ไซแมนเทค เข้าซื้อกิจการด้านระบบความปลอดภัยสำหรับธุรกิจจาก เวอริไซน์

ข่าวเทคโนโลยี Monday May 24, 2010 11:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--ไซแมนเทค เสริมความแข็งแกร่งในด้านการปกป้องสารสนเทศและการยืนยันตัวตนออนไลน์ที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สูงสุดในโลก การเพิ่มความเชื่อมั่นบนโลกออนไลน์ผ่านระบบความปลอดภัยแบบอิงตัวบุคคล ช่วยไซแมนเทคสานวิสัยทัศน์ระบบประมวลผลรูปแบบใหม่ให้เป็นจริง ไซแมนเทค คอร์ปอเรชัน (Nasdaq: SYMC) เปิดเผยถึงการทำสัญญาเข้าซื้อกิจการ เวอริไซน์ (VeriSign - Nasdaq: VRSN) ผู้ให้บริการด้านการระบุและยืนยันตัวตนของธุรกิจออนไลน์ อันประกอบไปด้วยบริการใบรองรับสำหรับ SSL (Secure Sockets Layer) บริการการเข้ารหัสแบบ PKI (Public Key Infrastructure) บริการเวอริไซน์ทรัสต์เซอร์วิสเซส (Verisign Trust Services) และบริการยืนยันตัวตน VIP (Verisign Identity Protection) ซึ่งผลิตภัณฑ์ บริการ และชื่อเสียงของเวอริไซน์นั้นได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์ที่น่าเชื่อถือสูงสุด ซึ่งเมื่อผนวกกับโซลูชันชั้นนำด้านความปลอดภัยของไซแมนเทคที่ได้รับความนิยมทั่วโลก จะช่วยให้ ไซแมนเทค สามารถขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ในการสร้างโลกที่ผู้คนสามารถเข้าถึงสารสนเทศได้จากทุกสถานที่อย่างปลอดภัยและง่ายดาย "ด้วยความยากในการระบุตัวตนของสังคมอินเทอร์เน็ตและพัฒนาการของภัยคุกคาม ที่มีมากขึ้น ทำให้ผู้คนและองค์กรต่างกำลังประสบความลำบากในการรักษาความน่าเชื่อถือทั้งในด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน ข้อมูลสารสนเทศ และด้านการยืนยันตัวบุคคลบนโลกออนไลน์ ในเวลาเดียวกันเมื่อชีวิตส่วนตัวและชีวิตในด้านการงานของผู้คนได้ถูกควบรวมเข้าด้วยกัน เราจึงต้องการความสามารถในการใช้อุปกรณ์ดิจิตอลที่แตกต่างกันไปในการเข้าถึงข้อมูลจากสถานที่ต่างๆ โดยไม่กระทบกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้" เอนริคเก้ ซาเล็ม ประธานและซีอีโอของ ไซแมนเทค กล่าว "ระบบสารสนเทศกำลังประสบกับความท้าทายใหม่ในการมอบช่องทางในการเข้าถึงให้แก่ผู้ใช้ ในขณะที่บริษัทเองก็ต้องปกป้องข้อมูลขององค์กรจากความเสี่ยงต่างๆ ด้วย เราเชื่อว่าทางออกในการรับมือกับความซับซ้อนดังกล่าวนั้นอยู่ที่ระบบความปลอดภัยแบบอิงตัวบุคคลที่ให้ความเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งเมื่อมีการควบรวมผลิตภัณฑ์และช่องทางในการเข้าถึงตลาด ทั้งจาก ไซแมนเทค และ เวอริไซน์ ทำให้เรามีความมั่นใจในการขับเคลื่อนระบบความปลอดภัยแบบอิงตัวบุคคลเพื่อนำไปสู่ช่องทางในการเข้าถึงสิ่งต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายจากทุกสถานที่ สามารถป้องกันการปลอมแปลงตัวบุคคลบนโลกออนไลน์ และเพื่อทำให้ประสบการณ์บนโลกออนไลน์นั้นมีความเป็นมิตรกับผู้ใช้ได้อย่างไร้ความกังวล" ภายใต้ข้อตกลงและสัญญาดังกล่าว ไซแมนเทค จะเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ระบุข้างต้นจาก เวอริไซน์ อันรวมถึงการเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ เวอริไซน์ที่ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้ราคาประมาณ 1,280 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไซแมนเทคคาดว่าธุรกรรมดังกล่าวจะส่งผลให้กำไรต่อหุ้นลดลงประมาณ 9 เซนต์ อ้างอิงตามรายได้สุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานทางบัญชีสำหรับงบดุลปี พ.ศ. 2554 ด้วยเหตุที่ราคาซื้อดังกล่าวได้ถูกลงบัญชีในฐานะรายได้รอการตัดบัญชี และจะเพิ่มกำไรต่อหุ้นได้ในไตรมาสเดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2554 อ้างอิงตามรายได้สุทธิที่ไม่ได้คำนวณตามมาตรฐานทางบัญชี อย่างไรก็ดีสัญญาดังกล่าวยังคงต้องรอการพิจารณาเงื่อนไขต่างๆ อันรวมไปถึงการได้รับอนุมัติจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง และคาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาสสองหรือ กันยายนปีนี้ สู่วิสัยทัศน์ใหม่ในด้านการประมวลผล ข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวได้ช่วยให้ ไซแมนเทค สามารถนำระบบความปลอดภัยแบบอิงตัวบุคคลมาเป็นส่วนหนึ่งของชุดโซลูชันทำให้ไอทีสามารถยอมรับโมเดลการทำงานแบบใหม่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud) ไปจนถึงระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ และ โมบายคอมพิวติ้ง ไปจนถึงการเข้าใช้งานระบบผ่านอุปกรณ์ดิจิตอลส่วนตัวของผู้ใช้ ซึ่งพร้อมมอบประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและทางเลือกอันเป็นอิสระแก่พนักงานและลูกค้าขององค์กร โดยแนวทางดังกล่าวนั้นมีรากฐานมาจากแนวคิด 5 ประการ ที่ ไซแมนเทค ได้นำเสนอในฐานะส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ใหม่ด้านการประมวลผลคอมพิวเตอร์ อันประกอบด้วย: ? ระบบความปลอดภัยแบบอิงตัวบุคคล: ช่วยพิสูจน์ตัวบุคคลผู้ใช้และเว็บไซต์ว่าเป็นตัวตนจริงดังกล่าวอ้าง ? ระบบความปลอดภัยบนโลกโมบายและอุปกรณ์อื่นๆ: มอบความปลอดภัยให้แก่อุปกรณ์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ดิจิตอลชนิดต่างๆ รวมไปถึงข้อมูลทั้งหมดที่อยู่บนอุปกรณ์ดังกล่าว ? ปกป้องสารสนเทศ: ช่วยปกป้องข้อมูลจากการสูญหาย ถูกโจมตี ถูกโจรกรรม และถูกใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง พร้อมมอบแนวทางในการกอบกู้ข้อมูลดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที ? สารสนเทศแบบอิงตามคุณลักษณะ: นำเสนอข้อมูลที่สอดคล้องกับผู้ใช้งานโดยพิจารณาแบ่งแยกได้ทั้งในบทบาทหน้าที่การงานและการใช้งานส่วนตัว ? ความปลอดภัยบนการประมวลผลแบบคลาวด์: มอบความปลอดภัยในการขับเคลื่อนแอพพลิเคชันและสารสนเทศทั้งจากระบบคลาวด์แบบปิดและแบบสาธารณะ ความสะดวกในการใช้งาน ความเร็วในการทำงาน และการทำงานที่อิงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานในปัจจุบัน ผู้คนซึ่งชีวิตส่วนตัวและชีวิตในการทำงานถูกรวมเข้าด้วยกันบนอุปกรณ์ดิจิตอลกำลังมีมากขึ้น และคนเหล่านี้ก็ต้องการอิสระในการทำงานจากสถานที่ต่างๆ ผ่านอุปกรณ์ของตนเอง ต้องการใช้งานแอพพลิเคชันและร่วมงานกับบุคคลอื่นบนโลกเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อบรรลุเป้าหมายของงานให้สำเร็จ และใช้ชีวิตอยู่บนโลกแห่งระบบเครือข่ายได้ในเวลาเดียวกันด้วย แผนกไอทีขององค์กรได้พยายามตลอดมาในการตอบสนองความคาดหมายของผู้ใช้ด้วยโซลูชันที่เรียบง่าย ปลอดภัย และประหยัดค่าใช้จ่าย ซึ่งระบบประมวลผลแบบคลาวด์ได้มอบช่องทางในการขยายระบบได้ทันทีที่ต้องการ และช่วยขับเคลื่อนแอพพลิเคชันและเดสก์ทอป โดยการมอบโอกาสให้แก่ธุรกิจเพื่อเรียกใช้บริการจากระบบอินเทอร์เน็ต แทนการติดตั้งแอพพลิเคชันลงบนคอมพิวเตอร์ทั้งหมดเหมือนก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ระบบความปลอดภัยแบบอิงตัวบุคคลจะช่วยให้แผนกไอทีสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลต่างๆ ที่ส่งเข้าออกระบบคลาวด์นั้นได้รับการปกป้องอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะผ่านอุปกรณ์ใด และไม่ว่าจะเป็นระบบเครือข่ายและอุปกรณ์ที่องค์กรสามารถเข้าควบคุมดูแลได้หรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้การระบุตัวบุคคลของผู้ใช้ยังช่วยในการนำเสนอข้อมูลเฉพาะที่แต่ละคนสามารถเข้าถึงได้ และยังกำหนดลักษณะการใช้งานหรือการแบ่งปันได้ด้วย โดยไม่ติดข้อจำกัดของอุปกรณ์หรือแอพพลิเคชันใดๆ มอบการสื่อสารออนไลน์ร่วมกันได้อย่างมั่นใจ บริการใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ของ เวอริไซน์ มอบความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้เว็บไซต์ยืนยันว่ากำลังทำธุรกรรมกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย ซึ่งรวมไปถึงความปลอดภัยของข้อมูลต่างๆ ที่มีการแลกเปลี่ยนกับเว็บไซต์ดังกล่าวด้วย โดยเครื่องหมายของ เวอริไซน์ ได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้เว็บไซต์ และเป็นเครื่องยืนยันว่าข้อมูลที่แลกเปลี่ยนระหว่างกันจะได้รับการเข้ารหัสอย่างปลอดภัยตลอดการทำธุรกรรมออนไลน์ ปัจจุบันมีเว็บเซิร์ฟเวอร์มากกว่าหนึ่งล้านแห่งที่ใช้ใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ เวอริไซน์ SSL ผ่านโครงสร้างระบบไอทีที่ประมวลผลการตรวจสอบใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์มากกว่าสองพันล้านรายการในแต่ละวัน ถือได้ว่า เวอริไซน์ นั้นเป็นผู้นำในด้านตลาด SSL อย่างแท้จริง ทั้งนี้ตลาดในส่วนของการยืนยันตัวบุคคลและเซิร์ฟเวอร์นั้นคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2556 ธุรกิจของ ไซแมนเทค ในปัจจุบันพร้อมทั้งสินทรัพย์จาก เวอริไซน์ ได้นำเสนอเทคโนโลยีที่มีขอบเขตครอบคลุมและลึกเพื่อช่วยให้ การสร้างระบบความปลอดภัยแบบอิงตัวบุคคลสำหรับสารสนเทศให้ครบถ้วนยิ่งขึ้น และจะเป็นส่วนสำคัญของโซลูชันด้านความปลอดภัยโดยรวมทั้งหมด การรวมบริการใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ SSL ของ เวอริไซน์ เข้ากับ คริติคอลซิสเต็มโพรเทคชัน (Critical System Protection) หรือ โพรเทคชันสวีตฟอร์เซิร์ฟเวอร์ (Protection Suite for Servers) ของ ไซแมนเทค ทำให้องค์กรสามารถมั่นใจในระดับความปลอดภัยที่สูงขึ้นของเวบเซิร์ฟเวอร์และการพิสูจน์ตัวตน ช่วยให้ผู้ใช้มีความมั่นใจในการทำธุรกรรมออนไลน์ เวอริไซน์ ยังช่วยดูแลการยืนยันตัวตนของผู้ใช้ระบบให้แก่องค์กรผ่านทางบริการ VIP (VeriSign Identity Protection) ที่ทำงานเสริมร่วมกับคุณสมบัติไอเดนติตี้เซฟ (Identity Safe) ในผลิตภัณฑ์ตระกูลนอร์ตัน (Norton) ได้อย่างดี ทั้งนี้บริการ VIP ที่ให้บริการผ่านระบบคลาวด์ยังช่วยบริษัทต่างๆ ให้สามารถทำธุรกิจออนไลน์กับลูกค้า ติดต่อกับพนักงานและพาร์ทเนอร์ ได้อย่างมั่นใจผ่านใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่บนช่องทางต่างๆ อาทิ การ์ด โทเคน (token) หรืออุปกรณ์อื่นๆ อย่างโทรศัพท์มือถือ เพื่อช่วยยืนยันว่าระบบดังกล่าวยินยอมให้ผู้ใช้ที่ถูกต้องเข้าถึงข้อมูลได้เท่านั้น ปัจจุบัน เวอริไซน์ ได้ออกหนังสือรับรอง VIP ให้แก่บุคคลต่างๆ มากกว่าสองล้านรายการ และได้ร่วมมือกับเครือข่ายร้านค้าหลายร้อยแห่ง ด้วยเครือข่ายการจัดจำหน่ายทั่วโลกของ ไซแมนเทค และจำนวนระบบที่ใช้บริการมากกว่าพันล้านระบบ อันรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ของผู้ใช้ทั้งคอมพิวเตอร์พกพา คอมพิวเตอร์ตั้งโตีะ และอุปกรณ์พกพารูปแบบต่างๆ ไปจนถึงคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ระดับองค์กร ทำให้ ไซแมนเทค สามารถจัดเตรียมระบบความปลอดภัยแบบอิงตัวบุคคลผ่านใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่บุคคลทั่วไปและองค์กรธุรกิจต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันบนโลกออนไลน์ระหว่างกัน ร้านค้าออนไลน์ต่างๆ จะเข้าร่วมเครือข่าย VIP มากขึ้นเมื่อใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้มีการถูกใช้งานมากขึ้น และจำนวนร้านค้าออนไลน์ที่มากขึ้นในเครือข่าย VIP ก็หมายถึงประสบการณ์ออนไลน์ที่ปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับลูกค้าในการใช้งานเว็บไซต์ที่เป็นสมาชิกของเครือข่าย และร้านค้าออนไลน์ยังสามารถมั่นใจในลูกค้าได้อย่างปลอดภัยด้วย ไซแมนเทค สามารถขยายระบบนิเวศน์ของเครือข่าย VIP ด้วยการนำเสนอใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้ใช้ผ่านผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์นอร์ตัน เพื่อเป็นช่องทางสำหรับลูกค้าในการสร้างระบบความปลอดภัยเพื่อยืนยันตัวตนได้ทุกขณะเมื่อมีการทำธุรกรรมออนไลน์ นอกจากนี้คุณสมบัติด้านการจัดแบ่งระดับของสารสนเทศผ่านทางโซลูชันดาต้าลอสพรีเวนชัน (Data Loss Prevention) และดาต้าอินไซท์เทคโนโลยี (Data Insight technology) ของ ไซแมนเทค ที่ทำงานร่วมกับบริการระบบความปลอดภัยแบบอิงตัวบุคคล ยังได้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้าด้วยว่า ผู้ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่กำหนดนั้นเป็นผู้ใช้ที่ได้รับการยืนยันอย่างถูกต้องแล้วเท่านั้น บ่งบอกความน่าเชื่อถือบนระบบออนไลน์ เครื่องหมาย เวอริไซน์ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดบนโลกออนไลน์ โดยมีการเรียกแสดงผลมากถึง 175 ล้านครั้งในแต่ละวัน ผ่านเว็บไซต์กว่า 90,000 แห่ง ในมากกว่า 160 ประเทศ โซลูชันระบบความปลอดภัยของ ไซแมนเทค และแบรนด์นอร์ตันได้ช่วยปกป้องระบบคอมพิวเตอร์และผู้ใช้มากกว่าหนึ่งพันล้านรายการทั่วโลก และด้วยสินทรัพย์ด้านระบบความปลอดภัยของ เวอริไซน์ จะทำให้ ไซแมนเทค ถือเป็นผู้นำด้านการสร้างความน่าเชื่อถือบนโลกออนไลน์ได้อย่างแท้จริง และเมื่อธุรกรรมการเข้าซื้อธุรกิจเสร็จสิ้น ไซแมนเทคมีแผนการที่จะรวมเครื่องหมาย เวอริไซน์ เข้ากับตราสัญลักษณ์ใหม่ของ ไซแมนเทค เพื่อสื่อสารถึงผู้ใช้ทั้งในด้านความปลอดภัยในการสื่อสาร ด้านธุรกรรมทางธุรกิจ และด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลออนไลน์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของ เวอริไซน์ ที่ช่วยเสริมการทำงานของผลิตภัณฑ์และบริการจากไซแมนเทค สามารถเยี่ยมชมได้ที่ http://go.symantec.com/verisign สำหรับสื่อมวลชน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ: ที่ปรึกษาฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เอพีพีอาร์ มีเดีย จำกัด เบอร์โทร: 02-655-6633 คุณกณวรรธน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา Kanawat@apprmedia.com คุณบุษกร ศรีสงเคราะห์ Busakorn@apprmedia.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ