กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--แม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์
นางสุพรศรี นาคธนสุกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากได้รับความเชื่อมั่นถึงความครบครัน ด้านอุปกรณ์สำนักงานจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลยอดรายได้ในปี 2549 ของออฟฟิศ เซ็นเตอร์ (Office Centre) สูงถึง 1,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 12% ด้วยความไว้วางใจในด้านการบริการและผลมาจากการขยายสาขา
โดยปัจจุบัน มีอยู่ 20 สาขา สาขาล่าสุดคือที่ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า 2 และนอกจากนี้ยังเป็นผลมาจากการที่ ออฟฟิศ เซ็นเตอร์ (Office Centre) ยังตั้งเป้าขยายตลาดในศูนย์การค้ามากขึ้นจากเดิม โดยล่าสุดมี 3 แห่งคือ ที่ พาวเวอร์ เซ็นเตอร์ (เอกมัย), เซ็นจูรี่ มูฟวี่ พลาซ่า (อนุสาวรีย์ชัยฯ) และที่ พันธุ์ทิพย์พลาซ่า 2 (งามวงศ์วาน) ทำให้กลุ่มลูกค้าสามารถเข้ามาหาซื้อสินค้าได้ง่าย และมีทางเลือกมากขึ้น จากเดิมเน้นแค่ตลาด Stand alone และ Office building เท่านั้น
สำหรับในปี 2550 ออฟฟิศ เซ็นเตอร์ ยังพร้อมรุกอย่างต่อเนื่องหันมามองในเรื่องของการพัฒนาช่องทางการทำธุรกิจ และเน้น อีเพอร์คิวเม้นท์ เป็นการสั่งซื้อทางอิเลคทรอนิคส์ ให้ความสะดวกกับลูกค้า ในกลุ่ม B 2 C อย่างชัดเจนขึ้น โดยมีเป้าหมายใจการพัฒนาช่องทางธุรกิจมากขึ้น เน้นการบริการอย่างใกล้ชิด ตามคอนเซ็ปท์ที่วางไว้ Your Solution for Office Need พร้อมสรรพทุกสรรพสิ่งที่ออฟฟิศต้องการ และตอบโจทย์ให้กับลูกค้าทุกปัญหาเรื่องอุปกรณ์สำนักงาน พร้อมจัดส่งตรงถึงลูกค้าทั่วประเทศ
ทั้งนี้ จากการทำผลสำรวจ ของ ออฟฟิศ เซ็นเตอร์ ในปีที่แล้ว ปรากฏว่า เมื่อลูกค้านึกถึงอุปกรณ์หรือเครื่องใช้สำนักงาน ลูกค้าจะเลือก ออฟฟิศ เซ็นเตอร์ ก่อนเป็นอันดับแรก จุดเด่นคงเพราะมีครบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเครื่องใช้สำนักงาน เรียกว่าเป็นที่หนึ่งในการมีอุปกรณ์สำนักงานครบวงจร ถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้ากว่า 12 ปี
กลยุทธ์หลักของ ออฟฟิศเซ็นเตอร์ ที่ใช้มาตลอด 12 ปีคือ มีอุปกรณ์สำนักงานครบวงจร, สินค้ามีคุณภาพ, ผู้ผลิตสินค้ามีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จะเสริมจุดเด่นผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น พร้อมเราจะมุ่งเน้นหามืออาชีพของสินค้าแต่ละชนิด มาให้บริการลูกค้า เสริมจุดเด่นในแง่การเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของเรา
โดยเริ่มจากผลิตภัณฑ์ กระดาษ ก่อน ที่ออฟฟิศ เซ็นเตอร์ จะมีกระดาษทุกอย่างไว้บริการ ไม่ว่าลูกค้ากลุ่มใดต้องการใช้กระดาษประเภทไหน ที่นี่มีให้เลือกทุกอย่าง เป็นการขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้า นักเรียน นักศึกษา, กลุ่มครอบครัว ซื้อใช้ส่วนตัว และกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่
รวมทั้งมีการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ลูกค้าเห็นว่า ที่นี่มีการขายสินค้าทั้งแบบยกแพ็ค และปลีกย่อย เพื่อให้ฐานลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่มทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือคนทั่วไปก็สามารถเข้ามาซื้อสินค้าจำนวนน้อยๆ เพื่อนำไปใช้ส่วนตัวได้ ไม่ใช่มีแต่เฉพาะองค์กรใหญ่ๆ เท่านั้นที่จะมาซื้อ
ส่วนเป้าหมายการเติบโตในปี 2550 ตั้งเป้าไว้ว่าจะโตไม่น้อยกว่า 15% โดยช่องทางขยายจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ และจะดูทิศทางการทำการตลาดของออฟฟิศเซ็นเตอร์แต่ละไตรมาส ซึ่งตอนนี้เป็นไตรมาสแรก ผลประกอบการเมื่อเทียบกับเมื่อปีก่อน ยังดีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทถือเป็นอันดับหนึ่ง มีมาร์เก็ตแชร์สูงถึง 40% จากมูลค่ารวมของกลุ่มธุรกิจประเภทเดียวกัน ซึ่งมูลค่าตลาดรวมประมาณ 4 พันกว่าล้าน นอกจากนี้ ยังมี OC Brand เป็น House Brand ที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้าที่ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย โดยสินค้ามีราคาถูกกว่าท้องตลาด 15-20% เหมาะสำหรับการประกอบธุรกิจในยุคนี้
พร้อมกับมีการคืนกำไรให้กับลูกค้าโดยการเข้าร่วมส่งเสริมกิจกรรมกับคลื่นวิทยุ 96.5 คลื่นความคิด เพื่อให้ลูกค้า SMEs ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยให้ลูกค้าได้เข้าอบรมกับออฟฟิศเซ็นเตอร์ ในการวางแผนเรื่องการจัดสรรการใช้อุปกรณ์สำนักงานอย่างมีคุณภาพ คุ้มค่า ไม่ใช่ต้องการสร้างยอดขายอย่างเดียว พร้อมยังสามารถนำความรู้ทางธุรกิจเพื่อนำไปต่อยอดกับธุรกิจของตนเองได้ด้วย นอกจากนี้ลูกค้าที่เป็นสมาชิก ก็ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากขึ้นอีกด้วย สามารถสั่งซื้ออุปกรณ์สำนักงานของ ออฟฟิศเซ็นเตอร์ หรือสอบถามข้อมูลได้ทางออนไลน์ได้ทาง www.officecentre.co.th
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์
ญาตา กาญจนภัคพงค์ (กบ) 086-351-5111
วาสนา เดชวาร (วาด) 081-929-7824