กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์
จากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ที่เร่งเร้ารุนแรงในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อวิกฤติทางด้านวัฒนธรรม คุณธรรม และค่านิยมของเด็กและเยาวไทย โดยสะท้อนออกมาทางพฤติกรรม การแสดงออกถึงความรุนแรง และปัญหาทางด้านอาชญากรรมต่าง ๆ ในสังคมไทย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่คนในสังคมควรตระหนักและร่วมกันเยียวยาแก้ไขที่ต้นเหตุของสังคม คือ การร่วมปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงามให้แผ่กระจายไปทั่วทั้งสังคม
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงมีพระดำริว่า เยาวชนไทย ควรได้รับการศึกษาที่สมบูรณ์ทั้งด้านวิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิต จึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ผู้เป็นความหวังของสังคมไทยที่ถึงพร้อมทั้ง “ความรู้ คู่ คุณธรรม” ดังนั้น เพื่อให้พระดำรินี้มีสัมฤทธิผล เป็นรูปธรรมจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี” หรือ “ท่าน ว.วชิรเมธี” พระนักคิด นักเขียน นักเทศน์ และนักพัฒนาผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีทั้งประเทศ ทั้งยังมีทักษะในการ นำธรรมะเข้าสู่เยาวชนอย่างมีชีวิตชีวาและทันสมัยให้เป็น “ผู้อำนวยการโครงการ ‘หนึ่งใจ...ให้ธรรมะ’ ” เพื่อเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนธรรมะเข้าสู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ระดับแกนนำ โดยเริ่มต้นจากการคัดเลือกนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากทั่วทุกภาคของประเทศไทยเข้าร่วมในโครงการนี้
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงเผยถึงแรงบันดาลใจในการริเริ่มโครงการ “หนึ่งใจ...ให้ธรรมะ” ไว้ว่า
“เยาวชน คือ ผู้กำหนดชะตากรรมของมนุษยชาติ, คือ เมล็ดพันธุ์ของความสุขและสันติภาพ, สังคม ประเทศ และโลกจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับเยาวชนเป็นสำคัญ หากเยาวชนของเรามีความรู้ มีความคิด มีความดี มีจิตสำนึกสาธารณะ และมีภาวะผู้นำ สังคมไทยก็มีหลักประกันว่าจะเป็นสังคม แห่งความอยู่เย็นเป็นสุขอย่างยั่งยืน
คุณธรรมของเยาวชน คือ คุณภาพชีวิตของคนทั้งประเทศ”
พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) ผู้อำนวยการโครงการ “หนึ่งใจ...ให้ธรรมะ” เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวมุ่งพัฒนาเยาวชนไทยให้มี “ความรู้ คู่ คุณธรรม” เริ่มต้นครั้งแรกที่ภาคเหนือและจะกระจายจนครบทั่วทุกภาคของประเทศไทย ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ ๒๕๕๓ นั้น จะจัดขึ้นจำนวน ๕ ครั้ง ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง พิษณุโลก และสุโขทัย โดยมีนักเรียนเข้าร่วมโครงการครั้งละจำนวน ๒๐๐ คน โดยมีการคัดเลือกโรงเรียนในแต่ละจังหวัดเข้าร่วมโครงการ
“นักเรียนในระดับชั้นมัธยมปลายนั้น เป็นกลุ่มของผู้ที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนปลาย ผู้ใหญ่ตอนต้น ซึ่งถือเป็นจุดหักเหหรือจุดเปลี่ยนของชีวิต (Turning Point) ซึ่งหากเด็กกลุ่มนี้มีความรู้แต่ขาดคุณธรรม จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่สมองโต หัวใจตีบ คือเป็นผู้ที่มีความรู้แต่ขาดทักษะในการบริหารความรู้ มีความฉลาดแต่ไม่มีจรรยาบรรณในการบริหารความฉลาด โครงการดังกล่าวมุ่งปลูกฝังให้เยาวชนนั้นมีความรู้คู่คุณธรรม เพื่อให้เยาวชนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และเป็นอนาคตของชาติได้ในที่สุด
สำหรับหลักสูตรของการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย 2 หลักสูตรใหญ่ ได้แก่ หลักสูตร 3 สิกขา 4 พัฒนาการ และ 3 วิชา กับ 5 ทักษะชีวิต
โดยหลักสูตร 3 สิกขา 4 พัฒนาการนั้น เป็นหลักสูตรที่สอนในเรื่องของไตรสิกขา คือ ศีล เป็นเรื่องของความมีระเบียบวินัย สมาธิ เป็นเรื่องของการฝึกสมาธิ และปัญญา เป็นเรื่องของการเรียนรู้ สำหรับ 4 พัฒนาการซึ่งเป็นตัวชี้วัด ได้แก่ กาย สังคม จิต และปัญญา
สำหรับหลักสูตร 3 วิชา ได้แก่ วิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิต และ 5 ทักษะชีวิต ซึ่งเป็นธรรมะที่สอดแทรกลงไปในจิตใจของเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ทักษะในการเรียนรู้ ซึ่งมุ่งเน้นการสอนให้เด็กรู้จักรักการอ่าน เพราะการอ่านจะทำให้มีความรู้และข้อมูลมากขึ้น หากรักการอ่านประตูจะเปิดทุกแห่งหน ทักษะในการมีจิตสำนึกสาธารณะ คือ การแบ่งปันและการอุทิศเพื่อสังคม โดยมีกิจกรรมเพื่อสังคมให้เด็กและเยาวชนได้ร่วมกันปฏิบัติด้วย ทักษะภาวะผู้นำ คือ การค้นหาความฝัน และดำเนินชีวิตเพื่อให้บรรลุในสิ่งที่ตนเองใฝ่ฝัน ทักษะการค้นหาศักยภาพแห่งตน คือ การค้นหาตัวตนของตัวเองให้เจอ และทักษะการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน” ว.วชิรเมธีกล่าว
ทั้งนี้ กิจกรรมครั้งแรกจะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ ๒๑ —๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ณ ศูนย์วิปัสสนาไร่เชิญตะวัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยการอำนวยการของพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ร่วมด้วยวิทยากรพิเศษร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อให้เยาวชนได้รับมุมมองในทุกมิติ และมีความรู้ที่หลากหลาย เช่น แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์, ป๊อด โมเดิร์น ด๊อก, โอปอล์ ปาณิสรา พิมพ์ปรุ, วีเจโจ๊ก เกียรติยศ เกียรติสูงส่ง โดยน้องๆ ทุกคนที่ร่วมโครงการจะได้รับการฝึกทักษะในการเรียนรู้, การมีจิตสำนึกสาธารณะ, การสร้างภาวะผู้นำ, การค้นหาศักยภาพแห่งตน, และการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน อย่างเข้มข้นเป็นเวลา ๓ วัน ๒ คืน
ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา รองประธานมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ เป็นประธานแทนพระองค์ในการมอบวุฒิบัตรแก่ผู้สำเร็จการอบรมด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดของโครงการเพิ่มเติม ได้ที่ โทร. ๐๒ — ๔๒๒ — ๙๑๒๓, ๐๘๑ — ๑๖๗ — ๗๒๗๓, ๐๘๙ — ๒๐๐ — ๕๑๗๒