“คิวรีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลอพเมนท์” จากห้องทดลอง สู่“เซรามิก”คุณภาพส่งออก

ข่าวทั่วไป Tuesday June 8, 2010 14:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--สวทช. โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย(iTAP) บ.คิวรีเสิร์ชฯทำวิจัยและพัฒนาสูตรดินและน้ำเคลือบเซรามิก เข้าร่วมโครงการ iTAP ซึ่งช่วยสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาทางเทคนิค จนได้สูตรดินและน้ำเคลือบที่มีความแข็งแรงสูงเหมาะสำหรับทำเซรามิกชุดอาหารส่งโรงแรมและภัตตาคารทั่วโลก พร้อมได้มาตรฐานเนื้อดินคุณภาพจนต้นทุนการผลิตลดลง ชี้ปีนี้ผลประกอบการดีเพิ่มขึ้น 30% ส่วนหนึ่งเป็นผลสำเร็จจากการทำงานวิจัยและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เซรามิก สามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์ในงานก่อสร้างอย่างกระเบื้อง สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ในครัวเรือนต่างๆ หรือแม้กระทั่งนำไปประดับบ้านเรือน ฯลฯ การได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์เซรามิกที่ดียังต้องหาวัตถุดิบให้เหมาะสม โดยเฉพาะหัวใจของการทำเซรามิกอย่าง สูตรดินและน้ำเคลือบ เนื่องจากสูตรดินแต่ละชนิดจะเหมาะสมเฉพาะกับการทำผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทเท่านั้น แนวทางการการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบเพื่อให้ได้ “ผลิตภัณฑ์เซรามิกคุณภาพที่ดี” จึงต้องทำอย่างต่อเนื่อง อย่าง บริษัท คิวรีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลอพเมนท์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดลำปางดินแดนของเซรามิกขึ้นชื่อ โดยคิวรีเสิร์ชฯยังทำงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เซรามิกเป็นหลัก เพื่อส่งต่อวัตถุดิบคุณภาพไปสู่บริษัทในเครือเดียวกัน นายพรเลิศ รุ่งเรือง ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนา บ.คิวรีเสิร์ชฯ กล่าวว่า “ คิวรีเสิร์ชฯ ก่อตั้งเมื่อปี 2550 เป็นหนึ่งในเครือของ บริษัทคิวอัลไลแอนซ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง ที่มีบริษัทในเครือ 4 บริษัทได้แก่ บริษัท ควอลิตี้เซรามิก จำกัด ซึ่งทำผลิตภัณฑ์เซรามิกประเภทเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร กลุ่มลูกค้าที่ซื้อไปใช้ตามบ้าน โดยส่งออกแถบโซนยุโรปถึง 95% , บริษัท อิมพีเรียล พอทเทอรี่ จำกัด ทำผลิตภัณฑ์เซรามิกใช้ในกลุ่มโรงแรม ภัตตาคารและเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทาน แข็งแรงเป็นหลัก , บริษัท ประติมาแอนด์บราลี จำกัด เป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายสินค้าภายในประเทศเท่านั้น โดยจำหน่ายทั้งแบรนด์ตัวเองหรือแบรนด์ของลูกค้า ตามห้างค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน ขณะนี้ บริษัทคิวรีเสิร์ชฯ ผันตัวเองจากแผนกวิจัยและพัฒนาของบริษัทควอลิตี้ฯมาตั้งเป็นบริษัททำงานวิจัยและพัฒนาทั้งสูตรดินและน้ำเคลือบเซรามิก เพื่อส่งวัตถุดิบให้บริษัทในเครือ” สำหรับการทำงานของ บริษัทคิวรีเสิร์ชฯนั้นจะทำงานวิจัยและพัฒนาเป็นหลัก โดยมีแผนกต่างๆ อาทิ แผนกผลิตซึ่งทำหน้าที่ผลิตดินและเคลือบ, แผนกวิจัยและพัฒนาสูตรดินและน้ำเคลือบ, แผนกประกันคุณภาพเพื่อตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และแผนกพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบทำหน้าที่ในการออกแบบดีไซด์ เป็นต้น ผู้จัดการฝ่ายวิจัยฯคิวรีเสิร์ชฯ กล่าวว่า เดิมเรามีสูตรดินและน้ำเคลือบที่ใช้กันเพียง 1 สูตร แต่เมื่อตั้งเป็นบริษัทฯจึงได้พัฒนาสูตรดินและเคลือบเพิ่มขึ้นถึง 4 สูตร ทั้งนี้เพื่อความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์เซรามิกแต่ละประเภทที่ต้องการสูตรดินที่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน และบริษัทฯจะส่งวัตถุดิบให้เฉพาะลูกค้าในเครือเท่านั้น คือ บริษัท ควอลิตี้เซรามิก จำกัด และ บริษัท อิมพีเรียล พอทเทอรี่ จำกัด “เนื่องจากปัจจุบันมีหลายสูตร จึงต้องตั้งคิวรีเสริ์ชฯเพื่อควบคุม ตรวจสอบ ให้ได้มาตรฐานที่ลูกค้าต้องการ จึงพยายามควบคุมทุกกระบวนการผลิตให้มากที่สุด จึงขยับมาทำดินและทำสูตรเอง เนื่องจากหากควบคุมวัตถุดิบได้ทั้งหมดก็จะสามารถสร้างมาตรฐานสินค้าให้ดีที่สุดไปด้วย” ด้านจุดเด่นของวัตถุดิบ เช่น หากเป็นบริษัทควอลิตี้ฯ จะใช้สองสูตร โดยเป็นเนื้อดินประเภทเอิร์ธเทิน แวร์ ประกอบด้วยดินสีขาวและดินสีครีม ส่วนรายละเอียดจะมีความแตกต่างกันในแต่ละสูตร เนื่องจากนำไปทำผลิตภัณฑ์ชุดอาหาร ซึ่งต้องการสีขาวหรือสีครีมที่ดูสะอาดตาเป็นหลัก โดยจะใช้วัตถุดิบทั้งในประเทศ และบางส่วนต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากบ้านเรายังไม่มีดินที่มีความขาวเพียงพอ โดยความขาวหรือสีของเซรามิกที่ได้ต้องมาจากตัวดินเองไม่ใช่มาจากน้ำเคลือบเพื่อให้มีความขาวใสมากที่สุด จึงจะได้ผลิตภัณฑ์เซรามิกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่ โดยเน้น “ความเรียบง่าย แต่ดูดี” หากเป็นลูกค้าอย่างบริษัทอิมพีเรียลฯ จะใช้เนื้อดินประเภทวิเทรียส ไชน่า ซึ่งเป็นดินที่มีคุณสมบัติ แข็งแรง ทนทาน จึงทำให้เหมาะสำหรับการผลิตเซรามิกเป็นชุดอาหารใช้งานในโรงแรมและภัตตาคาร ซึ่งต้องมีความทนทาน ผู้จัดการฝ่ายวิจัยฯคิวรีเสิร์ชฯ กล่าวอีกว่า แหล่งวัตถุดิบในประเทศที่ใช้ จะมีดินดำมาจากจังหวัดลำปางและดินขาวมาจากระนอง และยังจำเป็นต้องนำเข้าดินจากต่างประเทศ เนื่องจากดินบ้านเรายังมีคุณสมบัติเรื่องสียังขาวไม่เพียงพอและความสำคัญของสีขาวนี้จำเป็นมากในการผลิตเซรามิกชุดอาหารในโรงแรม ภัตตาคาร ดังนั้นวัตถุดิบดินที่ใช้อยู่ในขณะนี้จะมีทั้งในประเทศ 40% และนำเข้าจากต่างประเทศ 60% โดยนำเข้าดินจากจีน เวียดนาม และโซนยุโรป และนำมาปรับปรุงสูตรให้เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ “ในฐานะของบริษัทฯทำสูตรดิน เราจึงเป็นเหมือนพ่อครัวคอยผสมสูตรต่างๆและนำไปเสิร์ฟตามที่ลูกค้าต้องการ” เมื่อเป็นบริษัทฯที่ทำวิจัยและพัฒนาเป็นหลัก จึงสนใจเข้าร่วมกับ โครงการ iTAP (โครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย) สวทช.เครือข่าย ภาคเหนือ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยฯคิวรีเสิร์ชฯ กล่าวถึงการทำงานครั้งนี้ว่า ก่อนหน้านี้เรามีงานวิจัยเองและมีการจ้างทีมที่ปรึกษาอยู่แล้ว เมื่อเจอ iTAP จึงจุดประกายให้เข้าร่วมโครงการต่างๆและมี iTAP สนับสนุนด้านงบประมาณในส่วนของผู้เชี่ยวชาญเข้ามาแนะนำงานวิจัยและพัฒนาสูตรต่างๆ โครงการการพัฒนาเนื้อดินและเคลือบไฮ-อลูมิน่า จึงเกิดขึ้น โดยไฮลูมิน่านั้นเป็นแร่ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่ทำให้ดินมีความแข็งแรงทนทานมากยิ่งขึ้น การพัฒนางานวิจัยนี้จึงต้องการปรับปรุงสูตรดินและน้ำเคลือบให้มีความแข็งแรงสูง สามารถนำไปผลิตและส่งให้ลูกค้าที่ต้องการทำผลิตภัณฑ์เซรามิกที่มีความทนทาน โดยเฉพาะลูกค้าอย่างบริษัทอิมพีเรียลฯที่เพิ่งเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์เซรามิกใช้งานในโรงแรมต่างๆทั้งแถบยุโรปและทั่วโลก ผลสำเร็จของโครงการนี้นอกจากจะได้สูตรดินและน้ำเคลือบที่มีความแข็งแรงสูงแล้ว ยังได้มาตรฐานดินที่สามารถนำไปผลิตจริงได้อย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ยังมี โครงการพัฒนาเนื้อดินและเคลือบ OEM (OEM คือ การรับจ้างผลิต)โดยเกิดจากโจทย์ของลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์เซรามิกที่มีสีครีมซึ่งความต้องการสีของวัตถุดิบจะแตกต่างกันไปตามการใช้งาน ดังนั้นเมื่อวิจัยและพัฒนางานนี้จึงทำให้ได้สูตรดินและน้ำเคลือบที่มีคุณสมบัติตามที่ลูกค้ากำหนด สามารถนำไปผลิตได้จริง ด้านกำลังการผลิตของ คิวรีเสิร์ชฯนั้นจะจำหน่ายวัตถุดิบทั้งดินและน้ำเคลือบอยู่ที่ประมาณ 900 — 1,000 ตันต่อเดือน สร้างรายได้ให้กับบริษัทประมาณ 70 ล้านบาทต่อปี(จำหน่ายเฉพาะในเครือเดียวกัน) โดยปี 2553 นี้ยังมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นถึง 30% ซึ่งรายได้เหล่านี้ส่วนหนึ่งมาจากผลสำเร็จของงานวิจัยและพัฒนา ทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ผู้จัดการฝ่ายวิจัยฯคิวรีเสิร์ชฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแนวทางการทำงานร่วมกับ iTAP ยังคงมีนโยบาย ต่อเนื่องเพราะบริษัทฯทำงานวิจัยและพัฒนาเป็นหลัก ดังนั้นการมีพันธมิตรอย่าง iTAP มาช่วยสนับสนุนการทำงานจึงเป็นสิ่งที่ดี โดยคาดว่าจะทำโครงการเกี่ยวกับการลดอุณหภูมิในเตาเผาเซรามิก ทั้งนี้เพื่อลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตต่อไป อีกทั้งมองว่าการทำงานวิจัยและพัฒนาต้องทำอย่างจริงจังต่อเนื่อง จึงจะทำให้เกิดผลสำเร็จในที่สุด สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจขอรับการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี ติดต่อได้ที่โครงการ iTAP (ส่วนกลาง ) โทร.02-564-7000 ต่อโครงการ iTAP หรือ เครือข่าย สวทช.ภาคเหนือ โทรศัพท์ (053)226-264 โทรสาร (053) 226-265 หรือเว็บไซด์ www.nn.nstda.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ