MILL เผยตุน Backlog ไว้แล้ว 80,000 ตัน ลุ้นปีนี้รายได้โต 10% แตะที่ระดับ 1.2 หมื่นลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 25, 2010 11:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--ไออาร์ เน็ตเวิร์ค “สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล” เผยปัจจุบัน MILL มี Backlog Order ในมือแล้ว 80,000 ตัน ผนวกกับราคาเหล็กเริ่มขยับเป็นขาขึ้น อีกทั้งสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจ ทำให้มั่นใจสิ้นปีนี้รายได้แตะ 1.2 หมื่นลบ. ตามเป้าหมาย ส่วนผลงานไตรมาสแรกปีนี้โชว์กำไรสุทธิพุ่ง 138% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2/2553 ยังมีลุ้นจะขยายตัวดีต่อเนื่อง นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยว่าในปัจจุบันบริษัทมี Backlog order อยู่ที่ประมาณ 80,000 ตัน และยังมีแนวโน้มที่จะขยับเพิ่มขึ้นได้อีกมากในอนาคต เนื่องจากขณะนี้ความต้องการใช้เหล็กของลูกค้าในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย ยังมีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผนวกกับราคาเหล็กยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างมาก ดังนั้นทำให้มั่นว่าในปี 2553 จะสามารถผลักดันผลประกอบการของ MILLให้แตะที่ระดับ 12,000 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 10 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ "จุดเด่นของ MILL คือผู้ผลิตเหล็กที่มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายเกือบจะครบทุกชนิดสินค้าในแง่ของอุตสาหกรรมก่อสร้าง นอกจากนี้ยังมีที่ตั้งในการส่งสินค้าทั้งในกรุงเทพฯและระยอง ซึ่งเป็นคีย์ในการใช้เหล็ก ขณะเดียวกันบุคลากรของบริษัทมีความสามารถในการบริหารจัดการในแง่ของการผลิตมีการบริหารจัดการได้ดีเพราะมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเหล็กมานานช่วยป้องกันความเสี่ยงได้ ดังนั้น MILL จึงเป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั้งในส่วนของสินค้าและบริการที่ไว้วางใจได้" นอกจากนี้ นายสิทธิชัยได้เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาส 1/2553 ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 138.17 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2552 ว่าเป็นผลมาจากประสิทธิภาพในการบริหารงานที่เพิ่มขึ้น รายได้จากการขายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น และ MILL ยังคงเดินหน้าขยายตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศไปพร้อมๆ กับพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มี Value Added และตรงกับความต้องการของตลาดมากที่สุด นอกจากนั้นก็ยังมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุมด้วยการลดต้นทุนในการผลิตให้ต่ำที่สุด เพิ่มมาตรการป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้นแต่ในขณะเดียวกันก็ยังมุ่งสร้างสรรค์กิจกรรมและความสัมพันธ์อันดี เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนและสังคมโดยรวมด้วย เพื่อให้ทั้งธุรกิจและสังคมเติบโตและพัฒนาควบคู่ไปด้วยกัน “ผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้ ถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 138% ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักของทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคนเพื่อที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นให้มากที่สุด ผนวกกับในช่วงที่ผ่านมาราคาเหล็กเริ่มขยับขึ้นและ MILL ก็สามารถบริหารจัดการในเรื่องต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสำหรับแนวโน้มในไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่ายังจะขยายตัวดีต่อเนื่องจากปัจจัยบวกที่สนับสนุนไม่ว่าจะเป็นความต้องการใช้เหล็กที่มีต่อเนื่อง และการบริหารจัดการภายในองค์กรที่มีประสิทธิภาพของ MILL เอง” นายสิทธิชัย กล่าวในที่สุด
แท็ก เหล็ก  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ