กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--กทม.
เมื่อวานนี้ (7 มิ.ย. 53) นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายประสงค์ศักดิ์ อักษรมัต ประธานประชาคมสีลม แถลงข่าวการจัดมหกรรมถนนคนเดิน Together We Can : Grand Sale ใน 2 ถนนสายหลักประกอบด้วย ถนนสีลม เขตบางรัก และถนนรางน้ำ เขตราชเทวี เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้มีพื้นที่ค้าขายอย่างต่อเนื่องทุกวันเสาร์และอาทิตย์
สำหรับในวันเสาร์ที่ 12 อาทิตย์ที่ 13 มิ.ย. 53 ปิดถนนสีลม เขตบางรัก ตั้งแต่แยกศาลาแดง - แยกนราธิวาสราชนครินทร์ เส้นทาง 1.9 กิโลเมตร สามารถรองรับผู้ประกอบการกว่า 2,000 ราย ซึ่งนับได้ว่ามากที่สุดและยาวที่สุดเท่าที่เคยมีการจัดงานในรูปแบบการปิดถนน โดยจะเปิดให้จำหน่ายตั้งแต่เวลา 09.00-22.00 น. ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่สนใจให้เตรียมเอกสารประกอบด้วย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และเอกสารอื่นอาทิ หนังสือรับรองเหตุเพลิงไหม้ ทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนการค้า ฯลฯ ไปลงทะเบียนได้ที่อาคารลีลาศ ภายในสวนลุมพินี ถนนพระรามที่ 4 ระหว่างวันที่ 8-9 มิ.ย. 53 เวลา 09.00-16.00 น. สอบถามเพิ่มเติมที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ เขตบางรัก โทร. 0 2238 3886 และปิดถนนรางน้ำ เขตราชเทวี ระยะทาง 700 เมตร ในวันเสาร์ที่ 19 อาทิตย์ที่ 20 มิ.ย. 53 เวลา 09.00—22.00 น. สามารถรองรับผู้ค้าได้กว่า 700 ราย โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้าจากเซ็นเตอร์วัน และประตูน้ำ ผู้ประกอบการลงทะเบียนได้ในวันที่ 14 มิ.ย.53 ณ สำนักงานเขตราชเทวี เวลา 09.00-16.00 น. สอบถามโทร. 0 2354 4206
ภายในงานนอกจากการออกร้านของสินค้าและผลิตภัณฑ์หลากหลายจากผู้ประกอบการในราคาพิเศษแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ การแสดงดนตรี คอนเสิร์ต ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขาย และบริการตรวจสุขภาพ การเยียวยาจิตใจในรูปแบบ “เติมใจใส่ยิ้ม” จากสำนักอนามัยของกทม.
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม. มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ประสบปัญหาได้รับผลกระทบจากการชุมนุมอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดที่ Together we can : รวมกัน เราทำได้ โดยที่ผ่านมาได้ร่วมกันทำความสะอาดใหญ่ในทุกพื้นที่ของการชุมนุม การทำบุญเมืองครั้งใหญ่ การร่วมบริจาคในงาน Together we can : Charity Day เมื่อวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา สำหรับโครงการปิดถนนคนเดิน หรือ Together we can : Grand sale เป็นอีกหนึ่งโครงการที่กทม. จัดขึ้น โดยร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาพื้นที่เหมาะสมกับการค้าขาย และสามารถปิดถนนโดยส่งผลกระทบกับผู้ใช้ถนนและผู้อาศัย น้อยที่สุด เดินทางไปมาสะดวก ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ กทม. มุ่งหวังให้ผู้ประกอบการที่ได้ผลกระทบฯ ได้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีรายได้กลับมาหลังจากที่ต้องหยุดการประกอบการค้าไปกว่า 2 เดือน และยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้ประชาชนชาวกรุงเทพฯ ได้กลับมามีชีวิตแบบเดิมให้มากที่สุด เพื่อให้กรุงเทพก้าวเดินพัฒนาต่อไป
ด้านนายสุรเกียรติ ลิ้มเจริญ ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม. กล่าวถึงการเปิดพื้นที่ให้ค้าขายบริเวณ ถ.นราธิวาสฯ ได้มีการขยายพื้นที่ ตั้งบูธบริเวณ ด้านในถนนนราธิวาสฯ เพื่อรองรับผู้ประกอบการที่มีจำนวนมากโดยจะสามารถรองรับได้เพิ่มจากเดิมกว่า 500 บูธ และคาดว่าจัดงานทั้งสองวันจะมีเงินหมุนเวียนมากถึง 200 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้ร่วมกับประชาคมสีลม และตำรวจจราจร ปรับแผน การจัดการจราจร โดยจัดอาสาสมัครจากโรงเรียนในพื้นที่ เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการ และผู้เที่ยวชมงานให้ได้รับความสะดวกสบายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการให้ข้อมูล การจราจร และในเรื่องของความปลอดภัย รวมถึงจัดบริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างวิ่งรับ-ส่งในบริเวณงานในราคา 10 บาท ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากประชาชนที่เดินทางไปบริเวณงานใช้บริการระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ