กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--ธ.ก.ส.
ธ.ก.ส. อัดฉีดเงิน 3,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี สนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อย กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ชาวไร่อ้อย และโรงงานน้ำตาลกู้ซื้อรถตัดอ้อย เพื่อแก้ไขปัญหาไฟไหม้และขาดแคลนแรงงานในภาคการผลิต
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. พร้อมให้การสนับสนุนสินเชื่อตามโครงการสินเชื่อสำหรับการจัดซื้อรถตัดอ้อยเพื่อแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้และการขาดแคลนแรงงานตามมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2552 ให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ชาวไร่อ้อย และโรงงานน้ำตาลเพื่อซื้อรถตัดอ้อย โดยจะให้การสนับสนุนสินเชื่อปีละ 1,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2553 - 2555 รวมเป็นเงิน 3,000 ล้านบาท วงเงินกู้ต่อรายหรือต่อกลุ่มไม่เกิน 15 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR — 2.00 ต่อปี ซึ่งเท่ากับร้อยละ 4.75 ต่อปี ทั้งนี้ จะเรียกเก็บจากเกษตรกรผู้กู้ในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี และรัฐบาลเป็นผู้รับภาระชดเชยดอกเบี้ยส่วนต่างร้อยละ 2.75 ต่อปี เช่นเดียวกับโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยระยะที่ 2 โดยกำหนดชำระหนี้คืนภายใน 6 ปี ทั้งนี้ รถตัดอ้อยที่จะซื้อต้องเป็นรถใหม่หรือหากเป็นรถที่ผ่านการใช้งานแล้วต้องมีสภาพดีสามารถใช้งานได้ในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 ปี
สำหรับเงื่อนไขการขอกู้จะพิจารณาถึงความสามารถในการบริหารจัดการและจำนวนพื้นที่การปลูกอ้อย โดยให้โรงงานน้ำตาลเป็นผู้ประกันหนี้ตามโครงการของผู้กู้ทุกราย กรณีโรงงานน้ำตาลเป็นผู้กู้เองต้องให้คณะกรรมการบริหารของโรงงานหรือบุคคลที่ ธ.ก.ส. เห็นสมควรเป็นผู้ค้ำประกันอย่างน้อย 2 คน ภายใต้เงื่อนไขว่า หากโรงงานน้ำตาลอยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการจะต้องได้รับอนุญาตจากศาลล้มละลายกลางก่อน และกรณีโรงงานน้ำตาลเป็นลูกหนี้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินต้องได้รับความยินยอมจากสถาบันการเงินผู้เป็นเจ้าหนี้ก่อน
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามโครงการติดตามและให้คำแนะนำ เพื่อช่วยเหลือผู้กู้ให้สามารถดำเนินงานตามแผนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสนับสนุนให้สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) เข้าร่วมโครงการและดำเนินธุรกิจบริการรับจ้างตัดอ้อยส่งโรงงานน้ำตาลด้วย