ผลวิจัยชี้อย่างน้อย 86% ของสถาบันการเงินในเมืองไทย พึ่งพาการสำรองข้อมูล(Storage back up) และการเก็บข้อมูลระยะยาว(Archive)

ข่าวทั่วไป Monday November 14, 2005 16:17 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง
ผลวิจัยชี้อย่างน้อย 86% ของสถาบันการเงินในเมืองไทย พึ่งพาการสำรองข้อมูล (Storage back up) และการเก็บข้อมูลระยะยาว (Archive)ธนาคาร 57%, บริษัทประกัน 50%, โบรกเกอร์ 11% เตรียมอัพเกรดระบบสำรองข้อมูล/กู้คืนระบบ ในช่วง 3-12 เดือนข้างหน้า
จากผลการศึกษาของ Financial Insights (บริษัทในเครือของไอดีซี) ระบุว่า อย่างน้อย 86% ของสถาบันด้านการเงินของไทย พึ่งพากระบวนการสำรองข้อมูล (storage back up) และการเก็บข้อมูลระยะยาว (archive) เพื่อให้ข้อมูลพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับในเรื่องการคุ้มครองและความพร้อมใช้งานของข้อมูล การศึกษาดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากอีเอ็มซี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตรวจสอบกฎระเบียบเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล การปกป้องข้อมูล และสถานะความพร้อมของสถาบันการเงินในประเทศไทยในการปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับและกลยุทธ์ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางด้านธุรกิจจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
จากการศึกษาของ Financial Insights พบว่า ถึงแม้สถาบันการเงินบางแห่งจะตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่อรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจและการกู้คืนระบบ รวมถึงความสำคัญของแผนงานเกี่ยวกับการรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ แต่ผลการศึกษาชี้ว่า โดยทั่วไปแล้วสถาบันการเงินไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ (50%) สามารถดำเนินการตามเป้าหมายในระดับที่ยอมรับได้สำหรับการกู้คืนระบบ และในความเป็นจริงแล้ว ระบบธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรเหล่านี้ได้รับการคุ้มครองน้อยกว่าที่คิด
สถาบันการเงินเกือบทุกแห่งตระหนักว่าองค์กรของตนมีภาวะเสี่ยง โดยจากผลการสำรวจความคิดเห็น พบว่า 57% ของธนาคาร, 50% ของบริษัทประกัน และ 11% ของบริษัทโบรกเกอร์ จะมุ่งเน้นการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยจะมีการอัพเกรดในส่วนของเทคโนโลยีที่รองรับ เช่น การปกป้องข้อมูลอย่างต่อเนื่อง (Continuous Data Protection - CDP) ซึ่งช่วยให้สามารถสำรองข้อมูลในเดสก์ทอปและเซิร์ฟเวอร์ในแบบเรียลไทม์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้ไม่จำเป็นต้องสำรองข้อมูลเป็นชุดๆ ในแต่ละวันหรือแต่ละสัปดาห์
“สถาบันการเงินของไทยกำลังจะเข้าสู่ "ช่วงปรับเปลี่ยน" ครั้งใหม่ ในขณะที่หน่วยงานที่กำกับดูแลกำลังปรับใช้มาตรฐานระดับสากล ปัญหาเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบนับเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นความต้องการด้านการจัดเก็บข้อมูลและการเก็บข้อมูลระยะยาว ในขณะที่การรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจยังคงเป็นปัญหาท้าทายที่สำคัญ” ดร. ธัชพล โปษยานนท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทยของอีเอ็มซี กล่าว
มร. ไซรัส ดารูวาลา กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัยและให้คำปรึกษาประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของ Financial Insights กล่าวว่า “จากมุมมองทางด้านการรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจและการกู้คืนระบบ สถาบันการเงินในเมืองไทยกำลังอยู่ในขั้นเตรียมการในหลากหลายระดับ โดยสถาบันการเงินบางแห่งมีความพร้อมอย่างมาก ในขณะที่บางแห่งแทบจะไม่ได้เตรียมตัวเพื่อรับมือกับเรื่องนี้ เราคิดว่าสาเหตุหลักสืบเนื่องมาจากการขาดนโยบายที่เข้มงวด รวมทั้งการบังคับใช้และบทลงโทษของหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแล”
ส่วนหนึ่งของข้อมูลสำคัญที่ได้รับจากการศึกษาในครั้งนี้:
-โดยทั่วไปแล้ว สถาบันการเงินของไทยไม่ได้ทดสอบแผนงานด้านการรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ/การกู้คืนระบบ (Backup/Disaster Recovery) อย่างสม่ำเสมอ และ 4 ใน 10 ของสถาบันการเงินดำเนินการทดสอบปีละครั้งเท่านั้น ในขณะที่บริษัทหลักทรัพย์จะดำเนินการทดสอบอย่างสม่ำเสมอทุก 3-6 เดือน
-ภัยคุกคามที่สำคัญสำหรับการรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ ความล้มเหลวในการคุ้มครองข้อมูล (43-50% ระบุว่าเป็น “ภัยคุกคามสูงสุด”) และความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์ในดาต้าเซ็นเตอร์ (14-44% ระบุว่าเป็น “ภัยคุกคามสูงสุด”)
-โดยเฉลี่ยแล้ว การหยุดทำงานของระบบซึ่งเป็นผลมาจากความผิดปกติของฮาร์ดแวร์/ซอฟต์แวร์และระบบไอที เกิดขึ้น 1-3 ครั้ง (สำหรับ 56-75% ของผู้ตอบแบบสอบถาม) ภายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ส่วนบริษัทอื่นๆ ที่เหลือ (22-29%) ประสบปัญหาระบบหยุดทำงาน 3-5 ครั้ง ในขณะที่ 1 ใน 4 ของบริษัทประกัน (25%) และ 2 ใน 9 ของบริษัทหลักทรัพย์ (22%) ระบุว่าไม่เคยประสบปัญหาในช่วงเวลาดังกล่าว
-ในกรณีที่ระบบหยุดทำงานหรือล้มเหลว เวลาในการกู้คืนสำหรับระบบโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 6-12 ชั่วโมงสำหรับธนาคาร และบริษัทหลักทรัพย์ ในขณะที่บริษัทประกันในปัจจุบันต้องการให้ระบบกลับมาทำงานได้ภายใน 24 ชั่วโมง ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดว่าเวลาสำหรับการกู้คืนระบบสำหรับธุรกิจธนาคารอยู่ที่ 24 ชั่วโมง ซึ่งขัดแย้งกับมาตรฐานสากลของการกู้คืนระบบที่แนะนำโดย รัฐบาลกลางของสหรัฐฯ (US Fed), คณะกรรมการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ (OCC) และ คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ซึ่งอยู่ที่ 4 ชั่วโมง
-ปัญหาเรื่องความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด ได้แก่ ปัญหาภัยคุกคามต่อเครือข่ายซึ่งเป็นผลมาจากการใช้งานเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและการลักลอบดักจับข้อมูลในระหว่างการรับส่ง (25-57% ระบุว่าเป็น “ปัญหาที่สำคัญที่สุด”) และภัยคุกคามต่อแอพพลิเคชั่นซึ่งเป็นผลมาจากเวิร์มและไวร้ส (29-50% ระบุว่าเป็น “ปัญหาที่สำคัญที่สุด”)
-ด้วยเหตุนี้ ส่วนใหญ่จึงมองเห็นความจำเป็นในการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อปรับปรุงสถาปัตยกรรมทางด้านแอพพลิเคชั่นและโครงสร้างพื้นฐาน และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายด้านการรักษาความปลอดภัยภายในองค์กร รวมถึงกฎระเบียบของรัฐบาล (25-86% ระบุว่ากฎระเบียบเป็นปัจจัยที่ “สำคัญที่สุด” สำหรับการลงทุนด้านระบบรักษาความปลอดภัย)
-โดยมากแล้ว สถาบันการเงินได้ลงทุนในซอฟต์แวร์สำหรับการจัดการเอกสาร (33-75%) และการจัดการเว็บคอนเทนต์ (25-50%)
อีเอ็มซีในธุรกิจบริการด้านการเงิน
ในปัจจุบัน โซลูชั่นของอีเอ็มซีได้รับการติดตั้งภายในบริษัทหลักทรัพย์ที่ติดอันดับ Fortune 500 รวมถึงธนาคารชั้นนำของโลก 24 แห่งจาก 25 อันดับสูงสุด และบริษัทประกัน 45 แห่งจาก 50 อันดับสูงสุด โซลูชั่นการรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจของอีเอ็มซีได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายโดย 75 เปอร์เซ็นต์ของสถาบันการเงินชั้นนำ
โซลูชั่นการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการจัดการคอนเทนต์ภายในองค์กรของอีเอ็มซีจะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปฏิบัติตามข้อบังคับ ลดความเสี่ยงทางด้านกฎหมาย และประหยัดค่าใช้จ่าย โซลูชั่นแพลตฟอร์มสตอเรจแบบแบ่งระดับชั้นของอีเอ็มซี รวมถึงระบบสตอเรจแบบ content addressed storage (CAS) ในตระกูล EMC Centera สำหรับการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว จะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่าย เพื่อตอบสนองความต้องการในด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ข้อมูลเกี่ยวกับ Financial Insights ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไอดีซี
Financial Insights เป็นบริษัทในเครือของไอดีซี ทำการวิจัยอิสระ และการศึกษาโดยละเอียดสำหรับลูกค้าหลายราย ในประเด็นและปัญหาท้าทายทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งอุตสาหกรรมบริการด้านการเงินกำลังเผชิญอยู่ การศึกษาวิจัยทั่วโลกของเราครอบคลุมหัวข้อต่างๆ ที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อธนาคาร บริษัทประกัน บริษัทจัดการสินทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ และโบรกเกอร์ การดำเนินงานของเราในระดับท้องถิ่นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ยุโรป ละตินอเมริกา และแคนาดา ช่วยให้เราได้รับข้อมูลเชิงลึกในระดับภูมิภาค Financial Insights ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไอดีซี มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองฟรามิงแฮม รัฐแมสซาชูเส็ตต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ไอดีซีเป็นบริษัทในเครือของไอดีจี ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในด้านสื่อ การวิจัย และสัมมนาทางด้านไอที
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.financial-insights.com
ข้อมูลเกี่ยวกับอีเอ็มซี
อีเอ็มซี เป็นผู้นำแห่งโลกธุรกิจระบบสตอเรจ ที่คิดค้นทั้งระบบ, ซอฟต์แวร์, ระบบเครือข่าย และ การให้บริการต่างๆ ทั้งยังพัฒนาโซลูชั่นสำหรับการบริหารระบบเครือข่ายข้อมูลเพื่อช่วยให้หน่วยงานต่างๆ ทั่วโลกสามารถดึง และปรับใช้ข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่ในแต่ละส่วนของวงจรข้อมูลนั้นๆ ได้ในระดับสูงสุดโดยใช้ต้นทุนต่ำที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอีเอ็มซี สามารถรับได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.thailand.EMC.com
สำหรับสื่อมวลชน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Khoo Yin
Senior Marcom Specialist
EMC South Asia
Tel: +65-6427-1741
Fax: +65-6333-6878
Email: khoo_yin@emc.com
Local PR agency contact
เมธาวี เฉลิมธนศักดิ์
บริษัท พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง จำกัด
Tel: 0-2971-3711
Fax : 0-2521-9030
Email : Maythavee@pc-a.co.th--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ