กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์
เปิดตัวผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ “สัมมา คีตสิน” ประกาศนโยบายสาน 4 โครงการต่อเนื่อง เพิ่ม 3 งานใหม่ พัฒนาระบบบริการข้อมูล กระจายสู่ทุกกลุ่มเป้าหมายไม่จำกัดเฉพาะผู้ประกอบการ ปี 2550 จัดทำข้อมูลสถิติอนุญาตก่อสร้างอาคาร และที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียน ครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศ
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้มีมติให้นายสัมมา คีตสิน รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 เป็นต้นไป ซึ่งนายสัมมา คีตสิน เป็นอดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท ข้อมูลเครดิตไทย จำกัด มาก่อน
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์คนใหม่ เปิดเผยถึงนโยบายการบริหารศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ว่า ในฐานะที่ต้องเข้ามารับผิดชอบงานในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ จะยังคงสานต่อโครงการเดิมให้บรรลุผลตามแผนงานที่กำหนดไว้ โดยมีโครงการหลัก 4 โครงการ ประกอบด้วย
1.โครงการพัฒนาระบบคลังข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (Data Warehouse) เนื่องจากปัจจุบันศูนย์ข้อมูลฯทำหน้าที่จัดเก็บและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากหน่วยงานราชการต่างๆ นับ 10 แห่ง โครงการนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการรวบรวมสถิติข้อมูลจากหลายแห่ง และมีปริมาณมากให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการประเมินผลและวิเคราะห์สถานการณ์
2. โครงการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในเขต กทม.-ปริมณฑล และ 11 จังหวัดยุทธศาสตร์ในภูมิภาค เพื่อให้ได้ข้อมูลคลอบคลุมทั้งด้าน Stock Supply และ Demad ที่ผ่านมาศูนย์ข้อมูลฯใช้งบประมาณถึง 14 ล้านบาท เพื่อทำการสำรวจข้อมูล ดังนั้นในปี 2550 จึงจำเป็นต้องทำการสำรวจต่อเนื่องเพื่อให้ได้ฐานข้อมูลเป็นปัจจุบัน
3. โครงการต้นแบบพัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลใบอนุญาตก่อสร้างดัดแปลง/รื้อถอนอาคารให้แก่หน่วยงานท้องถิ่น ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งในปี 2549 ศูนย์ข้อมูลฯ ติดตั้งโปรแกรมให้กับ อปท. ไปแล้ว 1,769 แห่ง ปัจจุบัน (ณ 29 ม.ค.50) มีการส่งข้อมูลใบอนุญาตก่อสร้างอาคารผ่านระบบออนไลน์ กลับมาที่ศูนย์ข้อมูลจำนวน 8,697 ใบอนุญาต และในปี 2550 นี้ มีแผนขยายการติดตั้งโปรแกรม และจัดอบรมวิธีการใช้โปรแกรมให้กับ อปท.เพิ่มอีก 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย นครสวรรค์ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี อุดรธานี สุราษฎร์ธานี และกระบี่ เมื่อโครงการนี้บรรลุผลตามแผงาน จะช่วยลดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลการออก
ใบอนุญาตก่อสร้างจากแหล่งข้อมูลที่กระจายอยู่ในภาคต่างๆ ให้รวดเร็วขึ้น
และ 4. โครงการสำรวจความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย และสำรวจพฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัย อาจถือว่าศูนย์ข้อมูลฯเป็นหน่วยงานแรกที่ดำเนินการสำรวจข้อมูลดังกล่าวงอย่างเป็นทางการ ซึ่งข้อมูลส่วนนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวิเคราะห์และประเมินความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในระบบ
นอกจากสานต่อโครงการเก่าซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากปี 2549 ยังมีแผนการสร้างเสริมงานใหม่ อีก 3 โครงการ คือ 1.การจัดทำดัชนีตัวชี้วัด เพิ่มเติมจากที่มีอยู่ในปัจจุบันคือดัชนีราคาที่อยู่อาศัย 2.การจัดทำweb poll เพื่อประเมินสถานการณ์ที่อยู่ในกระแส และ 3.การขยายขอบเขตการสำรวจและการเชื่อมต่อข้อมูล
นอกจากนี้ยังมีนโยบายปรับกระบวนภายในให้สามารถปรับลดขั้นตอนการทำงานเพื่อให้ข้อมูลต่างๆเปิดเผยสู่สาธารณะได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายในด้านต่อไปคือปรับรูปแบบการให้บริการข้อมูลให้เข้าถึงมวลชนมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาซูนย์ข้อมูลฯพบว่าปัจจุบันผู้ใช้บริการข้อมูลปัจจุบันกว่า 1,300 รายเป็นบุคลธรรมมดา เช่นนักวิชาการ นักศึกษาสถาบันการเงินและหน่วยงานราชการ และอีกประมาณ 80 รายเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยในปี 2550 มีเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการข้อมูลถึงเท่าตัว หรือประมาณ 2,000 ราย
รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมุลฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2550 จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ศูนย์ข้อมูลฯ ให้ความสำคัญกับการเพิ่มองค์ความรู้ให้แก่บุคลการภายในและร่วมพัฒนาวิชาการผ่านเวทีสาธารณะ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งองค์กรระดับสากลที่ศูนย์ข้อมูลฯมีแผนในการประสานงานเพื่อการพัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูลประกอบด้วย National Association of REALTORS ,Association for Real Estate License Law Officials และ Asian International Real Estate Expo & Conference
ทั้งนี้ ในประเทศ ปี 2550 ศูนย์ข้อมูลฯจะใช้ช่องทางการประชาสัมพันธ์ทั้งหมดที่มีอยู่ ประกอบด้วย ข่าวประชาสัมพันธ์ บทความวิชาการ รายการอสังหาน่ารู้ทางคลื่น FM 92.5 MHz การสัมมนา และวารสารศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ และผลงานด้านการจัดทำฐานข้อมูล เนื่องจากในปีนี้มีเป้าหมายขยายการจัดเก็บข้อมูลการออกใบอนุญาตอาคาร และข้อมูลที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียน ครอบคลังทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงมีความสนใจในการศึกษาแนวโน้มทิศทางอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศ โดยกำหนดให้เป็นการประสานความร่วมมือไปยังนักวิชาการและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น เพื่อให้ได้ข้อมูลถูกต้องที่สุด ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมุลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวในตอนท้าย
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และบริการข้อมูล
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์
0-2645-9675-6