กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--ธนาคารนครหลวงไทย
บล.นครหลวงไทย เดินหน้าสนับสนุนการดำเนินธุรกิจร่วมกับ บมจ.ธนาคารนครหลวงไทย เปิดสาขาค้าหลักทรัพย์ จ.ภูเก็ต ณ สาขาถนนมนตรี ตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นโบรกเกอร์แห่งแรกของภาคใต้ที่เปิดให้บริการเปิดบัญชีและซื้อขายหลักทรัพย์ในพื้นที่ของธนาคาร สนองแนวคิด “SCIB FAMILY” ที่ธนาคารมุ่งผนึกกำลังกับบริษัทในเครือสร้างสรรค์การให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร พร้อมร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัด 2 โครงการใหญ่ ได้แก่ โครงการส่งเสริมการเรียน E-Learning และ “มุมความรู้ตลาดทุน” เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านการลงทุนให้แพร่หลายมากขึ้น
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นครหลวงไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารได้เปิดที่ทำการสาขาค้าหลักทรัพย์แห่งที่ 7 ณ ที่ทำการของธนาคารนครหลวงไทย สาขาถนนมนตรี อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ในวันที่ 25 มิถุนายน 2550 นี้ ซึ่งถือว่าเป็นสาขาแรกของบริษัทที่เปิดให้บริการเปิดบัญชีและซื้อขายหลักทรัพย์ในพื้นที่สาขาของธนาคาร เพื่อความสะดวกของลูกค้าที่สามารถใช้บริการได้หลากหลายขึ้นเป็น one stop service ภายใต้แนวคิด SCIB FAMILY ที่ธนาคารมีนโยบายที่จะขยายธุรกิจและพัฒนาบริการร่วมกับบริษัทในเครือทั้ง 5 แห่ง เพื่อเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็นสถาบันการเงินที่สามารถให้บริการทางการเงินครบวงจรอย่างสมบูรณ์แบบที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการขยายฐานลูกค้ารายใหม่ และการเชื่อมโยงฐานลูกค้าของธนาคารและบริษัทในเครือร่วมกัน
ทั้งนี้ ธนาคารและ บล.นครหลวงไทย มีแผนร่วมกันที่จะขยายการเปิดให้บริการสาขาค้าหลักทรัพย์ในสาขาของธนาคารนครหลวงไทยเพิ่มเติมอีกประมาณ 5 สาขา ภายในปีนี้ ได้แก่ สาขาในจังหวัดสิงห์บุรี สุพรรณบุรี นครสวรรค์ และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีฐานลูกค้าของธนาคารและเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการขยายฐานนักลงทุนอีกด้วย โดยเลือกการเปิดสาขาเต็มรูปแบบ (Full Branch) เช่นเดียวกับสาขาถนนมนตรี จังหวัดภูเก็ต ที่มีเจ้าหน้าที่การตลาดให้บริการลูกค้าส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ หรือลูกค้าสามารถส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ได้ด้วยตนเองภายในธนาคารพาณิชย์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต รวมถึงสามารถดำเนินการเปิดบัญชีและดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ของระบบ Back Office ภายในสาขาได้เองทำให้สามารถลดขั้นตอนการปฏิบัติงานและลดต้นทุนการเปิดสาขาได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ธนาคารยังร่วมลงนามในความร่วมมือกับนางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมอบ “โครงการส่งเสริมการเรียน E-Learning เพื่อองค์กรธุรกิจ หน่วยงานราชการ และสถาบันการศึกษา” ซึ่งประกอบด้วยหลักสูตรต่าง ๆ อาทิ หลักสูตรเรื่องเงินทองต้องใส่ใจ การลงทุนในหุ้น การลงทุนในตราสารหนี้ การลงทุนในกองทุนรวม และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอนุพันธ์ นำไปใช้ประกอบการศึกษาและเรียนรู้การลงทุนบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ด้านการเงิน การลงทุนให้แพร่หลายในวงกว้างได้มากขึ้น พร้อมจัดพิธีรับมอบ “มุมความรู้ตลาดทุน” (SET Corner) มูลค่า 100,000 บาท ให้แก่ บมจ.ธนาคารนครหลวงไทย เพื่อเป็นมุมความรู้และแหล่งข้อมูลด้านตลาดทุนสำหรับนักลงทุน ลูกค้า และประชาชนทั่วไป
และในวันดังกล่าว ยังได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อเรื่อง “ทิศทางเศรษฐกิจ การเมือง และตลาดหุ้น ครึ่งหลังปี 2550” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญในด้านเศรษฐกิจและการลงทุน ได้แก่ ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นายเก่งกล้า รักเผ่าพันธุ์ และนายสุกิจ อุดมศิริกุล ดำเนินรายการ