กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--ธ.ไทยพาณิชย์
เมื่อวานนี้ (17 พฤษภาคม 2550) กรมสรรพากรได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือในการให้บริการรับแบบแสดงรายการภาษีทางอินเทอร์เน็ตและแบบกระดาษสำหรับผู้ประกอบการและผู้เสียภาษีในท้องที่ ต. เกาะเต่า อ. เกาะพะงัน จ. สุราษฎร์ธานี โดยนายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร ประธานในพิธีร่วมลงนามกับนายจรัมพร โชติกเสถียร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริการบริหารเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการและผู้เสียภาษีสามารถยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีได้ทุกประเภทภาษี ณ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยเกาะเต่า (สุราษฎร์ธานี) โดยสาขาของธนาคารจะเป็นที่รับแบบแสดงรายการและรับชำระภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร ซึ่งจะเปิดรับยื่นแบบฯ และชำระภาษีที่สาขาดังกล่าวได้ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2550 เป็นต้นไป
นายศานิต ร่างน้อย อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “ การให้บริการครั้งนี้ประสบความสำเร็จเพราะได้รับความร่วมมือจากธนาคารไทยพาณิชย์ มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยของทั้ง 2 หน่วยงานมาร่วมให้บริการที่ดีแก่ผู้ประกอบการและผู้เสียภาษีทำให้ผู้เสียภาษีในท้องที่ ต.เกาะเต่าได้รับความสะดวก รวดเร็วในการชำระภาษีและยังช่วยให้กรมฯ ประหยัดงบประมาณและอัตรากำลัง จากการส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปรับแบบฯ การชำระภาษีเดือนละ 2 ครั้ง คือ ในวันที่ 6-7 และในวันที่ 14-15 ของทุกเดือน จึงขอเชิญชวนให้ผู้เสียภาษีในท้องที่ดังกล่าว ใช้บริการยื่นแบบฯ และชำระภาษีได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2550 เป็นต้นไป ซึ่งกรมฯ จะพิจารณาขยายการให้บริการในลักษณะนี้ไปยังพื้นที่อื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย ”
นายจรัมพร โชติกเสถียร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริการบริหารเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ธนาคารได้มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้ครอบคลุมทุกๆ ความต้องการของลูกค้า โดยมีนโยบายในการเป็นธนาคารชั้นนำที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร หรือ The Premier Universal Bank เพื่อรองรับการดำเนินงานของลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจทั้งในภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป ในครั้งนี้ธนาคารได้นำบริการบริหารเงินเพื่อธุรกิจ หรือ SCB Business Cash Management มาให้บริการแก่กรมสรรพากร ซึ่งจะเป็นช่องทางในการชำระภาษีได้อีกทางหนึ่งและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ต.เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี โดยประชาชนและผู้ประกอบการที่ชำระภาษีอากรจะได้รับความสะดวกสบายในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีผ่านเครือข่ายต่างๆ ของธนาคาร ทั้งเคาน์เตอร์สาขา, Internet Banking และเครื่อง ATM เป็นการช่วยลดระยะเวลาและอุปสรรคด้านการเดินทางของประชาชนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ในส่วนของกรมสรรพากรก็จะสามารถจัดเก็บภาษีอากรได้อย่างครบถ้วนตามเป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการบริหารจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนำไปพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป”