กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--ปตท.
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่ราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับตัวลดลงเนื่องจาก นักลงทุนมีความกังวลต่อนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศในยุโรปที่ยังประสบปัญหาหนี้สาธารณะ รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศในเดือนพฤษภาคม 53 ลดลงมาอยู่ -14.7 จุด (เดือนเม.ย. 53 อยู่ที่ -12.3 จุด) และปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของโอเปค ยังคงเพิ่มขึ้น ประกอบกับปริมาณสำรองน้ำมันสำเร็จรูปในภูมิภาคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ล่าสุด ราคาน้ำมันวันนี้ (25 พ.ค. 53) น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 70.15 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปเบนซิน 95สิงคโปร์อยู่ที่ 79.00 แหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอยู่ที่ 80.70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ ปตท. สามารถปรับลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินลงได้ 50 สตางค์/ลิตร และน้ำมันกลุ่มดีเซลได้ 60 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันในเขต กทม. และปริมณฑล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (26 พ.ค. 53) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป ราคาเป็นดังนี้
หน่วย: บาท/ลิตร
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 (พีทีที E85 พลัส) 19.42
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (พีทีที E20 พลัส) 28.94
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 95) 31.24
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 (พีทีที แก๊สโซฮอล์ พลัส 91) 29.74
น้ำมันเบนซิน 91 (พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91) 35.04
น้ำมันไบโอดีเซล (พีทีที B5 พลัส) 26.79
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว (พีทีที เดลต้า เอ็กซ์) 27.99
นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า ตลอดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปตท. ได้ปรับลดราคาน้ำมันขายปลีกเพื่อผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง รวม 5 ครั้ง (วันที่ 10, 13, 19, 22 และ 26 พ.ค.) รวมลดลง 1.90 — 2.60 บาท/ลิตร โดยน้ำมันกลุ่มเบนซินปรับลดลง 2.60 บาท/ลิตร น้ำมันกลุ่มดีเซลปรับลดลง 1.90 บาท/ลิตร ทั้งนี้ ยังต้องจับตามองนโยบายการเพิ่มเสถียรภาพให้ค่าเงินยูโร อาทิ การกำหนดบทลงโทษประเทศสมาชิกที่ไม่จัดสรรงบประมาณตามข้อบังคับของสหภาพยุโรป รวมทั้งการประกาศ Durable Good Order และ New Home Sale ของสหรัฐ ซึ่งอาจส่งผลทางจิตวิทยาต่อนักลงทุนและผู้บริโภค และอาจกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมัน