูแค่เปิดกล้องก็มีนักข่าวสนใจมาทำข่าวเขียนลงหนังสือพิมพ์กันแล้ว “โป๊ะแตก” ของมึง กูยังไม่เห็นข่าวซักตัว
หม่ำ: โหย พี่หนังยังไม่ถึงช่วงเวลาโปรโมท เดี๋ยวถึงช่วงโปรโมทเขาก็ลงข่าวของผมเองแหละ หนังผมได้ 100 ล้านเกือบทุกเรื่องนะพี่
ป๋าเทพ: อะไรมึงเคยทำหนังได้ 100 ล้านด้วยหรอวะ ไอ้หนัง 100 ล้านที่ว่า เค้านับรวมกับแผ่นผีซีดีเถื่อนด้วยหรือเปล่าไอ้หม่ำ
หม่ำ: แล้วพี่ว่าหนังเรื่อง “โป๊ะแตก” ที่พี่เล่นเป็นพระเอกจะได้ตังค์เท่าไหร่
ป๋าเทพ: ก็ 100 ล้านสิวะ ถามได้ไอ้นี่
หม่ำ: อันนี้นับรวมแผ่นผีด้วยหรือเปล่าพี่
ป๋าเทพ: ไม่หรอก คนเขาก็อยากจะเห็นกูเล่นเป็นพระเอกตั้งเยอะแยะ ไม่เหมือนมึงหรอก หน้าตาดั้งแหมบซักขนาดนี้ดันไปเล่นเป็นผู้ดีไฮโซ มึงไม่อายคนบ้านเกิดมึงบ้างหรือไงวะ ข้ามสายพันธุ์มากไปนะมึงอ่ะ
หม่ำ: โหยพี่ก็บอกแล้วไงว่ามันเป็นการแสดง
ป๋าเทพ: มึงถามกูมาเยอะแล้วกูถามมึงกลับบ้างได้มั้ย
หม่ำ: เอาเลยพี่ตามสบาย ผมตอบพี่ได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว
ป๋าเทพ: มึงไปเป็นที่ปรึกษาทีมฟุตบอลยโสธรทำไม หน้าอย่างมึงรู้จักคำว่าฟุตบอล ลูกหนังด้วยเหรอวะ
หม่ำ: โหยพี่ ถามอย่างอื่นดิ เอาเรื่องหนังดีมั้ยพี่ “โป๊ะแตก” อ่ะ อุตส่าห์ร่วมงานกันทั้งทีช่วยกันโปรโมทหน่อย
ป๋าเทพ: อ้าวแล้วดันบอกถามได้ทุกเรื่อง งั้นทำไมมึงอยากจะทำหนังอำวงการบันเทิง ไม่ล้อเลียนการเมืองบ้างวะ
หม่ำ: พี่เทพอินอะไรมากไปหรือเปล่าเนี่ย
ป๋าเทพ: เรื่องของกู ให้ถามเรื่อง “โป๊ะแตก” ก็ถามแล้วนี่ไง
หม่ำ: ก็ไม่มีอะไรพี่ ก็อยู่วงการบันเทิงมานาน ทำหนังมาก็หลายเรื่อง ก็เห็นอะไรหลายๆ อย่างที่พอจะเอามาเล่าเป็นหนังสนุกๆ ได้อีกเรื่องนึง ก็เลยอยากทำ
ป๋าเทพ: แล้วมึงเอากูมาเล่นในบทบ้าๆ นี้ทำไม
หม่ำ: ก็อ่านหนังสือพิมพ์เห็นข่าวพี่โดนฟ้องล้มละลายพอดี ก็เลยเวทนาล่ะพูดอย่างตรงไปตรงมาเลย แล้วถ้าเป็นคนอื่นเล่น คนดูเขาจะไม่อินหรือสนุกสนานเท่ากับพี่เทพเล่น
ป๋าเทพ: มึงรู้ได้ไง มึงเคยลองเอาคนอื่นมาเล่นแล้วหรือไง
หม่ำ: ก็เคยให้ทีมงานเขาลองติดต่อนักแสดงคนอื่นๆ ไป จตุรงค์มันก็ไปสอนเด็กเล่นตลก โก๊ะตี๋มันก็มัวแต่ไปล้วงตับ คือคนอื่นเขามีงานกันหมด เห็นพี่ว่างๆ ก็เลยลองชวนมาเล่นดู แล้วพี่ไม่ชอบหรือไง จะได้มีตังค์ไปปลดหนี้ไง
ป๋าเทพ: ไอ้เงินอ่ะมันก็ดี แต่นักแสดงระดับกูได้คิวละไม่กี่พัน ซื้อหญ้าเลี้ยงควายที่บ้านยังไม่พอเลย
หม่ำ: เอาน่าเก็บเล็กผสมน้อยเดี๋ยวก็เยอะได้เองแหละ แล้วพี่ยังจำคาแร็คเตอร์ของหนังเรื่องนี้ได้อยู่มั้ย เดี๋ยวตอนโปรโมทต้องใช้นะพี่
ป๋าเทพ: ถึงแก่แล้วก็ไม่ได้ความจำสั้น กูก็เล่นเป็นนักแสดงที่มึงจ้างมาเล่น เหมือนชีวิตจริงเลย โดนมึงโขกสับตลอด
หม่ำ: ก็บอกแล้วมันเป็นคาแร็คเตอร์อย่าคิดมาก เดี๋ยววันหลังให้เล่นเป็นผู้กำกับบ้าง
ป๋าเทพ: เรื่องอะไรของมึงอีกอ่ะ
หม่ำ: “ดึก ดำ ดึ๋ย ภาค 2” ไงพี่
ป๋าเทพ: เฮ้ย อย่าเล่นของสูงไอ้หม่ำ เรื่องนั้นเค้ายกขึ้นหิ้งไปแล้ว แต่พอกันที กูร่วมงานกับมึงแค่ครั้งนี้ก็พอแล้ว อย่าติดต่อกูมาเล่นอีกเลยนะไอ้หม่ำ
หม่ำ: แหม น้อยใจอีก
ป๋าเทพ: แล้ว “โป๊ะแตก” เรื่องราวมันเป็นยังไงวะ เล่นมากูยังเล่าเรื่องราวไม่ถูกเลย เห็นโดนมึงด่าทั้งเรื่อง
หม่ำ: ก็เป็นหนังซ้อนหนังไงพี่ ในเรื่องผมเล่นเป็นผู้กำกับ จ้างพี่มาเล่นเป็นพระเอก คนดูก็จะได้เห็นเบื้องหลังการถ่ายหนัง วิธีการทำหนังตามสไตล์ผมกับพี่เทพไง ตลกๆ ล้อเลียนคนนั้นคนนี้บ้าง ขำๆ ไว้ไปดูกัน
ป๋าเทพ: อืม คุยกับมึงแล้วเหนื่อย กูกลับบ้านไปเปิดแผ่น “ดึก ดำ ดึ๋ย” ดูดีกว่า
หม่ำ: โอเคพี่ แต่ผมว่าดูแล้วจะยิ่งเครียดนะพี่
ป๋าเทพ: เรื่องของกู…