กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--เอสเอสไอ
แผนธุรกิจใหม่เอสเอสไอสดใส ล่าสุดประสบความสำเร็จด้านผลิตและการขาย โรงงานทำสถิติใหม่ยอดผลิตเดือนมีนาคม 286,607 ตัน สูงสุดของประเทศไทย ในขณะที่ยอดส่งมอบเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนไตรมาสแรกทะลุ 679,049 ตัน เผยอุตสาหกรรมต่อเนื่องฟื้นตัว ลูกค้าไว้วางใจซื้อเพิ่ม
ฝ่ายการผลิต โรงงานเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน ( HSM ) อำเภอบางสะพาน บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ เปิดเผยรายงานการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนประจำเดือนมีนาคม 2553 ว่า บริษัทสามารถผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนได้ทั้งสิ้น 286,607 ตัน นับเป็นสถิติสูงสุดของบริษัทเหล็กของคนไทย จากสถิติปริมาณการผลิตสูงสุด 263,162 ตัน ต่อเดือนเมื่อเดือน มิถุนายน ปี 2549 และ บริษัทมียอดการผลิตในไตรมาสแรก 2553 ทั้งสิ้น 689,831 ตันนับเป็นยอดผลิตรายไตรมาสสูงสูดของบริษัทและของบริษัทเหล็กในประเทศไทยเช่นเดียวกัน จากสถิติยอดการผลิตสูงสุด 655,565 ตันในไตรมาสที่ 4 ปี 2552
ในส่วนของการส่งมอบผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน เดือนมีนาคม 2553 บริษัทส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าทั้งสิ้น 247,238 ตัน จากเดิมที่บริษัททำลายสถิติส่งมอบผลิตภัณฑ์สูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาจำนวนทั้งสิ้น 254,365 ตัน และรวมในไตรมาสแรก 2553 บริษัทมีปริมาณส่งมอบผลิตภัณฑ์ 679,049 ตัน ซึ่งเป็นปริมาณการส่งมอบผลิตภัณฑ์รายไตรมาสสูงสุดของบริษัทและของบริษัทเหล็กในประเทศไทยเช่นเดียวกัน จากสถิติปริมาณการส่งมอบสูงสุด 556,068 ตันในไตรมาสที่ 2 ปี 2549 ทั้งนี้ ในปี 2553 เอสเอสไอตั้งเป้าหมายการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนและส่งมอบให้กับลูกค้า 2.7 ล้านตัน
นายวิน วิริยประไพกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี หรือ เอสเอสไอ เปิดเผยว่า นับเป็นผลสำเร็จและการเริ่มต้นที่ดีสำหรับแผนธุรกิจของบริษัทฉบับใหม่สำหรับปี 2553 — 2555 ที่บริษัทประสบความสำเร็จที่ในเชิงการผลิต และการส่งมอบผลิตภัณฑ์ ซึ่งทำให้บริษัทมั่นใจว่าในแนวทางการดำเนินงานตามวิสัยทัศน์และพันธกิจใหม่ ได้แก่ “สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เหล็กและบริการที่มีมูลค่าเพิ่มกับลูกค้า สร้างกำไรสม่ำเสมอ สร้างผลตอบแทนแก่ผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน” ซึ่งมุ่งเน้นการเติบโตตามแนวทางยุทธศาสตร์เหล็กแผ่นชั้นคุณภาพพิเศษ ด้วยการคิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า
“การประสบความสำเร็จดังกล่าวนอกจากจะเป็นผลมาจากการอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ อุตสาหกรรมรถยนต์ ที่มีปริมาณการผลิตมากขึ้น ความไว้วางใจของลูกค้าที่มีในผลิตภัณฑ์และบริการบริษัทแล้ว เอสเอสไอยังได้พัฒนาปัจจัยเกื้อหนุนหลายประการ ทั้งความสามารถในการจัดซื้อวัตถุดิบคุณภาพสูงจากแหล่งใหม่ที่มีต้นทุนแข่งขันได้ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ ปรับปรุงประสิทธิภาพของกระบวนการจำหน่ายเพื่อจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้นทำให้บริษัทสามารถเพิ่มปริมาณการขายเหล็กแผ่นชั้นคุณภาพสูงได้มากขึ้นและมีอัตรากำไรสูงขึ้นทั้งภายในประเทศ และ ปริมาณการส่งออก นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อเพิ่มอัตราการผลิต ลดส่วนสูญเสีย การดูแลบำรุงรักษาเครื่องจักรอย่างดี และลดการใช้พลังงาน รวมถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเทคโนโลยี ผลิตบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เหล็กและบริการของบริษัทมีคุณภาพสูงขึ้น ในปริมาณที่มากขึ้นและมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ประการสำคัญก็คือความมุ่งมั่น ทุ่มเทของพนักงานทุกคนในการปฏิบัติเพื่อให้บริษัท