กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--Vivaldi Public Relations
ด้วยการนำของกรรมการผู้จัดการใหญ่อย่างอลัน มิว ทำให้ทีเอ็นที ประเทศไทย สามารถดำเนินงานฟันฝ่าและรอดพ้นจากวิกฤติการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับประเทศไทยที่เป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับมาได้อย่างงดงาม ด้วยการปฏิบัติตามแผนรับสถานการณ์ฉุกเฉินทางธุรกิจ (Business Contingency Plan - BCP) อันชาญฉลาดอย่างเข้มงวด ตลอดจนการสนับสนุนของพนักงานของบริษัทด้วยดีตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อวิกฤติการณ์เริ่มขึ้น แผนรับสถานการณ์ฉุกเฉินจึงถูกตระเตรียมขึ้นเพื่อให้ทุกแผนกของบริษัทสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างทันท่วงที โดยเส้นทางการรับส่งสินค้าสายหลักได้ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดให้หลีกเลี่ยงบริเวณที่เกิดการชุมนุม เพื่อเป็นการรับรองความปลอดภัยของพนักงานบริษัท ส่วนสถานที่ทำงานของแผนกลูกค้าสัมพันธ์ก็ได้ย้ายไปยังสถานที่ซึ่งห่างไกลจากจุดซึ่งอาจเกิดการปะทะกัน โดยที่ยังสามารถติดต่อประสานงานกับบริษัทของลูกค้าทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในขณะที่เครือข่ายการขนส่งทางบก Asia Road Network (ARN) อันเลื่องชื่อของทีเอ็นที ก็ได้ถูกกำหนดเส้นทางใหม่เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นต่อบริการของลูกค้า เพื่อมุ่งให้บริการขนส่งสินค้าแก่ลูกค้าทุกรายได้อย่างราบรื่นไร้อุปสรรค
เมื่อเหตุการณ์เริ่มตึงเครียดยิ่งขึ้น คณะปฏิบัติงานของศูนย์บัญชาการ (Command Centre Team - CCT) จึงเริ่มดำเนินงานทันที โดยมีการประชุมรายวันเพื่อประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นและที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการดำเนินงานของทีเอ็นที ประเทศไทย ผ่านการศึกษาสถานการณ์ที่อาจเป็นไปได้ตลอดจนรายละเอียดและแผนตอบรับต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
โดยในระหว่างการปฏิบัติตามแผนรับสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ ทีเอ็นที ยังคงให้บริการด้วยมาตรฐานระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ด้วยการตระหนักถึงทัศนคติที่ว่า “Sure, we can” และความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงในการให้บริการที่ดีเยี่ยมที่สุดแก่ลูกค้า ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น ทีเอ็นทีจะยังคงยืนหยัดเพื่อปฏิบัติตตามสัญญาที่ให้ไว้แก่ลูกค้าอย่างมั่นคง
ความคุ้นเคยกับแรงกดดันทั้งเรื่องระยะเวลาและกำหนดส่งมอบงาน ทำให้ทีมประสานงานฝ่ายท่าอากาศยานและฝ่ายลำเลียงสินค้าสามารถปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าว่าขั้นตอนการขนส่งสินค้าทั้งขาเข้าและขาออกจะสามารถดำเนินการไปได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน ทีมงานลำเลียงสินค้ายังต้องทำหน้าที่สำรองพื้นที่บนเที่ยวบิน เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าทั้งหมดของลูกค้าจะได้รับการลำเลียงขนส่งไปตามแผนที่กำหนดไว้
ด้วยการทำงานที่ไม่รอคอยโอกาส ทีมฝ่ายขายยังได้ทำการติดต่อกับลูกค้าเพื่อเสนอความช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างสม่ำเสมอ ในด้านบริการเพิ่มเติมที่ลูกค้าต้องการเป็นพิเศษ
การยืนหยัดให้บริการอย่างสม่ำเสมอถือเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของทีเอ็นที ประเทศไทย โดยกรรมการผู้จัดการใหญ่ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า การให้บริการภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานของบริษัทและเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่ว่า “Sure, we can” ของบริษัทอย่างชัดเจน
เกี่ยวกับทีเอ็นที เอ็กซเพรส
ทีเอ็นที เอ็กซเพรส คือหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งพัสดุภัณฑ์ด่วนชั้นนำระดับโลก โดยมีหน้าที่ขนส่งหีบห่อ เอกสาร และพัสดุรวมกว่า 4.4 ล้านชิ้นต่อสัปดาห์ไปกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ผ่านเครือข่ายจุดรับส่งสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และศูนย์คัดแยกสินค้ากว่า 2,409 แห่ง ทีเอ็นที เอ็กซเพรส ปฏิบัติงานด้วยยานพาหนะในการขนส่งทางบกกว่า 26,310 คัน และเครื่องบิน 48 ลำ และมีโครงสร้างการขนส่งสินค้าทั้งทางบกและทางอากาศแบบส่งตรงถึงมือลูกค้า ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
ทีเอ็นที เอ็กซเพรส มีพนักงานมากกว่า 78,000 คนทั่วโลก ซึ่งถือเป็นองค์กรแห่งแรกที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกในฐานะองค์กรที่ลงทุนในด้านการพัฒนามนุษย์ โดยในปี ค.ศ. 2009 แผนกได้รายงานรายรับที่ 5.956 พันล้านยูโร ซึ่งเป็นรายได้จากการดำเนินงาน 193 ล้านยูโร สามารถดูข้อมูลของทีเอ็นที เอ็กซเพรส ได้ที่ http://www.tnt.com/express
ทีเอ็นที เป็นผู้ให้บริการด้านการจัดส่งไปรษณีย์และพัสดุด่วนให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจและลูกค้าชั้นนำทั่วไประดับโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ ทีเอ็นทียังมีเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพทั้งในทวีปยุโรปและเอเชีย และกำลังขยายการปฏิบัติงานไปยังทั่วโลกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่ายต่างๆ ทีเอ็นทีเปิดให้บริการในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 160,000 คนปฏิบัติงานอยู่ทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2552 ทีเอ็นทีรายงานยอดรายรับที่ 10.4 พันล้านยูโร และเงินรายรับจากการดำเนินงานที่ 648 ล้านยูโร โดยทีเอ็นทีได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอัมสเตอร์ดัมส์แล้ว นอกจากนี้ ทีเอ็นทียังเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับโครงการเพื่อสังคมต่างๆ โดยได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับโครงการอาหารโลก และโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ เพื่อต่อต้านความหิวโหยของผู้ยากไร้และมลพิษต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งความมุ่งมั่นของเราได้เป็นที่ประจักษ์ โดยในปี พ.ศ. 2552 ทีเอ็นทีติดอันดับสูงสุดในดัชนีวัดความมั่นคงดาวโจนส์เป็นปีที่สองติดต่อกัน สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เ็ว็บไซด์ http://gr oup.tnt.com
สำหรับสื่อมวลชน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
จันทร์พิมพ์ มีระเกตุ
Public Relations Manager
Vivaldi Public Relations
โทรศัพท์: 0 2612 2253 ต่อ 105
แฟกซ์: 0 2612 2254
อีเมล์: chanpim.merakate@vivaldipr.com
เว็บไซต์: www.vivaldipr.com