กรุงเทพฯ--14 ก.พ.--กรมธุรกิจพลังงาน
นายเมตตา บันเทิงสุข อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า กรมธุรกิจพลังงาน ได้ออกกฎกระทรวงควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2550 ควบคุมไอน้ำเบนซินที่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง คลังน้ำมันเชื้อเพลิง และรถขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง โดยจะเริ่มบังคับใช้ใน 4 จังหวัดแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ก่อนขยายครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งระหว่างนี้รอลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเมื่อลงประกาศแล้วกฎกระทรวงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ทันทีกับสถานีบริการน้ำมัน คลังน้ำมัน และรถขนส่งน้ำมันใหม่ ส่วนผู้ประกอบกิจการเดิมให้ดำเนินการภายใน 1 ปี หลังกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ ตามกฎกระทรวงใหม่กำหนดให้มีการควบคุมไอน้ำมันเบนซินตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ คือ ตั้งแต่คลังน้ำมันเมื่อมีการจ่ายน้ำมันให้แก่รถขนส่งน้ำมัน จนกระทั่งเมื่อรถขนส่งน้ำมันถ่ายน้ำมันจากถังขนส่งลงสู่ถังเก็บเชื้อเพลิงใต้พื้นดินของสถานีบริการ โดยในสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงระหว่างการจ่ายน้ำมันให้แก่รถยนต์ที่มาใช้บริการต้องมีระบบรับไอน้ำมันเชื้อเพลิงจากรถยนต์ และต้องติดตั้งระบบควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อนำไอน้ำมันเชื้อเพลิงจากถังใต้ดินถ่ายเข้าสู่รถขนส่งคืนไปยังคลังน้ำมัน
ส่วนรถขนส่งถังน้ำมันต้องเปลี่ยนเป็นระบบเติมน้ำมันใต้ถัง (Bottom Loading) และติดตั้งระบบท่อรับไอน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อเก็บไอน้ำมันจากสถานีบริการน้ำมันไปยังคลังน้ำมันเชื้อเพลิง เช่นเดียวกับคลังน้ำมัน ต้องติดตั้งหน่วยควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง (Vapor Recovery Unit) พร้อมกับระบบท่อไอน้ำมันเชื้อเพลิงที่แท่นจ่ายน้ำมัน เพื่อเก็บไอน้ำมันจากรถขนส่งและเปลี่ยนสภาพให้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงและนำมากลับใช้ต่อไป
“ตามกฎกระทรวงใหม่จะเริ่มใช้เพื่อควบคุมไอน้ำมันเบนซินใน 4 จังหวัดแรกก่อน ซึ่งเป็น 4 จังหวัดที่มีสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 1,168 แห่ง และมียอดการใช้น้ำมันเบนซินสูงประมาณ 40% ของปริมาณการใช้ทั้งประเทศ หลังจากนั้นจะขยายให้คลอบคลุมทั่วประเทศต่อไป ดังนั้น การดำเนินงานดังกล่าวจึงเป็นการช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี และคืนสภาพอากาศที่ดีให้แก่ชุมชนเมืองที่อยู่หนาแน่น โดยสามารถนำไอน้ำมันกลับมาใช้เป็นน้ำมันได้อีกเป็นการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด” นายเมตตา กล่าว