ไอบีเอ็มเผยนวัตกรรม 5 รูปแบบที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราใน 5 ปีข้างหน้านี้

ข่าวทั่วไป Tuesday January 9, 2007 17:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--ไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็มนำเสนอรายงาน “ไอบีเอ็มคาดการณ์นวัตกรรม 5 รูปแบบใน 5 ปีข้างหน้า” (IBM Next Five in Five) เป็นครั้งแรก โดยรายงานดังกล่าวระบุถึงนวัตกรรมรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้รูปแบบการทำงาน การใช้ชีวิต และการพักผ่อนของผู้คนภายใน 5 ปีข้างหน้านี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เนื้อหาที่กล่าวถึงในรายงานนี้ อ้างอิงจากข้อมูลจากแนวโน้มด้านตลาดและสังคมที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตของเรา รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในห้องทดลองของไอบีเอ็มทั่วโลกซึ่งคาดว่าจะช่วยทำให้นวัตกรรมเหล่านี้เป็นจริงขึ้นมา
ในอีก 5 ปีจากนี้ วิถีชีวิตของเราจะเปลี่ยนแปลงไปด้วยอิทธิพลของนวัตกรรมใหม่ ๆ ต่อไปนี้
เราจะสามารถรับบริการรักษาพยาบาลได้แม้จะอยู่ห่างไกล We will be able to access healthcare remotely
ผู้คนนับล้านที่มีปัญหาด้านสุขภาพเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต หรือโรคระบบไหลเวียนโลหิต จะได้รับการตรวจสุขภาพร่างกายโดยอัตโนมัติในระหว่างที่พวกเขาดำเนินชีวิตประจำวันตามปกติ บริษัทผู้ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ จะใช้วิธีการเชิงรุก โดยให้บริการตรวจสุขภาพผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล ผ่านระบบเซนเซอร์ที่ติดตั้งไว้ภายในบ้าน สวมใส่ติดตัวผู้ป่วย หรือติดตั้งไว้ในอุปกรณ์และชุดเครื่องมือต่างๆ ด้วยเหตุนี้ผู้ป่วยจึงสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้ดีขึ้น และช่วยให้แพทย์สามารถให้บริการตรวจรักษาได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าผู้ป่วยจะอยู่ ณ ที่ใด ความก้าวหน้าของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับบริการรักษาพยาบาลแบบควบคุมระยะไกลนี้ จะกระตุ้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำคัญๆ สำหรับองค์กรและผู้บริโภคภายในปี 2012
โทรศัพท์เคลื่อนที่จะสามารถเรียนรู้ความต้องการของผู้ใช้ Mobile phones will start to read our minds
เทคโนโลยีแสดงสถานะระดับสูง จะทำให้โทรศัพท์เคลื่อนที่และพีดีเอ สามารถเรียนรู้ผู้ใช้เครื่องได้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น ตำแหน่งที่อยู่ของผู้ใช้ปัจจุบัน สิ่งที่ผู้ใช้ต้องการในขณะที่ผู้ใช้เดินทาง ทำงาน หรือท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ เทคโนโลยีแสดงสถานะ ซึ่งใช้ในระบบข้อความที่โต้ตอบกลับทันที ทำให้สามารถค้นหาและระบุผู้ใช้ได้ ทันทีที่ผู้ใช้เชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่าย และในอีก 5 ปีนับจากนี้ อุปกรณ์สื่อสารไร้สายทุกชนิดจะสามารถเรียนรู้ความต้องการของผู้ใช้และปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น โทรศัพท์ของคุณจะรับรู้ได้ว่า ขณะนี้คุณกำลังอยู่ในชั้นเรียน หรืออยู่ในระหว่างการประชุม และจะช่วยโอนสายไปยังระบบฝากข้อความเสียงโดยอัตโนมัติได้ทันที หรือพิซซ่าร้านโปรดของคุณจะรู้ว่า คุณกำลังเดินทางกลับบ้านช่วงดึกคืนนี้ และอาจจะส่งข้อความเสนอโปรโมชั่นพิเศษสำหรับอาหารมื้อดึกเพื่อให้คุณซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านอีกด้วย
การแปลคำพูดแบบเรียลไทม์ จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป Real-time speech translation will become the norm:
ในการจะก้าวไปสู่ยุคโลกาภิวัฒน์ หนึ่งในสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือความแตกต่างในด้านภาษา ยกตัวอย่างเช่น นวัตกรรมของไอบีเอ็มด้านเสียงพูด ช่วยให้สำนักข่าวสามารถแปลข่าวภาษาจีนและภาษาอาหรับที่เผยแพร่ทางเว็บเป็นภาษาอังกฤษ ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้พีดีเอแปลเมนูอาหารที่เป็นภาษาญี่ปุ่น และช่วยให้แพทย์ติดต่อสื่อสารกับผู้ป่วยเป็นภาษาสเปน บริการและเทคโนโลยีการแปลแบบเรียลไทม์ จะได้รับการติดตั้งในโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์พกพา และในรถยนต์ บริการดังกล่าวจะได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วไปในสังคมและแวดวงธุรกิจทั่วโลก ซึ่งจะช่วยขจัดอุปสรรคด้านภาษาในการติดต่อสื่อสารและในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ
อินเทอร์เน็ตจะแสดงผลในรูปแบบ 3 มิติ There will be a 3-D Internet
การใช้ชีวิตในโลกสมมติออนไลน์ที่นิยมกันมาก เช่น Second Life และ World of Warcraft จะค่อยๆ พัฒนาไปสู่ระบบอินเทอร์เน็ตแบบ 3 มิติ ซึ่งจะมีวิวัฒนาการเดียวกับที่ซอฟต์แวร์ Darpa, AOL และ Prodigy พัฒนาเป็นเทคโนโลยีเวิลด์ไวด์เว็บขึ้น ในโลกออนไลน์เสมือนจริงนี้ คุณจะได้เดินเลือกซื้อสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านหนังสือ และร้านดีวีดี พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำแก่คุณ ซึ่งเป็นบริการที่คุณอาจไม่ได้พบเจอที่ร้านค้าใกล้บ้าน นอกจากนี้อินเทอร์เน็ตแบบ 3 มิติ จะทำให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ในรูปแบบใหม่ บริการทางการแพทย์ในแบบระยะไกล และบริการซื้อสินค้าที่แตกต่างออกไป โดยผู้ใช้บริการ จะได้ติดต่อสื่อสารกับเพื่อนฝูง ครอบครัว แพทย์ อาจารย์ ร้านค้า และอื่นๆ ในรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
เทคโนโลยีใหม่จะให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น New technologies will address areas of environmental importance
หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน กำลังให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการปกป้องทรัพยากร เช่น ทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรพลังงาน และอื่น ๆ โดยมีเทคโนโลยีสารสนเทศ วัสดุศาสตร์ และฟิสิกส์ ช่วยสนับสนุนต่อการดำเนินการเหล่านี้ ตัวอย่างเช่น นาโนเทคโนโลยี ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการวิจัยและพัฒนาในระดับอะตอมและโมเลกุล เพื่อสร้างโครงสร้างใหม่ที่มีขนาดเล็กกว่าเดิม มีบทบาทสำคัญมากต่อไมโครโปรเซสเซอร์ ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีขนาดเล็กลง มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ราคาถูกลง และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เราอาจนำนาโนเทคโนโลยีไปใช้ในการกรองน้ำ การนำนาโนเทคโนโลยีมาใช้ สามารถปรับปรุงระบบนิเวศวิทยาและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และช่วยให้เราสามารถรับมือกับปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่มที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก นอกจากนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศ วัสดุศาสตร์ และฟิสิกส์ สามารถช่วยสนับสนุนต่อการสร้างแบบจำลองทรัพยากรน้ำและพัฒนาระบบพลังงานแสงอาทิตย์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ชูจิตต์ วัฒนล้ำเลิศ แผนกประชาสัมพันธ์ โทร. 02 2734306 email: chujit@th.ibm.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ