ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 8 มิ.ย. 53

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 8, 2010 11:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ ราคาสมาคม เปิดที่ 18,950 - 19,050 ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,238 อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 32.63 — 32.74 GFM10 Hi- Low 18,900 — 18,830 ปิดที่ 18,860 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 23.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,240.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,212.10 - 1,246.70 ดอลลาร์เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาการเงินในฮังการีจะส่งผลให้วิกฤตหนี้สินในยุโรปทวีความรุนแรงขึ้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 115.48 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 9,816.49 จุด ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 14.41 จุด หรือ 1.35% ปิดที่ 1,050.47 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากความกังวลที่ว่าปัญหาหนี้สาธารณะที่ส่อเค้าว่าจะลุกลามไปทั่วยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงผิดหวังต่อตัวเลขจ้างงานในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ซึ่งการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นเพียงการรจ้างพนักงานชั่วคราวของภาครัฐเท่านั้น สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.ขยับลง 7 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 71.44 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 69.51 - 72.49 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าวิกฤตการณ์หนี้สาธารณะในยุโรป และตลาดจ้างงานในสหรัฐที่ยังเปราะบาง อาจส่งผลกระทบต่อดีมาน์ดพลังงานด้วย กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 8 มิ.ย. ไม่มีการเปลี่ยนแปลงการถือครอง ถือครองเท่าเดิมที่ระดับ 1,286.36 ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้สาธารณะอาจลุกลามไปทั่วยุโรป หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮังการีออกมายอมรับว่า ฮังการีมีความเสี่ยงที่จะเผชิญปัญหาการเงินแบบเดียวกับกรีซ ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.43% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.1921 ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.1973 ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.1956 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 91.630 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 91.910 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 91.78 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 32.61-32.68 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 32.60-32.67 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนมีมติเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนสร้างเสถียรภาพด้านการเงินแห่งยุโรป (European Financial Stability Facility) มูลค่า 7.50 แสนล้านยูโร (1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อยับยั้งวิกฤตหนี้สาธารณะไม่ให้ลุกลาม โดยในเบื้องต้นทางกองทุนจะออกพันธบัตรเพื่อการกู้ยืมเป็นวงเงินสูงถึง 4.40 แสนล้านยูโร (5.26 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในตลาดการเงิน ซึ่งรัฐบาลของประเทศในกลุ่มยูโรโซนจะเป็นผู้ค้ำประกันพันธบัตร และจะปล่อยกู้ให้กับประเทศสมาชิกที่มีปัญหาหนี้สินกองทุนสร้างเสถียรภาพด้านการเงินแห่งยุโรปถือเป็นกองทุนที่มีวงเงินสูงสุด เมื่อเทียบกับกองทุนสร้างเสถียรภาพมูลค่า 5 แสนล้านยูโร (6.70 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่รมว.คลังในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) อนุมัติเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา นายมิฮาลี วาร์กา หัวหน้าคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฮังการี เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ฮังการีมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับวิกฤตหนี้สาธารณะเช่นเดียวกับกรีซ คณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของฮังการีจะพุ่งขึ้นเป็น 4.1% ของตัวเลขจีดีพี เมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ย 7.2% ของประเทศอื่นๆในกลุ่มอียู และเทียบกับ 9.3% ของกรีซ นอกจากนี้ คาดว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะของรัฐบาลฮังการีจะเพิ่มเป็น 79% เมื่อเทียบกับระดับเฉลี่ยของอียูที่ 80% และเทียบกับ 125% ของกรีซ รัฐบาลฮังการีได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ฮังการีไม่มีความเสี่ยงเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ ขณะที่นายวาร์กาได้พยายามลดกระแสความวิตกกังวลดังกล่าวด้วยการออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า รัฐบาลฮังการีสามารถปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณให้เหลือเพียง 3.8% ของตัวเลขจีดีพีตามคำแนะนำของอียูและไอเอ็มเอฟ ซึ่งรวมถึงการปรับเปลี่ยนแผนการใช้จ่ายและการจัดเก็บรายได้ ซึ่งถือเป็นการแถลงที่สวนทางกับที่นายมิฮาลีเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของฮังการีอาจมีอยู่มากกว่า 7% ของจีดีพี ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงาน ยอดการขอสินเชื่อของผู้บริโภคในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.5% ต่อปี สู่ระดับ 954.8 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ภายในระยะเวลา 15 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 1 พันล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์จากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) กล่าวว่า ผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคไตรมาสแรกดีดตัวขึ้น 3.5% ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2550 ขณะที่การลงทุนในภาคธุรกิจขยายตัว 13.1% กระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 มิ.ย.ในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันมีแนวโน้มทรงตัว กระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผย คำสั่งซื้อของโรงงานประจำเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.8% จากเดือนมี.ค. นับเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยยอดสั่งซื้อภายในประเทศเพิ่มขึ้น 2.9% และการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 2.8% เนื่องจากเงินยูโรที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนความต้องการสินค้าส่งออก ขณะที่บริษัทต่างๆได้เพิ่มเม็ดเงินลงทุน คำแนะนำการลงทุน Gold Futures DAY TRADER GFM10 ซื้อในช่วงราคา 18820 — 18840 ขายในช่วงราคา 18910 - 18940 GFQ10 ซื้อในช่วงราคา 18890 - 18910 ขายในช่วงราคา 18980 — 19000 SWING TRADER ทิศทางราคาทองคำระยะยาวยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น โดยมีแนวรับ-แนวต้านที่1215-1240 คำแนะนำนักลงทุนรายวันเก็งกำไรจากการแกว่งตัวของตลาด แต่ระวังการขายทำกำไร นักลงทุนรายสัปดาห์ขายทำกำไร(ปิดLONG POSITION)ประมาณครึ่งหนึ่งของ PORTFOLIO GFM10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19200 รอขายที่ระดับ 19350 GFQ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19280 รอขายที่ระดับ 19430 ปัจจัยสำคัญ ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนมีมติเห็นชอบให้จัดตั้งกองทุนสร้างเสถียรภาพด้านการเงินแห่งยุโรป (European Financial Stability Facility) มูลค่า 7.50 แสนล้านยูโร (1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อยับยั้งวิกฤตหนี้สาธารณะไม่ให้ลุกลาม โดยในเบื้องต้นทางกองทุนจะออกพันธบัตรเพื่อการกู้ยืมเป็นวงเงินสูงถึง 4.40 แสนล้านยูโร (5.26 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในตลาดการเงิน ซึ่งรัฐบาลของประเทศในกลุ่มยูโรโซนจะเป็นผู้ค้ำประกันพันธบัตร และจะปล่อยกู้ให้กับประเทศสมาชิกที่มีปัญหาหนี้สิน โดยกองทุนสร้างเสถียรภาพด้านการเงินแห่งยุโรปถือเป็นกองทุนที่มีวงเงินสูงสุด เมื่อเทียบกับกองทุนสร้างเสถียรภาพมูลค่า 5 แสนล้านยูโร (6.70 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่รมว.คลังในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) อนุมัติเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุด เข้าถือครองทองคำแท่งเท่าเดิม ที่ระดับ 1286.359 ตัน เมื่อวันที่ 5มิ.ย. จากระดับของวันที่ 4มิ.ย. MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,219 $ ส่วน Gold Future M10 เปิดที่ 18,890 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 18,750 ปรับขึ้น 50 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นแต่มีการปรับฐานในช่วงนี้ ในช่วงเช้าราคาทองคำทรงตัวปรับตัวลงเล็กน้อย สำหรับช่วงบ่ายแกว่ง Side way และยืนอยู่เหนือ 1,200 $ ปิดตลาด Gold Future M10 ปิดตลาดที่ 18,850 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำปรับลง 50 บาท อยู่ที่ 18,750 บาท นักลงทุนทำกำไร ตามการแกว่งตัวของSpot Gold NIGHT RECAP:ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1219 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1212 - 1219 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1214 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวลงไปทำจุดสูงสุดที่ 1244.5 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1239.5 เหรียญ สนใจลงทุนใน Gold Futures กับ MTS Gold Futures สามารถติดต่อที่เบอร์ 02-222-5959

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ