กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--อาร์ค เวิลด์ไวด์
ในแวดวงการแข่งขันทางด้านธุรกิจ นอกเหนือจากความสามารถและศักยภาพของแต่ละบุคคลแล้ว คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า “โอกาส” คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการก้าวสู่ความสำเร็จในอนาคต ซึ่งก็เป็นเรื่องยากที่เยาวชนจะมีโอกาสได้เข้ามาสัมผัสกับระบบการทำงานจริง ดังนั้นองค์กรที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาบุคลากรมาโดยตลอดอย่าง พี แอนด์ จี ซึ่งได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการมอบโอกาสในการพัฒนาและแสดงศักยภาพของเยาวชนไทย จึงได้จัดโครงการ P&G ASEAN Business Challenge ขึ้นเป็นประจำทุกปีต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อให้เยาวชนไทยที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับบัณฑิตศึกษาได้เรียนรู้ถึง เบื้องลึกการทำงานจริงของเหล่าผู้บริหาร พี แอนด์ จี และยังเป็นเวทีแสดงศักยภาพในการสร้างสรรค์แผนงานธุรกิจภายใต้สถานการณ์จริง ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพทางด้านความคิด การวางแผนเชิงกลยุทธ์และการวางแผนงานธุรกิจให้กับพวกเขา พร้อมกับร่วมเฟ้นหาสุดยอดทีมนักคิดนักบริหารไทยรุ่นใหม่ เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมแข่งขันในระดับภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย
คุณเมธี จารุมณีโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในผู้บริหาร จาก พี แอนด์ จี ประเทศไทย ที่ได้ให้เกียรติมาร่วมให้ความรู้และคำแนะนำกับเหล่าผู้เข้าร่วมในโครงการ P&G ASEAN Business Challenge 2010 ในปีนี้ ได้กล่าวเกี่ยวกับโครงการว่า
“พี แอนด์ จี เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพทางด้านความคิด และการวางแผนเชิงกลยุทธ์สำหรับเยาวชนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับบัณฑิตศึกษา เพื่อเพิ่มพูนทักษะด้านธุรกิจให้กับนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของประเทศไทยได้มีโอกาสฝึกฝนด้านการวางแผนธุรกิจ และได้ลงมือปฏิบัติจริง จึงได้เปิดโอกาสเรียนรู้ในการสร้างสรรค์แผนงานธุรกิจภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจจริง นอกจากนั้น ยังเป็นการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมองค์กรไปยังนักศึกษาทุกคนที่เข้าร่วมโครงการถึงวิธีการคิด และการทำงานของ พี แอนด์ จี ซึ่งถือเป็นบริษัทฯ ระดับนานาชาติที่มีระเบียบแบบแผนในการพัฒนาบุคลากรให้เป็นผู้นำที่มีศักยภาพและประสบความสำเร็จในอนาคตได้
ทั้งนี้ นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ P&G ASEAN Business Challenge ทุกคน จะต้องสอบผ่านข้อเขียน และสัมภาษณ์เสียก่อน จากนั้น นักศึกษาผู้ผ่านการคัดเลือกจะถูกกำหนดกลุ่มผู้ร่วมงานในแต่ละทีม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้จากเพื่อน ๆ ต่างสถาบัน และรู้จักการทำงานกับคนที่ไม่คุ้นเคย เพื่อพัฒนาทักษะในการทำงานร่วมกับคนอื่น นอกจากนั้น ยังมีการเปิดอบรมให้เรียนรู้ระบบการทำงาน และแผนกการทำงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเรียนรู้วิธีการวางแผนกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับระบบการทำงานจริง โดยการแข่งขันนั้นมีเพียงสองรอบ คือ รอบการนำเสนอแผน และรอบปฏิบัติจริง จากนั้น ผลจากการปฏิบัติจริงจะถูกนำมารวมคะแนนกับรอบแรก เพื่อเฟ้นหาทีมผู้ชนะ ที่สามารถสร้างสรรค์แผนธุรกิจและดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งทีมที่ชนะเลิศจากประเทศไทย ก็จะเป็นตัวแทนไปแข่งขันกับทีมผู้ชนะจากประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยจะมีการจัดการแข่งขันกันที่ประเทศสิงคโปร์ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้”
ในปีนี้ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 3 แล้วของโครงการ P&G ASEAN Business Challenge 2010 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีนักศึกษาให้ความสนใจสมัครกับโครงการกว่าร้อยคนจากหลากหลายสถาบันและมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย โดยผู้สมัครจะต้องกำลังศึกษาอยู่ในระดับบัณฑิตศึกษาในชั้นปีใดก็ได้ มาร่วมสอบข้อเขียนเชิงวิเคราะห์ และเชิงจิตวิทยา และสอบสัมภาษณ์ จนสุดท้ายคัดเลือกเข้ามาร่วมกิจกรรมนี้เพียง 22 คนเท่านั้น ซึ่งถือเป็นนักศึกษาที่มีศักยภาพสูงทั้งสิ้น แต่ท้ายสุดการแข่งขันก็จำเป็นต้องมีเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับชัยชนะ นั้นก็คือ ทีม 4G ที่ประกอบไปด้วยสมาชิก 6 คน ได้แก่ กรพิน ชัยมงคลานนท์, นิดา มาลาสิฐ และ กุลวัฒน์ จิตมณีโรจน์ จาก โครงการปริญาโททางการตลาด ภาคภาษาอังกฤษ (MIM)คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, เกียรติศักดิ์ อัศวสันติ จาก สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ชนะพันธ์ เอกชูเกียรติ และ มนตรา ไพรศานต์ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเป็นทีมที่สามารถทำยอดขายได้สูงสุดตามแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์ที่โจทย์ต้องการ และทีมมีการปรับเปลี่ยนวิธีปฏิบัติตามความเหมาะสม โดยไม่หลุดจากกรอบของแผนเดิม นอกจากนั้นยังชนะใจกรรมการด้วยการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการนำเสนอแผนงานที่ดีอีกด้วย โดยทีม 4G จะเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเดินทางไปร่วมแข่งขันกับทีมผู้ชนะจากประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
กุลวัฒน์ จิตมณีโรจน์ หนึ่งในสมาชิกทีม 4G ได้เล่าถึงประสบการณ์จริงที่เขาและเพื่อนๆ ในทีมได้รับเลือกจากการเข้าร่วมกิจกรรมในโครงการ P&G ASEAN Business Challenge 2010 ว่า
“ตอนแรกที่ทราบว่าได้รับคัดเลือกเข้ามาร่วมโครงการก็ดีใจมาก แต่ก็ไม่คิดว่าเราจะได้รับประสบการณ์ที่ดีมากๆ ขนาดนี้ ทั้งได้สัมผัสถึงการทำงานจริงกับฝ่ายต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก พี แอนด์ จี และได้ลงมือวางแผนงานกับสินค้าที่มีการวางขายอยู่จริง ซึ่งในขั้นแรกทาง พี แอนด์ จี ก็ได้มีการแนะนำการทำงานในส่วนต่างๆ เพื่อให้พวกเราเข้าใจภาพรวมการทำงานในแต่ละหน้าที่ภายใน พี แอนด์ จี จากนั้นก็แบ่งกลุ่มผู้เข้าแข่งขันจากหลากหลายสถาบันออกเป็นทั้งหมด 4 ทีม และมอบหมายให้แต่ละทีมแข่งขันกันวางแผนทางการตลาดกับ ผลิตภัณฑ์โกนหนวด ยิลเลตต์ มัคทรี ซึ่งมีการนำกรณีศึกษาต่างๆ มาแนะนำให้เราได้ศึกษาถึงข้อดีข้อเสียต่างๆ จากแผนการตลาดที่เคยทำมา และยังพาพวกเราไปสัมผัสกับการทำสำรวจตลาดจริงๆ ตั้งแต่การทำ Focus Group กับผู้บริโภค เข้าไปสำรวจตลาดพูดคุยกับลูกค้า จนทำให้เราเข้าใจถึงความต้องการและปัญหาต่างๆ ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง และนำมาปรับใช้ในการวางแผนการตลาดได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งความท้าทายในการทำงานครั้งนี้ นอกจากพวกเราจะต้องคิดวางแผนกลยุทธ์ต่างๆ โดยใช้งบประมาณที่มีอยู่จำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว ยังมีเงื่อนไขเป็นโจทย์ที่เพิ่มความท้าทายให้กับพวกเราตลอดอีกด้วย ทั้งการแข่งขันประมูลสาขาของพันธมิตรทางการค้าที่ร่วมโครงการในปีนี้ นั่นก็คือ บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ซึ่งเราจะไปจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกับทีมอื่น และการแข่งกับโปรโมชั่นสินค้าที่ใช้กลยุทธ์ด้านราคา รวมไปถึงความท้าทายจากการที่เราต้องรู้จักพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส พยายามมองหาข้อดีหรือจุดแข็งที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่เราไม่คาดคิด ซึ่งก็เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ มาให้เราวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน และนำมาปรับใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแผนของเรา และตลอดการแข่งขันสมาชิกภายในทีมก็จะมีการพูดคุยใช้เหตุผลในการเลือกหยิบกลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ในการแข่งขันที่ทุกคนยอมรับ และมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน แต่ทุกคนก็ต้องทราบข้อมูลเท่าๆ กัน และในแต่ละทีมก็จะมีพี่เลี้ยง ก็คือเจ้าหน้าที่จาก พี แอนด์ จี ที่มีประสบการณ์สูง มาคอยให้คำปรึกษาแนะนำโดยตลอด แถมเรายังได้มีโอกาสเสนอแผนงานกับทางผู้บริหาร พี แอนด์ จี ซึ่งก็มีการซักถามข้อสงสัยต่างๆ ให้เราได้ฝึกการนำเสนอ การตอบคำถาม และได้รับคำแนะนำกลับไปปรับปรุงแก้ไข จนสุดท้ายเราก็ได้ลงมือปฏิบัติตามแผนการที่วางไว้ โดยมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ทำโปรโมชั่นต่างๆ กับสินค้า ในสถานการณ์จริงทั้งหมด ได้ฝึกการแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นในระหว่างลงมือปฏิบัติในเวลาที่จำกัดอีกด้วย ซึ่งต้องขอบอกว่า ถ้าเกิดพวกเราไม่ได้รับโอกาสจาก พี แอนด์ จี ได้เข้ามาร่วมเป็นผู้เข้าแข่งขันในโครงการดีๆ แบบนี้ ก็คงจะไม่ได้มาสัมผัสกับประสบการณ์การทำงานจริงกับผลิตภัณฑ์ขององค์กรระดับโลกแบบนี้อย่างแน่นอน”
ทางด้าน กรพิน ชัยมงคลานนท์ หัวหน้าทีม 4G เอง ก็ประทับใจกับกิจกรรมและโอกาสที่ทาง พี แอนด์ จี ได้มอบให้กับพวกเธอผ่านโครงการ P&G ASEAN Business Challenge 2010 ไม่แพ้สมาชิกในกลุ่ม และผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ เช่นกัน
“พวกเราทีม 4G รู้สึกดีใจมากๆ ค่ะ ที่ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ P&G ASEAN Business Challenge 2010 นี้ นอกจากเรื่องของรางวัลและชัยชนะในวันนี้แล้ว สิ่งที่ทำให้พวกเราประทับใจก็คือการที่ได้เข้ามาสัมผัสกับการทำงานจริงในสถานการณ์ทางการตลาดจริงๆ ที่เราจะได้มารู้จักเรียนรู้วิธีการติดต่อประสานงานกับผู้คนจากหลากหลายส่วนงาน ทั้งภายในและภายนอก พี แอนด์ จี ให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน เพื่อให้ได้งานออกมาดีที่สุด ได้เรียนรู้ข้อมูลทางการตลาดของจริง ได้ฝึกวิเคราะห์ วางแผน และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าจากสถานการณ์จริง ได้พบกับบุคคลที่มีความสามารถมากๆ จาก พี แอนด์ จี โดยเฉพาะในระดับผู้บริหารที่มาให้คำแนะนำพวกเรา ซึ่งก็เป็นเหมือน ‘ช็อตคัท’ ให้เราได้เรียนรู้อย่างรวดเร็วจากประสบการณ์ของพวกเขาที่ผ่านมา แถมยังได้สัมผัสระบบการทำงานจริงขององค์กรคอนซูเมอร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง พี แอนด์ จี อีกด้วย ซึ่งโครงการ P&G ASEAN Business Challenge 2010 เป็นเหมือนประตูสู่การทำงานในสายอาชีพทางด้านธุรกิจการตลาด ที่นอกจากเราจะได้รับความรู้และฝึกฝนทักษะต่างๆ แล้ว ยังเป็นเวทีให้เยาวชนได้แสดงศักยภาพของตนเองกันอย่างเต็มที่ ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีจากทาง พี แอนด์ จี ที่จัดโครงการดีๆ แบบนี้ขึ้น ซึ่งตัวดิฉันเองก็อยากจะให้มีการจัดอย่างต่อเนื่องตลอดไป เพื่อรุ่นน้องๆรุ่นต่อๆไป จะได้มีโอกาสมาสัมผัสประสบการณ์ดีๆ อย่างที่พวกเราได้รับกันในวันนี้ค่ะ” กรพิน กล่าว
ท้ายสุด คุณเมธี จารุมณีโรจน์ ผู้บริหารจาก พี แอนด์ จี ในฐานะรุ่นพี่ที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจไทย ยังได้ฝากถึงนักคิดนักบริหารรุ่นใหม่ว่า “ทักษะเชิงกลยุทธ์” และ “ประสบการณ์จริงในการดำเนินงาน” นั้น เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเยาวชนไทยในอนาคต ที่จะเติบโตในอาชีพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายงานด้านธุรกิจการขาย การตลาดและการจัดการ ทั้งนี้ เยาวชนต้องมองหาโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับตัวเอง ซึ่งการเรียนรู้ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทักษะด้านความคิดเชิงกลยุทธ์จะช่วยให้สามารถประสบความสำเร็จในการเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ต่อไปได้โดยไม่ยากเลย
(สำหรับท่านสื่อมวลชน) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : อาร์ค เวิลด์ไวด์ ประเทศไทย
สิริพุทธนัดดา ดิศศานุวงศ์ (เจ้าอ้น) / โทร + 66 2 684 5704
อีเมลล์: Siribuddhanadda.D@th.arcww.com
รุ่งรัตน์ ชดช้อย (ใหม่) / โทร + 66 2 684 5703 / อีเมลล์ Rungrat.C@th.arcww.com