กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--IR PLUS
'ปกรณ์ บริมาสพร' ตอกย้ำความมั่นใจ นลท. ส่งสัญญาณ Q2/53 ผลงานมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จาก Backlog ที่มีอยู่กว่า 580-600 ลบ. เละตลาดส่งยังเติบโตสูง เชื่อทั้งปีปั๊มรายได้โต 10-15% เข้าเป้า หายห่วง จากปีก่อนที่ทำได้ 1.47 พันลบ. หลังโค้งแรกพิสูจน์ฝีมือโชว์ผลงานเยี่ยม กำไรพุ่ง 96% อยู่ที่ 8.61 ลบ. จากปีก่อนที่ทำได้ 4.40 ลบ.
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2/2553 ว่า มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปีนี้และช่วงเดียวกันของปีก่อนได้ เนื่องจากจะเป็นช่วงที่บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จากงาน ในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) ที่มีอยู่ประมาณ 580-600 ล้านบาท เข้ามาอย่างชัดเจน ในขณะที่มูลค่าการส่งออกยังเพิ่มขึ้นในอัตราสูง สนับสนุนให้รายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ ที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถบริหารต้นทุนสินค้าในสายการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนสินค้าเฉลี่ยลดลง ส่งผลโดยตรงให้อัตรากำไรขั้นต้น (Goss profit margin) ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนให้ผลประกอบการมีโอกาสเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน
'จากที่ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1/2553 ออกมาเติบโตในอัตราที่น่าพอใจ ทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าการเติบโตนี้จะต่อเนื่องไปยังไตรมาสที่ 2 และ 3 ได้ ด้วยปัจจัยเดียวกัน คือยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น จากการส่งออกมีการปรับตัวสูงขึ้น และการบริหารต้นทุนสินค้าในสายการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ผลิตภัณฑ์ LED ที่ลงทุนจัดตั้งบริษัทขึ้นมาดูแลการผลิตอย่างเต็มตัวจะเริ่มรับรู้เป็นรายได้ประมาณไตรมาสที่ 3 ของปี จึงเชื่อว่าจะสนับสนุนให้ผลประกอบการในปี 2553 เติบโตต่อเนื่องจากปี 2552 ได้อย่างชัดเจนด้วย"
ทั้งนี้ L&E รายงานผลประกอบการประจำงวดไตรมาสที่ 1/2553 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 8.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 96% จากปีก่อนที่ทำได้ 4.40 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากยอดขายที่สูงขึ้นและอัตรากำไรเบื้องต้นที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในไตรมาสที่1/2553 ถึงแม้ว่ายอดขายในประเทศ จากโครงการ ขายส่ง ขายปลีก ค่อนข้างทรงตัว แต่การส่งออกมีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทมียอดขาย 375 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนหน้า 3% อัตรากำไรเบื้องต้น 26% สูงขึ้นจากปีก่อนหน้า 1% เป็นผลมาจากการบริหารต้นทุนสินค้าในสายการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนสินค้าเฉลี่ยลดลง
นายปกรณ์กล่าวอีกว่า ในปี 2553 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10-15% จากปีก่อนที่ทำได้ 1,475.60 ล้านบาท ถึงแม้ว่าการเมืองภายในประเทศจะส่งผลให้โครงการก่อสร้างหลายโครงการเลื่อน ออกไปจากเดิม อาทิ กลุ่มโรงแรม รีสอร์ท และร้านค้าปลีกบางแห่ง แต่เนื่องจากในปีนี้บริษัทฯ ยังคง เดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความหลากหลายและครบวงจรมากขึ้น โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับ สินค้า LED ที่เป็นสินค้าดาวรุ่งอย่างจริงจัง เพื่อชดเชยตลาดที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองในประเทศ หลังจากพบว่าผลิตภัณฑ์ LED เป็นผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแสงสว่างที่มีอนาคตและความต้องการใช้เติบโต อย่างรวดเร็ว ทั้งตลาดในประเทศและตลาดโลก
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังขยายงาน R&D พัฒนากระบวนการผลิต รวมทั้งลงทุนในอุปกรณ์และเครื่องจักรให้ทันสมัยมีประสิทธิภาพรองรับกับตลาด LED ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วด้วย โดยล่าสุด คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้จัดตั้งบริษัท แอล แอนด์ อี โซลิดสเตท จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจผลิต โคมไฟฟ้า หลอดไฟฟ้า และอุปกรณ์แสงสว่างที่ใช้ผลิตภัณฑ์ LED อย่างเต็มตัว ซึ่งคาดว่าโรงงานการผลิตแห่งใหม่นี้จะเริ่มผลิตได้ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ และจะรับรู้เป็นรายได้ทันที ในขณะที่ตลาดส่งออกยังเติบโตได้ดีตามที่ได้ประมาณการณ์ไว้ ในอัตรามากกว่า 50% ดังนั้นจึงสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทฯ ในปีนี้เติบโตต่อเนื่องได้ถึงแม้ว่าปัจจัยการเมืองในประเทศจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม
'ในปีนี้เมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น กำไรก็น่าจะดีขึ้นในทิศทางที่ดีกว่า เพราะนอกจากการขยายธุรกิจแล้ว L&E ยังเดินหน้าบริหารต้นทุนสินค้าในสายการผลิตให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ต้นทุนสินค้าบางส่วนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากในไตรมาสที่ 1/2553 กำไรขั้นต้นได้เพิ่มขึ้นอีก% จาก 25% เป็น 26% ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ดีขึ้นตามเป้าหมายที่ได้วางไว้' เขากล่าวในตอนท้าย
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
IR PLUS : คุณปภาดา สุวรรณกูฏ (ตุ้ย) Tel. 02-5549396 E-mail : phapada@irplus.in.th