กรุงเทพฯ--2 มิ.ย.--สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ
บ้านพักฉุกเฉิน จุดพลุแคมเปญบุญครั้งใหญ่ เร่งระดมทุนช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กที่ประสบปัญหาถูกกระทำรุนแรง ภายใต้ชื่อแคมเปญ “ Celebrate 30th Anniversary Emergency Home” ดึงแบรนด์ เถ้าแก่น้อย และ ดับเบิ้ลเอ ผุดโมเดล Land Mark การกุศล “กล่องบริจาคนกหวีดป้องกันภัยขนาดใหญ่” จุดรับบริจาคเงินตลอดระยะเวลา 3 เดือน เพื่อกระตุ้นการบริจาคจากประชาชนในช่วงเศรษฐกิจซบเซา หวังเม็ดงินบริจาคมาสนับสนุนช่วยเหลือกลุ่มผู้หญิงและเด็กให้มีชีวิตใหม่ต่อไป คาดหวังเม็ดเงินบริจาคย่านชานเมืองประมาณ 400,000 บาท ณ บริเวณชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซารัตนาธิเบศน์แห่งนี้
ดร.เมทินี พงษ์เวช ผู้อำนวยการสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ซึ่งมี บ้านพักฉุกเฉิน เป็นงานสำคัญ “ตลอดระยะเวลา 30 ปี ของการช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กที่ถูกกระทำรุนแรง ในปัญหาต่างๆ อาทิ ถูกข่มขืน ท้องไม่พร้อม ถูกทอดทิ้ง ถูกทำร้ายร่างกาย และติดเชื้อเอดส์จากสามี โดยกลุ่มผู้หญิงและเด็กเหล่านี้ต้องการฟื้นฟูด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งต้องการการเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญต้องเข้าใจปัญหา ซึ่งผู้ประสบปัญหาทุกรายต้องการความช่วยเหลือเพื่อที่จะก้าวเดินต่อไปโดยไม่เป็นภาระกับสังคม ปัจจุบันบ้านพักฉุกเฉินมีผู้หญิงและเด็กอยู่ในความดูแลประมาณ 150 รายโดยเฉลี่ย ในแต่ละวัน โดยในจำนวนนี้ เป็นเด็กประมาณเกือบ 50 คน กลุ่มผู้หญิงท้อง และแม่ลูกอ่อน รวมประมาณ 60 คน และ ที่เหลือประมาณ 40 คน เป็นกลุ่มผู้หญิงที่ประสบปัญหาถูกข่มขืน ติดเชื้อเอดส์ และถูกทำร้ายร่างกาย ในแต่ละปีต้องใช้เงินช่วยเหลือแบบครบวงจรเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 24 ล้านบาท
สำหรับแคมเปญ Land Mark การกุศล เนรมิตกล่องบริจาคขนาดใหญ่เป็นการนำสัญลักษณ์ “นกหวีดป้องกันภัย” มาสร้างสรรค์ให้โดดเด่นดึงดูดความสนใจของประชาชน จุดประสงค์ต้องการระดมทุนในการนำเงินไปผลิตกล่องบริจาคใหม่ แทนกล่องรุ่นเก่าที่เริ่มผุพัง เนื่องจากรายได้หลักของบ้านพักฉุกเฉิน มาจากการบริจาคจากสาธาณชน และกล่องบริจาคเป็นช่องทางที่สำคัญที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมได้ ทั้งนี้แคมเปญบริจาคผ่านกล่องบริจาคนกหวีดยักษ์นี้มีระยะเวลา 3 เดือนตั้งแต่มิถุนายนจนถึงสิงหาคมศกนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งให้ทุกคนตระหนักถึงการช่วยเหลือกลุ่มผู้หญิงและเด็กที่ถูกกระทำรุนแรงในสังคมให้กลับมีชีวิตใหม่พร้อมช่วยเหลือตัวเอง และยืนหยัดในสังคมได้อย่างมีความสุข คาดหวังเม็ดเงินบริจาค 400,000 บาท สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ อยากให้ทุกคนเข้าใจและเห็นใจ ไม่ซ้ำเติมคนที่ประสบปัญหา เพราะกลุ่มผู้หญิงและเด็กเหล่านี้ เป็นฝ่ายถูกกระทำ และ “บ้านพักฉุกเฉิน” ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยประคับประคองผู้หญิงที่ประสบปัญหาถูกกระทำรุนแรง เหล่านี้
ในปีนี้เป็นปีวาระครบรอบ 30ปี บ้านพักฉุกเฉิน จึงปรับโฉมโลโก้ให้ทันสมัยง่ายต่อการจดจำแบรนด์มากยิ่งขึ้น โดยนำสัญลักษณ์นกหวีดป้องกันภัยมาผสมผสาน
ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ภาคเอกชนได้ให้ความสนใจ และที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ เล็งเห็นความสำคัญของ “บ้านพักฉุกเฉิน” อาทิ บริษัท ดับเบิ้ลเอ (1991) จำกัด (มหาชน) , บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดส์ แอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศน์ และ คลื่นวิทยุ 90 บาลานซ์ FM ที่เอื้อเฟื้อเงินสนับสนุน สถานที่จัดวางกล่องบริจาคนกหวีดขนาดใหญ่ตลอดระยะเวลา 3 เดือนและช่วยเหลือด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านรายการวิทยุ ผู้มีจิตศรัทธา สามารถร่วมบริจาคเงินได้บริเวณชั้น 1 ทางเข้าศูนย์การค้าระหว่างร้านอาหารโออิชิกับร้าน KTC
ในวาระที่ครบรอบ 30 ปี ในปี 2553 บ้านพักฉุกเฉินมีพรีเซ็นเตอร์ช่วยรณรงค์เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันมี 4 พรีเซ็นเตอร์คือ ลอร่า-ศศิธร วัฒนกุล, หนูดี — วนิษา เรซ , ธัญญาเรศ เองตระกูล และ ปอย ตรีชฎา มาลยาภรณ์ ปัจจุบันมีกลุ่มคนรุ่นใหม่เสริมทัพ เพื่อช่วยเหลือการทำกิจกรรมต่างๆ คือ นนท์ ภูดิศ สุริยวงศ์ , โอ๊ค พีระพันธ์ อารยาพันธุ์ , อาภาภัทร กัญจนพฤษ์ และ พรพรรณ สิทธิวนวิธ เป็นต้น
ด้านทิศทางการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้จะมุ่งทำกิจกรรมเชิงรุกกับบริษัทเอกชนที่เข้ามาทำแคมเปญด้าน CSR ขณะนี้บ้านพักฉุกเฉินได้จัดกิจกรรมการกุศลซื้อนกหวีดป้องกันภัย 2 ตัวในราคา 50 บาท ลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท คาดหวังกระตุ้นยอดขายนกหวีดป้องกันภัยเพิ่มขึ้น 10% ขณะนี้เรามีพันธมิตรร้านค้าจำหน่ายภายใต้แคมเปญ เช่น ร้านคีปลิ้งค์ สาขาเซ็นทรัลบางนา สาขาเซ็นทรัลเวิลด์และ ชั้น 2 สยามดิสคัฟเวอร์รี่ ,ร้านคาเฟ่ เดอ ตู สาขาเอ็มโพเรียม SCB ปาร์ค และ เซ็นทรัลลาดพร้าว , ร้าน conte ชั้น 1 สาขาเซ็นทรัลพระราม 3 และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า , ร้าน Miss Korea สาขาเจอเวนิว รัชโยธิน , จุด Information ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซารัตนาธิเบศน์ , ร้าน UFM Fuji สาขาสุขุมวิท 33/1 และ สุขุมวิท 39 , ร้านฟาร์มิงโก้ สยามสแควร์ , ดั๊บเบิ้ลเอ บุ๊ค ทาวเวอร์ ถนนสาธร สามารถสอบถามผ่าน Bug 1113 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยในปี 2554 คาดว่าจะมีขยายจุดจำหน่ายนกหวีดป้องกันภัยประมาณ 40 แห่งครอบคลุมกรุงเทพฯและปริมณฑล
อย่างไรก็ตาม บ้านพักฉุกเฉินหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นหนึ่งในดวงใจของประชาชนที่มีความประสงค์จะบริจาคเงินหรือสิ่งของต่างๆ แก่ผู้หญิงและเด็กที่ประสบปัญหาความรุนแรง รวมไปถึงการทำแคมเปญ CSR กับบริษัทต่างๆ และเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ทรุดตัว เกรงว่ายอดเงินการบริจาคหรือการทำบุญจากประชาชนจะถูกมองข้ามและลดลง จึงหวังกระตุ้นให้ทุกคนเห็นความสำคัญกับการช่วยเหลือกลุ่มผู้หญิงกับเด็กเหล่านี้ได้มีรอยยิ้มและใช้ชีวิตใหม่อย่างมีความสุข
ติดต่อสอบถามด้านการประชาสัมพันธ์ : มัจจติกา โคมทอง mutjatika@hotmail.com