ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 9 มิ.ย. 53

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 9, 2010 10:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ ราคาสมาคม เปิดที่ 18,950 - 19,050 ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,237 อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 32.62 — 32.72 GFM10 Hi- Low 19,320— 19,150 ปิดที่ 19,300 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,245.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เคลื่อนตัวในช่วง 1,235.40 - 1,254.50 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงเวลาที่วิกฤตการณ์การเงินมีแนวโน้มว่าจะลุกลามไปทั่วยุโรป โดยฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่า อังกฤษกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการคลังซึ่งยากที่จะจัดการ ขณะที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส แสดงความไม่มั่นใจในแนวโน้มด้านการคลังของฮังการี ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดบวก 123.49 จุด หรือ 1.26% แตะที่ 9,939.98 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 11.53 จุด หรือ 1.10% ปิดที่ 1,062.00 จุด ขานรับเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในระดับปานกลาง และเชื่อว่าเศรษฐกิจจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยรอบใหม่ ซึ่งการแสดงความเห็นในด้านบวกของเบอร์นันเก้ช่วยให้นักลงทุนผ่อนคลายจากความวิตกกังวลเรื่องปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 71.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 70.75 - 72.40 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเมื่อ 2 วันทำการที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเห็นในด้านบวกต่อเศรษฐกิจ และการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่แล้วจะปรับตัวลดลง กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 9 มิ.ย. ซื้อเพิ่ม 12.17 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,286.36 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,298.53 ตัน USD/EU ค่าเงินปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่า อังกฤษกำลังเผชิญปัญหาด้านการคลัง พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลภายใต้การนำของนายเดวิด คาเมรอน เร่งลดยอดขาดดุลงบประมาณ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจาก เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยรอบใหม่ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.1953 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.09% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 91.400 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 91.320 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 91.42 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 32.60-32.66 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 32.59-32.66 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก ฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่า อังกฤษกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการคลังซึ่งยากที่จะจัดการ และชี้ถึงความจำเป็นที่รัฐบาลผสมชุดใหม่ของอังกฤษจะต้องเร่งเดินหน้าแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณให้เร็วขึ้นกว่าที่รัฐบาลชุดก่อนได้ประกาศไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยฟิทช์ระบุในรายงานพิเศษที่มีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลอังกฤษต้องกำหนดแผนการที่ยากกว่าที่รัฐบาลชุดก่อนได้ประกาศไว้ โดยรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคแรงงานของอดีตนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะลดยอดขาดดุลให้ลงมาเหลือ 8.5% ของจีดีพีในปีงบประมาณ 2554/2555 และลงมาเหลือ 5.2% ในปี 2556/2557 ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน มีกำหนดการที่จะแถลงงบประมาณฉุกเฉินในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยรายละเอียดของมาตรการหั่นรายจ่ายของรัฐเพื่อลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะ เบอร์นันเก้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ABC News ที่วอชิงตัน ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวในระดับปานกลางและไม่มีแนวโน้มที่จะเผชิญภาวะถดถอยรอบใหม่ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) จากระดับต่ำสุดในปัจจุบันที่ 0 - 0.25% ก่อนที่การจ้างงานในสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ นอกจากจะช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์แล้ว ยังเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินยูโรด้วย เพราะทำให้นักลงทุนคลายจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์การเงินในยุโรปอาจลุกลามไปทั่วภูมิภาคแอตแลนติก โดยเบอร์นันเก้กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ ABC News ว่า ผู้นำยุโรปดำเนินการมาอย่างถูกทางแล้วในการควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณ สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผย ยอดส่งออกเดือนเม.ย.หดตัวลง 5.9% จากเดือนมี.ค. มาอยู่ที่ระดับ 7.53 หมื่นล้านยูโร หรือ 8.99 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนเม.ย.ลดลง 7.5% จากเดือนมี.ค. สู่ระดับ 6.19 หมื่นล้านยูโร มูดีส์ บริษัท จัดอันดับความน่าเชื่อถือ กล่าวว่า คำเตือนจากเจ้าหน้าที่ฮังการีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้ ทำให้มูดีส์ไม่มั่นใจในแนวโน้มด้านการคลังของฮังการี และอาจส่งผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของฮังการี ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) เตรียมทบทวนรายงานด้านการเงินสาธารณะของรัฐบาลฮังการี ก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องการปรับอันดับเครดิตของฮังการีต่อไป โดยปัจจุบัน S&P ให้อันดับเครดิตฮังการีที่ BBB- ตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 มิ.ย. ซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันมีแนวโน้มทรงตัว สำนักงานสถิติของกรีซเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของกรีซในเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 5.4% เนื่องจากรัฐบาลกำลังใช้มาตรการเข้มข้นในการแก้ปัญหาหนี้สาธารณะ ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บภาษีสินค้าอุปโภคบริโภคเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นอย่างรุนแรงนี้ เป็นผลมาจากราคาแอลกอฮอล์และบุหรี่ที่พุ่งสูงขึ้น 16.9% รวมทั้งค่าคมนาคมขนส่งที่พุ่งขึ้นถึง 20.3% นายพอล วอล์คเกอร์ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษาด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประธานาธิบดีบารัค โอบามา คาดการณ์ว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในช่วง 1,050 - 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ และอาจจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ หากวิกฤตหนี้สาธารณะ (sovereign debt) ในยุโรปลุกลามไปยังภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นสูงกว่าราคาพลาตินัม "วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปในขณะนี้กำลังส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง เพราะนักลงทุนกังวลว่าปัญหาหนี้ในยุโรปอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งผมคาดว่าหากวิกฤตการณ์ดังกล่าวลุกลามไปทั่วยุโรป ก็จะทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำไปจนถึงสิ้นปีนี้ และอาจหนุนราคาทองคำพุ่งแตะ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์" วอล์คเกอร์กล่าว คำแนะนำการลงทุน Gold Futures DAY TRADER GFM10 ซื้อในช่วงราคา 19100 — 19200 ขายในช่วงราคา 19350 - 19400 GFQ10 ซื้อในช่วงราคา 19170 - 19250 ขายในช่วงราคา 19370 — 19410 SWING TRADER ทิศทางราคาทองคำระยะยาวยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น คาดว่าทิศทางราคาทองคำระยะสั้นจะเป็นช่วงขายทำกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยมีแนวรับ-แนวต้านที่1225-1250 คำแนะนำนักลงทุนรายวันเก็งกำไรจากการแกว่งตัวของตลาด นักลงทุนรายสัปดาห์ขายทำกำไร(ปิด LONG POSITION)ต่อเนื่อง รอจังหวะเข้าซื้อกลับบริเวณแนวรับ GFM10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19050 รอขายที่ระดับ 19200 GFQ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19130 รอขายที่ระดับ 19280 ปัจจัยสำคัญ ฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่า อังกฤษกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการคลังซึ่งยากที่จะจัดการ และชี้ถึงความจำเป็นที่รัฐบาลผสมชุดใหม่ของอังกฤษจะต้องเร่งเดินหน้าแผนการลดยอดขาดดุลงบประมาณให้เร็วขึ้นกว่าที่รัฐบาลชุดก่อนได้ประกาศไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลอังกฤษภายใต้การนำของพรรคแรงงานของอดีตนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะลดยอดขาดดุลให้ลงมาเหลือ 8.5% ของจีดีพีในปีงบประมาณ 2554/2555 และลงมาเหลือ 5.2% ในปี 2556/2557 เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยรอบใหม่การแสดงความคิดเห็นของเบอร์นันเก้ นอกจากจะช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์แล้ว ยังเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินยูโรด้วย เพราะทำให้นักลงทุนคลายจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์การเงินในยุโรปอาจลุกลามไปทั่วภูมิภาคแอตแลนติก โดยเบอร์นันเก้กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ ABC News ว่า ผู้นำยุโรปดำเนินการมาอย่างถูกทางแล้วในการควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณ กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุด เข้าถือครองทองคำเพิ่มขึ้น12.171ตัน ที่ระดับ 1298.53 ตัน เมื่อวันที่ 8มิ.ย. จากระดับ1286.359ของวันที่ 7มิ.ย. MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,237 $ ส่วน Gold Future M10 เปิดที่ 19,170 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 18,750 ปรับขึ้น 300 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา Spot Gold ขึ้นอย่างรุนแรง ในช่วงเช้าราคาทองคำทรงตัวปรับขึ้นต่อเล็กน้อย สำหรับช่วงบ่าย Spot Gold ขึ้นอย่างรุนแรง โดยสามารถทำ New High ใหม่ได้ที่ระดับ 1,252 $ ปิดตลาด Gold Future M10 ปิดตลาดที่ 19,300 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำปรับขึ้น 100 บาท อยู่ที่ 19,150 บาท นักลงทุนทำกำไรจากการขึ้นของSpot Gold NIGHT RECAP:ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1238 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1235 - 1252 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1248 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1240 - 1250 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1236.8 เหรียญ สนใจลงทุนใน Gold Futures กับ MTS Gold Futures สามารถติดต่อที่เบอร์ 02-222-5959

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ