กรุงเทพฯ--20 พ.ค.--IR Network
“เบน เตชะอุบล” ขึ้นรั้งตำแหน่ง “กรรมการผู้จัดการใหญ่” ของ บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ หรือ CGD ภายหลังจากที่ “จเรรัฐ ปิงคลาศัย” ซึ่งได้ขอลาออกจากทั้งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท มีผลตั้งแต่ 17 พ.ค. 2553 พร้อมเปิดแผนลุยธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เตรียมผุดโครงการอาคารชุดที่พักอาศัย Elements มูลค่าโครงการ ประมาณ 2,200 ล้านบาท บนถนนศรีนครินทร์ ระบุจะเป็นอีกไลน์ธุรกิจที่ช่วยผลักดันผลประกอบการของบริษัทให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต และกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานแกร่งของนักลงทุน
บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CGD (เดิมชื่อ บริษัท ดราก้อน วัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2553 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2553 ได้รับทราบ การลาออกของ นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย จากการเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท มีผลตั้งแต่ วันที่ 17 พฤษภาคม 2553 เนื่องจากมีภารกิจอื่นที่ต้องปฏิบัติ จึงไม่สามารถอุทิศเวลาให้กับการดำเนินงานในฐานะผู้บริหารของบริษัทได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม นายจเรรัฐฯ ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการของบริษัท และกรรมการบริษัท เอ-โฮสต์ จำกัด
พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้แต่งตั้ง นายเบน เตชะอุบล เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2553
นอกจากนี้ยังได้มีการอนุมัติแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โครงการอาคารชุดพักอาศัย ที่ถนนศรีนครินทร์ บนพื้นที่ขนาด 13 ไร่ 89 ตารางวา โดยจะชื่อโครงการว่า Elements มีลักษณะเป็น อาคารชุด 8 อาคาร สูง 8 ชั้น รวม 1,115 ห้อง มูลค่าโครงการ ประมาณ 2,200 ล้านบาท สำหรับเงินที่ใช้ในการลงทุนจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนบริษัท และจากสถาบันการเงิน และมีระยะเวลาดำเนินการของโครงการตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2553 - กรกฎาคม 2555
นายเบน เตชะอุบล กรรมการผู้จัดการ บมจ. คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) เปิดเผยว่าโครงการ Elements มีการศึกษาถึงความเป็นไปได้ของโครงการอย่างละเอียดรอบด้าน เพื่อพัฒนาที่ดินดังกล่าวให้สามารถก่อประโยชน์สูงสุดให้แก่บริษัท ซึ่งจากการศึกษาข้อมูล พบว่าที่ดินดังกล่าวเหมาะสมที่จะพัฒนาเป็นอาคารชุดที่พักอาศัย เพราะอยู่ในทำเลที่ตั้งที่ดีมาก คืออยู่ตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ มีระยะทางจากห้างสรรพสินค้ามายังพื้นที่ดังกล่าวเพียงประมาณ 130 เมตร และยังอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าเสรีเซ็นเตอร์ ซึ่งในปัจจุบันกำลังปรับปรุงให้เป็นห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในบริเวณนั้นด้วย
“เราเชื่อว่าโครงการ Elements จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค เพราะนอกจากโลเคชั่นที่ดีที่สุดแล้ว ทีมงานได้มีศึกษาข้อมูลมาอย่างละเอียด โดยเฉพาะการรวบรวมเอาจุดอ่อนและจุดด้อยของโครงการอื่นๆ มาศึกษาและแก้ไข เพื่อให้โครงการ Elements เป็นโครงการที่สมบูรณ์แบบที่สุด สามารถนำเสนอให้ตรงกับใจของผู้บริโภคได้มากที่สุด ดังนั้นเชื่อว่าเมื่อใดที่เปิดตัวโครงการจะได้รับความสนใจอย่างล้นหลามแน่นอน”
เขากล่าวต่อว่าการขยายไลน์ธุรกิจของ CGD ไปสู่โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงให้กับบริษัท รวมถึงผลักดันให้ผลประกอบการของ CGD ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งอีกหนึ่งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ