กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--เกรลิ่ง
บริษัท เป๊ปซี่โค และบริษัทร่วมทุนสตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) ทำคำเสนอซื้อหุ้นทั่วไปของบริษัทเสริมสุขได้โดยปราศจากอุปสรรค ขณะนี้มีจำนวนหุ้นรวมมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์นับตั้งแต่มีการทำคำเสนอขอซื้อหุ้น
ตามคำแถลงของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ในวันนี้ เมื่อเวลา 16.30 น. บริษัทสตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจสแจ้งว่า ณ วันที่ 3 มิถุนายน 2553 บริษัทได้รับซื้อหุ้นของเสริมสุขทั้งสิ้น 8.54 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่งเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 22, 706,296 บาท การคำเสนอซื้อดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2553
จำนวนหุ้นดังกล่าวเมื่อนำมารวมกับหุ้นของเป๊ปซี่โคที่มีอยู่เดิมถือเป็นจำนวนที่มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าการทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้ได้รับการยอมรับโดยเฉพาะจากนักลงทุนและสถาบันต่างๆ
บริษัท สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส ได้เสนอซื้อหุ้นของเสริมสุขในราคา 29 บาทต่อหุ้น ราคาดังกล่าวเป็นราคาที่ผ่านการคำนวณและพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และเป็นราคาสูงสุดในรอบระยะเวลา 10 ปี
การทำคำเสนอซื้อหุ้นจะสิ้นสุดลงในวันที่ 10 มิถุนายน 2553
สื่อมวลชนที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัทเกรลิ่ง ประเทศไทย
จัสติน บาร์เน็ตต์ วิกานดา พรหมขุนทอง
โทรศัพท์: +66 (0) 2 635 7151 โทรศัพท์: +66 (0) 2 635 7151
อีเมล์: Justin.barnett@grayling.com อีเมล์: wikanda@grayling.com
เกี่ยวกับบริษัทเป๊ปซี่โค
เป๊ปซี่โคเป็นบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอาหาร และเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีพอร์ตโฟลิโอ สูงเป็นพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันของสินค้าในตลาดถึง 19 ชนิด โดยแต่ละชนิดสินค้าทำรายได้ผ่านการขายปลีกกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ธุรกิจหลักของบริษัท ประกอบไปด้วย ธุรกิจขนมขบเคี้ยว ฟริโต-เลย์ เควกเกอร์ เครื่องดื่มเป๊ปซี่-โคล่า ทรอปิคานา และ เกเตอเรด รวมไปถึงการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารซึ่งให้คุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่ม มีรสชาติ เป็นที่ชื่นชอบแก่บรรดาผู้บริโภคอื่นๆ กว่า 100 ชนิดในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก เป๊ปซี่โค มีรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ เกือบ 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ด้วยบุคคลากรของบริษัทยึดมั่นในแนวทาง การเติบโตที่ยั่งยืนอันเป็นเอกลักษณ์ ตามคำขวัญที่ว่า “Performance With Purpose” บริษัทได้ทุ่มเทสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นานาชนิดเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ให้คุณค่าทางโภชนาการที่มีความสะดวกและความพึงพอใจ ควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วมทางวัฒนธรรมของพนักงาน จนทำให้บริษัทสามารถสร้างความสมดุลระหว่างผลตอบแทนทางธุรกิจกับการตอบแทนสังคมได้เป็นอย่างดี ความพยายามในการสร้างสรรค์ธุรกิจ ที่ยั่งยืนนี้ส่งผลให้เป๊ปซี่ โค ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สามในการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มดัชนีวัดความยั่งยืนทางธุรกิจโลกของดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability World Index :DJSI World) และติดอันดับกลุ่มดัชนีวัดความยั่งยืนทางธุรกิจของดาวโจนส์แห่งอเมริกาเหนือ (Dow Jones Sustainability North America Index : DJSI North America) เป็นครั้งที่สี่ในปี 2552 ที่ผ่านมา
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเป๊ปซี่โคได้ที่ www.pepsico.com