กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--กทม.
กทม. ขอยกเว้นภาษีอากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีอื่นๆ ของการซื้อรถดับเพลิงเช่นเดียวกับ สตช. ก่อนโอนภารกิจดับเพลิงให้กทม. เนื่องจากเคยซื้อและได้รับการยกเว้นภาษีเพื่อปฏิบัติงานเช่นเดียวกัน
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงต่อสื่อมวลชนกรณีรถดับเพลิง หลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 50 ว่า หลังจากที่กรุงเทพมหานครต้องจ่ายเงินงวดที่ 2 แก่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวน 16,656,047.89 ยูโร (ประมาณ 777,440,548.86 บาท) แต่ยังยืนยันความเห็นเดิม ที่ประสงค์จะให้มีการนำเรื่องเรียนขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อขอยกเว้นภาษีอากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีอื่นๆ เนื่องจากก่อนที่จะโอนภารกิจด้านดับเพลิงมาอยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานครนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง และอุปกรณ์ฯ จากประเทศออสเตรีย รวม 3 ครั้ง ได้รับยกเว้นภาษีอากรขาเข้า ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีอื่นๆ โดยกองพลาธิการและสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เคยจัดซื้อรถดับเพลิงและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ได้รับการยกเว้นภาษีอากรขาเข้า และภาษีมูลค่าเพิ่มตาม พรก.พิกัดอัตราศุลกากร ภาค 4 ประเภท 13 โดยใช้สิทธิของการเป็นหน่วยราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการต่อสู้ป้องกันและปราบปราม หรือรักษาความมั่นคงของประเทศ
การรับโอนภารกิจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี และยังคงต้องปฏิบัติภารกิจเดิมที่เป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเต็มรูปแบบโดยไม่มีการยกเว้น นอกจากนั้นแล้วผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีสถานะเป็นผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (ผอ.รมน.กทม.) เป็นกรรมการของคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ เป็นผู้อำนวยการป้องกันภัยกรุงเทพมหานคร และเป็นกรรมการของคณะกรรมการป้องกันฝ่ายพลเรือนแห่งชาติ เช่นเดียวกับผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับผิดชอบร่วมดูแลความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายในราชอาณาจักร การก่อการร้าย การก่อวินาศกรรม และการก่อความไม่สงบในพื้นที่กทม. จึงสมควรที่จะมีสิทธิได้รับการยกเว้นภาษี ด้วยเช่นเดียวกัน