กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--กรมบัญชีกลาง
นายแพทย์พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเรียกหน่วยงานในกำกับประชุมชี้แจงผลกระทบและแผนดำเนินการจากสถานการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเร่งด่วน และมอบหมายให้กรมบัญชีกลางไปศึกษาหาแนวทางว่าจะต้องดำเนินการในเรื่องใดๆ บ้าง รวมทั้ง แหล่งเงินที่จะนำมาให้การช่วยเหลือในครั้งนี้ เช่น เงินคงคลัง เงินงบประมาณในส่วนอื่น หรือเงินนอกงบประมาณ
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารเพื่อรับทราบรายงานความเสียหาย และเร่งดำเนินการในส่วนที่มีผลกระทบต่อหน่วยงานอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย พร้อมทั้งได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมทันที ทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ จัดหวัดมุกดาหาร อุบลราชธานี อุดรธานี และจังหวัดขอนแก่น ซึ่งสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้น ปรากฎเห็นได้ชัดทางกายภาพ คือ สถานที่ทำงานอุปกรณ์เครื่องมือถูกไฟไหม้เสียหายเกือบ 100 % ยกเว้นจังหวัดขอนแก่น ในเบื้องต้นต้องขอบคุณหน่วยงานที่ให้ความอนุเคราะห์พื้นที่ให้ไปตั้งสำนักงานชั่วคราวก่อน ส่วนอุปกรณ์เครื่องมือในการทำงานได้เร่งจัดหาให้โดยเร็ว ในส่วนตัวบุคคล ก็ให้มีขวัญและกำลังใจกัน โดยไม่นำเหตุการณ์ที่ผ่านมามาเป็นอุปสรรคในการทำงาน
สำหรับการให้บริการแก่หน่วยงานอื่นที่อยู่ในพื้นที่ เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงิน ได้ดำเนินการโดยทันทีแล้วหลังจาก เหตุการณ์วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ซึ่งกรมฯ ได้สั่งการให้คลังจังหวัด และคลังเขต ประสานงานกับหน่วยงานอื่นในพื้นที่ ที่เป็นหน่วยเบิกจ่ายเงินที่คลังผ่านระบบ GFMIS เนื่องจากเครื่อง Terminal ถูกไฟไหม้ ก็ให้ไปดำเนินการที่หน่วยงานอื่นในพื้นที่ใกล้เคียงแทน เนื่องจากมีการจัดเก็บฐานข้อมูลไว้ที่แหล่งอื่นอยู่แล้ว ฐานข้อมูลไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด สำหรับหน่วยงานใดที่ไม่มีบัตร สมาร์ทการ์ด ที่ใช้เบิกเงินในระบบ GFMIS ก็ได้จัดทำให้ใหม่เรียบร้อยแล้ว
ด้านกฎ ระเบียบ ต่าง ๆ ก็ได้ผ่อนคลายให้แก่หน่วยงานที่ได้รับผลกระทบ โดยหน่วยงานไม่ต้องทำหนังสือขอตกลงเข้ามา เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ในการปฏิบัติงาน เช่น หลักฐานการจ่ายเงิน ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการสอบการดำเนินการเกี่ยวกับความผิดทางละเมิดและแพ่ง ในความเสียหายของทรัพย์สิน รวมทั้ง ประสานงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้ใช้เงินทดรองราชการมาช่วยเหลือได้ตามระเบียบที่กำหนดไว้สำหรับประชาชนที่ได้รับความเสียหาย
ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างจะผ่อนผันเรื่องวัน เวลา เปิดซอง รับซอง และวันที่เสนอราคา โดยจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม อกพ.ภายในการประชุมครั้งแรกวิธีการจัดซื้อจัดจ้างวิธีพิเศษที่กำหนดวงเงินอนุมัติไว้ โดยแบ่งเป็น หัวหน้าส่วนราชการ อนุมัติในวงเงินไม่เกิน 25 ล้านบาท e-Auction ไม่เกิน 50 ล้านบาท ปลัดกระทรวง อนุมัติในวงเงิน 25 - 50 ล้านบาท e-Auction ในวงเงิน 50 -100 ล้านบาท รัฐมนตรีเจ้าสังกัด อนุมัติในวงเงิน เกิน 50 ล้านบาท e-Auction ในวงเงินเกิน 100 ล้านบาท โดยจะเร่งเสนอ ครม. เพื่อขอขยายวงเงินอนุมัติให้มากกว่าที่กำหนดไว้เดิม
“สำหรับงบประมาณเพื่อให้การช่วยเหลือนั้น ได้มีการพิจารณารองรับไว้แล้ว ทั้งจากเงินคงคลัง เงินงบประมาณ ส่วนอื่น ๆ หรือเงินนอกงบประมาณ ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาลที่จะพิจารณาต่อไป” นายพงษ์ภาณุ กล่าว