ปภ.แนะวิธีขับรถให้ปลอดภัยในฤดูฝน

ข่าวทั่วไป Friday June 4, 2010 09:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--ปภ. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แนะผู้ขับขี่เตรียมรถให้พร้อมใช้งานในช่วงฤดูฝน ทั้งสัญญาณไฟ ระบบฉีดน้ำฝน ยางและระบบเบรก เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ หากทัศนวิสัยไม่ดีควรจอดพักในบริเวณที่ปลอดภัย กรณีต้องขับผ่านเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง ให้หยุดรถประเมินสถานการณ์ หากกระแสน้ำเชี่ยวกรากให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ถ้าระดับน้ำไม่ลึกมากนัก ให้ขับบนช่องทาง ที่ตื้นที่สุด ไม่เร่งเครื่องหรือหยุดรถกะทันหัน เพราะจะทำให้เครื่องยนต์ดับได้ นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ช่วงนี้หลายพื้นที่เริ่มมี ฝนตกแล้ว ทำให้สภาพถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ดี จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติ ดังนี้ การเตรียมความพร้อมของสภาพรถ ตรวจสอบระบบสัญญาณไฟ อุปกรณ์ปัดน้ำฝนให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี ท่อฉีดน้ำไม่อุดตัน เติมน้ำในกระปุกฉีดน้ำอยู่เสมอ เติมลมยางรถยนต์ให้มีแรงดันลมมากกว่าปกติ ๒ — ๓ ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อให้หน้ายางแข็งและมีกำลังในการรีดน้ำได้ดี ดอกยางละเอียดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน โดยเฉพาะระบบเบรกต้องไม่มีอาการปัดในขณะหยุดรถ วิธีขับรถ ขณะฝนตก ปรับระดับความเร็วของที่ปัดน้ำฝนให้สัมพันธ์กับปริมาณฝนที่ตกลงมา เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ ไม่ขับรถเร็ว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุรถลื่นไถลควรขับในอัตราความเร็วไม่เกิน ๖๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติประมาณ ๑๐ — ๑๕ เมตร พยายามขับรถอยู่ในช่องทางของตนเอง ไม่หยุดรถหรือเปลี่ยนช่องทางกะทันหัน ในระยะกระชั้นชิดอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเมื่อเบรกโดนน้ำจะทำให้ประสิทธิภาพในการหยุดรถลดลง ต้องใช้ระยะทางการเบรกเพิ่มมากกว่าปกติ และไม่ควรเบรกแรง เพราะจะทำให้เบรกไม่อยู่ และเสียการทรงตัวได้ง่าย หลีกเลี่ยงการเปิดไฟกะพริบเพราะจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้ร่วมใช้เส้นทางและทำให้ไม่มีสัญญาณไฟเลี้ยวใช้ ควรเปิดไฟส่องสว่างแบบต่ำเท่านั้น ไม่เปิดสัญญาณไฟสูง เนื่องจากจะทำให้ผู้ที่ขับรถสวนมามีอาการตาพร่ามัวและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย รวมทั้งเปิดไฟตัดหมอกในช่วงกลางคืนที่มีฝนตกหนักหรือสภาพถนนเฉอะแฉะจะช่วยลดแสงสะท้อนของไฟหน้ารถกับผิวน้ำบนถนน ทำให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น กรณีทัศนวิสัยไม่ดี ควรจอดพักรถในบริเวณที่ปลอดภัย เช่น จุดพักรถริมทาง สถานีบริการน้ำมัน รอจนฝนหยุดตกหรือสามารถมองเห็นเส้นทางข้างหน้าได้ชัดเจนค่อยขับต่อไป กรณีมีน้ำท่วมขัง ให้หยุดรถ เพื่อประเมินสถานการณ์ หากระดับน้ำลึกหรือกระแสน้ำเชี่ยวกราก ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันกระแสน้ำพัดรถลอยไปตามน้ำ กรณีระดับน้ำตื้น ให้ขับบนช่องทางที่มีน้ำท่วมไม่มากนัก โดยขับในแนวเดียวกับรถคันหน้า ใช้ความเร็วสม่ำเสมอ ไม่เร่งเครื่องหรือหยุดรถอย่างกะทันหัน หากต้องขับผ่านรถคันใหญ่ให้ชะลอความเร็ว เพื่อป้องกันระลอกคลื่นปะทะเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ดับ หลังจากขับผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขังแล้วให้แตะเบรกแบบย้ำๆถี่ๆ เพื่อไล่ความชื้นออกจากผ้าเบรกจะช่วยให้ระบบเบรกทำงานได้ดีขึ้น ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่เตรียมสภาพรถ ให้พร้อมและเรียนรู้วิธีขับขี่อย่างปลอดภัยในช่วงฤดูฝนจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ