กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) จัดการประชุมนานาชาติในหัวข้อ “Towards a Strategic Framework for Strengthening National Capital Markets and Enhancing Cooperation among South East Asian Equity Markets” เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2550 ที่กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีสากลในการหารือร่วมกันด้านกรอบกลยุทธ์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านตลาดทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน
การประชุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการความช่วยเหลือทางเทคนิคที่ดำเนินการโดย ADB โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่างๆ ในภูมิภาคจำนวนกว่า 40 คน จากหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานเลขาธิการอาเซียน กระทรวงการคลัง ธนาคารกลาง องค์กรกำกับดูแลตลาดทุน และตลาดหลักทรัพย์
หัวข้อหลักในการประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย (1) มุมมองของ ADB ในการสร้างความเข้มแข็งของตลาดทุนในประเทศเพื่อที่จะนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างกันในภูมิภาค (2) ประเด็นที่สำคัญในเรื่องของการรวมตัวของตลาด เช่น ผลของมาตรการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา และแนวทางแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆ
(3) ธรรมาภิบาลของตลาดหลักทรัพย์ และกรอบความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์เพื่อการรวมตัวกัน ในภูมิภาค เช่น การแปรรูปองค์กร และ(4) กลยุทธ์ที่จะนำไปสู่การพัฒนาและการรวมตัวของตลาดในอาเซียน
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาของตลาดทุนในภูมิภาค และขอขอบคุณ ADB ที่ได้ริเริ่มจัดกิจกรรมครั้งนี้
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งของภาครัฐและเอกชนในการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และความคิดริเริ่มเพื่อให้เกิดการพัฒนาความเชื่อมโยงของตลาดทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งความร่วมมือระหว่างประเทศในกลุ่มสมาชิกนับเป็นตัวจักรสำคัญในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของตลาดในภูมิภาค”
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือและผสานกันอย่างกลมกลืนเป็นปัจจัยสำคัญต่อเสถียรภาพและการเติบโตในระดับภูมิภาค ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มีความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาไปสู่ประสิทธิภาพ สภาพคล่องความโปร่งใส และต้นทุนที่ลดลง โดยมีกรอบการกำกับดูแลที่เอื้ออำนวย อันจะเป็นผลให้สามารถเพิ่มความน่าลงทุนในภูมิภาคนี้มากขึ้น
โดยตลาดหลักทรัพย์ในอาเซียน รวมถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้พัฒนาความร่วมมือกันในกรอบที่เรียกว่า ASEAN linked exchanges หรือกลุ่มตลาดหลักทรัพย์อาเซียน ซึ่งมีการทำงานร่วมกันในระดับพหุภาคี และโดยความสมัครใจ เพื่อการสร้างความเชื่อมโยงกันทั้งในการพัฒนารูปแบบธุรกิจ เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน”
“การสร้างความเชื่อมโยงและความร่วมมือกันนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของวิวัฒนาการด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ และนวัตกรรมของสินค้าใหม่ ๆ ในตลาดทุนโลก รวมไปถึงพฤติกรรมการเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ ของ
ผู้ลงทุนด้วย และเชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกันของตลาดหุ้นในภูมิภาคที่มีความต่อเนื่อง ประกอบกับการสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแล จะทำให้เราได้เห็นพัฒนาการของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความน่าสนใจอย่างยิ่งในระยะอันใกล้ และเชื่อว่าจะเกิดความร่วมมือกันอย่างแนบแน่นมากขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถรับมือกับปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเงินโลกที่มีความไม่แน่นอนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นางภัทรียากล่าว