กรุงเทพฯ--22 ก.พ.--ก.พลังงาน
ก.พลังงาน นำสื่อลงพื้นที่ ตรวจสอบการจัดระบบควบคุมไอน้ำมัน หรือ VRU ย้ำเข้มงวด กฎเหล็ก โรงกลั่น และผู้ประกอบการน้ำมัน จัดการมลพิษ คลัง รถขนส่ง และปั๊มน้ำมันทั่วประเทศ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิตประชาชน โดยผลพลอยได้จากการเก็บไอน้ำมันมาใช้ใหม่ จะประหยัดได้กว่า 97 ล้านบาทต่อปี
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันนี้(22 ก.พ.) กระทรวงพลังงาน โดยกรมธุรกิจพลังงาน ได้จัดพาสื่อมวลชน เยี่ยมชมการทำงานของระบบควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง ณ คลังน้ำมันบางจากปิโตรเลียม และสถานีบริการน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมตรวจเยี่ยมการทำงานของระบบอุปกรณ์ความปลอดภัย และมาตรฐานสากลของหน่วยควบคุมไอน้ำมันหรือ VRU ของระบบเติมน้ำมันให้รถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งของสถานีบริการน้ำมัน เพื่อควบคุมก๊าซไฮโดรคาร์บอนที่เกิดจาก ไอระเหยของน้ำมันเบนซิน ระหว่างถ่ายเทเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพประชาชนในบริเวณใกล้เคียง
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน ได้ออกกฎกระทรวงเพื่อควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวแล้ว ในพื้นที่กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่ ที่มีการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปริมาณสูงอีก 10 จังหวัด อาทิ จ.ระยอง ชลบุรี สมุทรสาคร อยุธยา รวมทั้งในพื้นที่อื่นๆ หากพบว่าสภาพปัญหามีความรุนแรง ก็จะพิจารณาปรับปรุงกฎเกณฑ์ เพื่อกำหนดให้บังคับใช้ตามความเหมาะสมต่อไป โดยกระทรวงพลังงานจะเข้มงวด การบังคับใช้ตามกฎหมาย สำหรับสถานีบริการน้ำมัน คลังน้ำมัน และรถขนส่งน้ำมันใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันที ส่วนการประกอบกิจการที่มีอยู่เดิม ให้ติดตั้งระบบควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิงภายใน 1 ปี
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวเพิ่มว่า แนวทางการออกกฎกระทรวงควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง และการติดตั้งระบบควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง จะเกิดผลดีทั้งทางตรงและทางอ้อม กล่าวคือ ทางตรงจะช่วยให้สภาพอากาศของกรุงเทพและปริมณฑล ตลอดจนพื้นที่ทั่วประเทศ ดีขึ้น ลดปัญหามลพิษในอากาศ และทางอ้อมยังสามารถนำไอน้ำมันที่ระเหยไป กลับมาใช้เป็นน้ำมันได้อีก ซึ่งนับเป็นการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และช่วยให้ประเทศประหยัดงบประมาณเพิ่มขึ้นประมาณปีละ 97 ล้านบาทอีกด้วย