อีซูซุพาเที่ยวแบบประหยัดน้ำมันจากไทยไกลถึงจีน ด้วยน้ำมันเพียงถังเดียว!!!

ข่าวยานยนต์ Wednesday June 9, 2010 14:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--Dai-Ichi Kikaku อีซูซุโชว์พลังประหยัดอันเหนือชั้นด้วยน้ำมัน 1 ถัง...ยังเหลือ ใน “คาราวานท่องเที่ยวประหยัดน้ำมัน อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล น้ำมันถังเดียว...เที่ยวไกลไปถึงจีน”จากไทย (เชียงราย) ผ่านลาว ถึงเมืองคุนหมิง ประเทศจีน รวมระยะทาง 1,114 กม. รณรงค์การท่องเที่ยวแบบประหยัดน้ำมัน ร่วมกับผู้ใช้รถอีซูซุตัวจริง 8 คน และรถอีซูซุดีแมคซ์ และอีซูซุมิว-เซเว่น ซูเปอร์ แพลททินั่ม 8 คัน บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดประสบการณ์ใหม่ของการท่องเที่ยวแบบประหยัดน้ำมันกับจุดหมายที่ท้าทายกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ใน “คาราวานท่องเที่ยวประหยัดน้ำมัน อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล น้ำมันถังเดียว เที่ยวไกลไปถึงจีน” เส้นทาง ไทย (เชียงราย) — ลาว — จีน (คุนหมิง) โดยการสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ไม่เพียงส่งเสริมให้ผู้ใช้รถอีซูซุได้มีโอกาสขับรถท่องเที่ยวในรูปแบบคาราวานรถยนต์จากประเทศไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ยังรณรงค์ให้นำวิธีการขับรถประหยัดน้ำมันมาใช้ควบคู่ไปกับรถอีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรลที่โดดเด่นในด้านสมรรถนะ และความประหยัดน้ำมันอันเป็นเอกลักษณ์ของอีซูซุ ซึ่ง มร. เอช. นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ได้กล่าวที่มาของการเดินทางครั้งนี้สั้นๆ ว่า “อีซูซุเลือกเส้นทางนี้ซึ่งเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก คดเคี้ยว สูงชัน อีกทั้งยังจอแจด้วยสภาพการจราจร นั่นเป็นเพราะเราอยากพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ผู้ใช้รถอีซูซุตัวจริง แม้ว่าจะขับอยู่ในเส้นทางที่ลำบากขนาดไหนก็ยังสามารถใช้วิธีการขับประหยัดน้ำมันอย่างได้ผลและเป็นการท้าทายสมรรถนะของรถอีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล” ขบวนคาราวานเริ่มต้นที่หอวัฒนธรรมเชียงราย ซึ่งอดีตเป็นศาลากลางหลังเก่า โดยมีพ่อเมือง - คุณสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายให้เกียรติมาร่วมในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ครั้งนี้ “นับเป็นความภูมิใจของชาวเชียงรายที่อีซูซุได้เลือกที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นคาราวานจากไทยผ่านลาว และไปถึงที่หมายที่จีนด้วยความประหยัดน้ำมัน เส้นทางสายนี้ต่อไปจะเป็นเส้นทางชีวิตของไทยในฐานะประตูสู่นานาชาติ เพราะเชียงรายไม่เพียงอยู่ระหว่างขยายถนน 4 เลนที่ไปสู่อำเภอเชียงของ ที่มีท่าเรือสำหรับข้ามไปยังบ้านห้วยทรายของลาวแล้ว ต่อไปยังจะสะดวกขึ้นเมื่อสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ซึ่งอยู่ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงรายจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2555” เวลา 06.00 น. 8 ผู้ใช้รถอีซูซุตัวจริงจากสาขาอาชีพต่างๆ พร้อมด้วยรถอีซูซุดีแมคซ์ และอีซูซุมิว-เซเว่น ซูเปอร์ แพลททินั่ม มาตรฐานโรงงาน 8 คันเริ่มต้นการเดินทางมุ่งสู่ อำเภอเชียงของตรงไปที่ท่าเรือบั๊ค เพื่อนำรถไปลงแพขนานยนต์และขึ้นที่บ้านห้วยทราย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แล้วจึงเปลี่ยนมาวิ่งชิดขวาผ่านไปยังชายแดนจีน ซึ่งการเดินทางช่วงนี้แม้ว่าจะมีระยะทางเพียง 220 กว่ากิโลเมตร แต่การขับรถลุยฝุ่นบนทางลูกรัง และถนนชำรุดที่ปิดซ่อมเป็นช่วงๆ อีกทั้งแวะเข้าห้องน้ำอีกหลายครั้ง และรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารแถวบ่อเต็น รวมถึงการทำเรื่องผ่านด่านโมฮันเข้าสู่สาธารณรัฐประชาชนจีนนั้นใช้เวลามากโขอยู่ กว่าจะผ่านพ้นจึงล่วงเข้าบ่ายแก่ๆ รถทุกคันในขบวนจึงต้องเร่งความเร็ว ใช้กำลังในการปีนไต่ถนนที่สูงชัน ลอดอุโมงค์ที่ตัดทะลุภูเขา และวิ่งบนทางเชื่อมระหว่างทิวเขาที่สลับซับซ้อนของมณฑลยูนนานมุ่งสู่เมืองเชียงรุ้ง จุดหมายปลายทาง ณ โรงแรม Sightseeing ซึ่งอยู่บริเวณใจกลางเมืองเมื่อใกล้พลบค่ำ โดยคณะกรรมการควบคุมการเดินทาง จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ และสื่อมวลชนที่ร่วมเป็นสักขีพยานตลอดทางร่วมกันตรวจสอบความสมบูรณ์ของสติ๊กเกอร์พิเศษที่ลายเซ็นกำกับไว้ และปิดที่ฝาถังน้ำมัน ฝากระโปรงรถ และปุ่มแอร์ที่ล็อคไว้คงที่ที่เบอร์ 2 เพื่อยืนยันว่าทุกคันเปิดแอร์ตลอดเส้นทาง ทุกคนประจักษ์กับความประหยัดน้ำมันของระยะทาง 563 กม.ที่วิ่งมาในวันแรก รถแต่ละคันใช้น้ำมันไปไม่ถึงขีด!!! รุ่งเช้าการเดินทาง 551 กม.สุดท้ายเริ่มขึ้น จากเชียงรุ้งไปสิ้นสุด ณ เมืองคุนหมิง เมืองหลวงของยูนนาน โดยช่วงแรกใช้เส้นทางท้องถิ่น ทางขึ้นเขาที่ค่อนข้างแคบ โค้งคดเคี้ยว และอันตรายเนื่องจากมีร่องน้ำลึกอยู่สองฟากฝั่ง ประกอบกับรถบรรทุกใหญ่ที่วิ่งกันจอแจและปล่อยน้ำที่ใช้สำหรับคลายความร้อนที่เบรกลงสู่พื้นจนทำให้ถนนลื่น ก่อนจะตัดเข้าสู่ไฮเวย์มุ่งสู่เมืองผูเอ่อ ที่มีชื่อเสียงเรื่องใบชา เพื่อไปรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเซิ่งอันตี้ รวมถึงอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารระหว่างทาง เส้นทางโดยทั่วไปอยู่บนถนนที่ไต่ระดับสูงชันจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,500 — 2,452 เมตร ซึ่งสูงใกล้เคียงกับดอยอินทนนท์ของไทยเกือบตลอดวัน จนประมาณ 17.00 น. ขบวนจึงไปสิ้นสุดที่ซุ้มประตูเมืองโบราณกวนตู้ ณ เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมระยะทาง 1,114 กม. หลังจากฝ่าฟันบนสภาพจราจรจริง โดยใช้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 70-90 กม./ ชม. และเปิดแอร์ตลอดเส้นทางได้เป็นผลสำเร็จ โดยน้ำมัน 1 ถัง...ยังเหลือ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาเหลือเกินสำหรับรถอีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล ที่สำคัญไปกว่านั้นหลังจากเติมน้ำมันเต็มถังอีกครั้ง รถอีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรลทั้ง 8 คัน ใช้น้ำมันไปเพียง 50-62 ลิตร จากที่เติมไว้เต็มถัง 76 ลิตร อัตราประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 18.03 -22.67 กม./ลิตร โดยเฉพาะรถอีซูซุดีแมคซ์ สเปซแค็บ หมายเลข 07 เหลือน้ำมันมากที่สุดสามารถวิ่งต่อได้อีกนับร้อยกิโลเมตร มร. เอส. วากาบายาชิ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ซึ่งร่วมขบวนคาราวานมาตั้งแต่ต้นจนถึงปลายทาง เปิดเผยว่า “ความสำเร็จในครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้คนไทยสนับสนุนการขับรถแบบประหยัดน้ำมัน ซึ่งจะช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่าต่อโลก รวมทั้งตอกย้ำคุณสมบัติอันเหนือชั้นในด้านการประหยัดน้ำมันของอีซูซุ และเป็นเส้นทางที่ยากลำบากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาได้แสดงสมรรถนะในการเกาะถนนและเข้าโค้งของรถอีซูซุให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกท่าน” หลังจากเดินทางมาเป็นเวลา 2 วันเต็ม เหล่าบรรดานักขับและครอบครัวได้ท่องเที่ยวชมสถานที่น่าสนใจต่างๆ ในเมืองคุนหมิงอย่างเต็มที่อีก 2 วัน ซึ่งทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นที่น่าจดจำและมีคุณค่ามากขึ้นสมกับการเป็น “คาราวานท่องเที่ยวประหยัดน้ำมัน อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล น้ำมันถังเดียว...เที่ยวไกลไปถึงจีน” ที่สร้างความสุขจากการเดินทางท่องเที่ยวทางไกลข้ามประเทศไปพร้อมๆ กับการรณรงค์ช่วยชาติประหยัดน้ำมันในแบบฉบับอีซูซุ สถิติประหยัดน้ำมันใน “คาราวานท่องเที่ยวประหยัดน้ำมัน อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล น้ำมันถังเดียว เที่ยวไกลไปถึงจีน” NO. 01 รถอีซูซุมิว-เซเว่น ซูเปอร์ แพลททินั่ม พรีโม เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ เกียร์ออโตเมติก ผู้ขับ : คุณมานพ หมื่นชนานันท์ อาชีพ: พนักงานบริษัทเอกชน ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 61.77 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 18.03 กม./ลิตร NO.02 รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม แค็บโฟร์ แอลเอส เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณวิทยา ศรีพงษ์พิจิตร อาชีพ: เจ้าของกิจการรับเหมาตกแต่งภายใน ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 55.13 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 20.21 กม./ลิตร NO.03 รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม ไฮแลนเดอร์ 4 ประตู เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณเอกวิทย์ เสฏฐวิวรรธน์ อาชีพ: เจ้าของกิจการจำหน่ายยางรถยนต์ ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 54.62 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 20.40 กม./ลิตร NO.04 รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม โรดีโอ แอลเอส เครื่องยนต์ 2500 ดีดีไอ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณปรีชา บุญเรือง อาชีพ: พนักงานบริษัทเอกชน ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 58.85 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 18.93 กม./ลิตร NO.05 รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู เครื่องยนต์ 2500 ดีดีไอ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณรักษ์ เปรมประยูรวงศา อาชีพ: เจ้าของสวนยางพาราและปาล์ม ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 53.62 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 20.78 กม./ลิตร NO.06 รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม สเปซแค็บ เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ เกียร์ออโตเมติก ผู้ขับ : คุณนาวา แก้วผ่อง อาชีพ: เจ้าของธุรกิจสเตนเลส ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 56.25 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 19.80 กม./ลิตร NO.07 รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม สเปซแค็บ เครื่องยนต์ 2500 ดีดีไอ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณสุรพล วงศ์รจิต อาชีพ: เจ้าของกิจการขนส่งถ่านหิน ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 49.15 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 22.67 กม./ลิตร NO.08 รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม สปาร์ค เครื่องยนต์ 2500 ดีดีไอ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณชนะ แสงโพธิ์แก้ว อาชีพ: เจ้าของกิจการค้าส่งสินค้าอุปโภค บริโภค ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 49.92 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 22.32 กม./ลิตร ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด โทร. 02-9662127-9 การสัมภาษณ์เหล่านักขับยอดประหยัด ใน “คาราวานท่องเที่ยวประหยัดน้ำมัน อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล น้ำมันถังเดียว เที่ยวไกลไปถึงจีน” *********************************************************** รถหมายเลข01: รถอีซูซุมิว-เซเว่น ซูเปอร์ แพลททินั่ม พรีโม เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ เกียร์ออโตเมติก ผู้ขับ : คุณมานพ หมื่นชนานันท์ อาชีพ: พนักงานบริษัทเอกชน ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 61.77 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 18.03 กม./ลิตร “สำหรับการขับประหยัดน้ำมันในเส้นทางนี้ ผมรู้สึกว่าเกียร์ออโตเมติกจะค่อนข้างลำบากกว่าเกียร์ธรรมดา เพราะเกียร์ออโตจะเปลี่ยนเกียร์เองโดยอัตโนมัติในขณะที่เราขึ้นเขาหรือลงจากเขา การขับรถให้ประหยัดน้ำมันนั้นเราต้องดูรอบ รักษารอบให้นิ่งอยู่ในช่วง 1400 — 1800 ไม่ว่าจะขึ้นหรือลงเขา ทางโค้งก็ทำให้การขับยากขึ้น เพราะทางมันมีหลายรูปแบบมากทั้งทางถนนเสียเป็นหลุมเป็นบ่อ ยังไงก็ต้องอาศัยคนนั่งข้างช่วยบอกไลน์บอกทาง ช่วงวันแรกที่อยู่ตรงประเทศลาว ถนนมีฝุ่นเยอะ มีทางโค้ง เป็นทางเขาสูงแซงรถลำบาก และรถส่วนใหญ่เป็นรถสิบล้อ ซึ่งใช้น้ำระบายความร้อนของเบรกจึงมีน้ำไหลลงบนถนน เราก็ต้องระวังเรื่องรถอื่นๆที่จะลื่นไถล ส่วนใหญ่ครอบครัวเราชอบขับรถเที่ยวกันอยู่แล้ว เพราะเราสามารถที่จะแวะตรงไหนก็ได้ เราจะออกเวลาไหนก็ได้ มันไม่ต้องมีเวลาที่แน่นอน ผ่านไปเห็นตรงนี้สวยดีก็แวะได้ ปกติผมใช้วิธีขับประหยัดน้ำมันในชีวิตประจำวันอยู่แล้วครับ เพราะน้ำมันก็แพง อยากช่วยชาติด้วยก็ต้องใช้วิธีนี้ เห็นไฟแดงเราก็ต้องไม่เร่ง ออกตัวก็อย่าไปกระชากอย่าไปออกตัวแรง ขับอยู่ในรอบที่ประหยัด ค่อนข้างมั่นใจว่าต้องขับมาถึงจีนแน่นอนครับ เพราะใช้รถรุ่นนี้อยู่แล้ว เคยเห็นความประหยัดของมันมาแล้ว” รถหมายเลข02: รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม แค็บโฟร์ แอลเอส เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณวิทยา ศรีพงษ์พิจิตร อาชีพ: เจ้าของกิจการรับเหมาตกแต่งภายใน ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 55.13 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 20.21 กม./ลิตร “ผมใช้รถอีซูซุรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้ออยู่พอดี เลยทำให้เข้าใจว่าควรใช้รอบเครื่องยนต์อย่างไรจึงจะประหยัดน้ำมัน แต่ตลอดทางต้องผจญกับภูเขา มีฝนตก ทางเสียเป็นส่วนมาก อีกทั้งเป็นทางขึ้นเขา ลงเขาตลอด ถนนค่อนข้างเปียกและลื่น ทำให้การขับรถลำบาก เพราะต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ทำความเร็วได้ไม่สม่ำเสมอ แต่เข้าโค้งดีมากเพราะเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ นับเป็นความท้าทายมากๆ สำหรับตัวเอง คือรถดีอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเราจะดีพอสำหรับรถหรือเปล่า เลยทำให้กังวลอยู่บ้าง อีกทั้งเป็นเส้นทางที่ไม่เคยมาเลยในชีวิต แต่ก็มาถึงที่หมายได้สำเร็จโดยน้ำมัน 1 ถังยังเหลืออยู่เยอะพอสมควร เส้นทางบนเขานี่มันหลอกตาด้วย ดีที่รุ่นนี้มี “ไอ-จินนี่” ทำให้รู้ล่วงหน้าว่าจะขึ้นหรือลงเขา ทำให้ใช้รอบเครื่องได้ดีขึ้น รู้ว่าช่วงไหนควรเร่งส่งหรือชะลอรถลง การขับรถประหยัดน้ำมันถ้าตั้งใจก็ไม่ใช่เรื่องยาก ปรับปรุงจากการขับประจำวันขึ้นมานิดหน่อย อย่าไปใช้ความเร็วมากเกินไป ขับให้อยู่ประมาณ 90 กม./ชม. เวลาขึ้น-ลงเขาก็เลี้ยงรอบดีๆ จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น” รถหมายเลข03: รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม ไฮแลนเดอร์ 4 ประตู เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ วีจีเอส เทอร์โบ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณเอกวิทย์ เสฏฐวิวรรธน์ อาชีพ: เจ้าของกิจการจำหน่ายยางรถยนต์ ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 54.62 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 20.40 กม./ลิตร “ตอนแรกผมกังวลกับเส้นทางที่ทั้งขึ้นเขา ซ่อมทาง ซึ่งไม่ค่อยเจอในบ้านเรา เพราะปัจจัยเหล่านี้มีผลกับการประหยัดน้ำมันทั้งนั้น ทางไม่ดีก็กินน้ำมัน การขาดวินัยจราจรของเขาก็ทำให้เรามีความเสี่ยงสูง นึกจะออกก็ออก นึกจะเข้าก็เข้า ตรงนี้อันตราย วิธีขับของผม ผมไม่ได้เน้นการรักษารอบหรือเทคนิคอะไรเลย แต่ใช้จากการอ่านคู่มือขับประหยัดน้ำมันของอีซูซุ แล้วก็นำเทคนิคเหล่านั้นมาใช้ในการขับรถประจำวันด้วยจนเป็นนิสัยไปแล้ว เช่น ไม่บรรทุกน้ำหนักเยอะโดยไม่จำเป็น ขับแบบดูสภาพการจราจรด้วย ไม่ใช่ขับไปถึงแล้วถึงเบรกเอา เบรกเอา ช่วงที่ขับยากลำบากที่สุด ผมว่าเป็นช่วงที่อยู่ในประเทศลาว เพราะเป็นทางขึ้นเขา ลูกรัง ฝุ่นตลบไปหมด มีการซ่อมทาง ผิวการจราจรต่างระดับ โค้งอันตรายหลายจุด ส่วนทางในจีนแม้ว่าจะค่อนข้างดีหน่อย จะมีช่องมุดเข้าอุโมงค์ทะลุเขา แต่ก็มีโค้งที่น่ากลัวอยู่” รถหมายเลข04: รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม โรดีโอ แอลเอส เครื่องยนต์ 2500 ดีดีไอ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณปรีชา บุญเรือง อาชีพ : พนักงานบริษัทเอกชน ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 58.85 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 18.93 กม./ลิตร “ตามความรู้สึกของคนทั่วไป รถโฟร์วีลจะกินน้ำมันมากกว่ารถธรรมดา แต่พอมาขับดูก็มั่นใจว่าถึงแน่ แถมเส้นทางมีคดเคี้ยวเลี้ยวมากยิ่งช่วยยึดเกาะถนนดีมาก ยิ่งตอนเข้าโค้ง ไม่มีปัดเลยครับ หนึบมาก ความประหยัดน้ำมันที่ได้ในครั้งนี้ผมว่า อยู่ที่ตัวรถเพราะอีซูซุเราก็ใช้มานาน เรารู้ว่าเครื่องยนต์มีความประหยัดมาเป็นอันดับหนึ่ง บวกกับเราชอบขับประหยัดน้ำมันอยู่แล้ว เคล็ดลับอยู่ที่การเข้าใจเครื่องยนต์ของเราว่ารอบที่ทำแรงบิดได้ดีอยู่ตรงไหน ตลอดเส้นทางเป็นทางขึ้นเขาค่อนข้างขับลำบากแต่ก็ได้ชมธรรมชาติสวยๆ ไปด้วย นอกจากนี้“ไอ-จินนี่” ยังเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากครับสำหรับเส้นนี้ เพราะบางทีระดับความสูงอาจหลอกตาเรา เราไม่สามารถที่จะมองออกว่าข้างหน้าขึ้นหรือลง แต่“ไอ-จินนี่” สามารถบอกเพื่อให้เราปรับเปลี่ยนรอบได้สัมพันธ์กับความสูง ถ้าครั้งนี้ไม่มี“ไอ-จินนี่” ช่วยเราก็จะพลาดตรงนี้เหมือนกันครับ เป็นการทำให้เราได้รู้จักการขับรถแบบประหยัด ถึงที่หมายโดยที่เราเซฟที่สุด เซฟทั้งน้ำมัน เซฟทั้งคนขับ ผมยืนยันแน่นอนครับว่าการขับประหยัดน้ำมันแบบนี้ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน” รถหมายเลข05: รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม ไฮแลนเดอร์ 2 ประตู เครื่องยนต์ 2500 ดีดีไอ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณรักษ์ เปรมประยูรวงศา อาชีพ: เจ้าของสวนยางพาราและปาล์ม ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 53.62 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 20.78 กม./ลิตร “ปกติผมชอบขับรถเที่ยวอยู่แล้วครับ มาคราวนี้ก็สนุกสนานดี ตื่นเต้นได้เห็นทัศนียภาพที่แตกต่างของหลายประเทศ แต่อุปสรรคพวกถนนลื่น ฝนตก ทางคดเคี้ยวก็เยอะ โดยเฉพาะทางที่เมืองจีนจะลำบากนิดหน่อย เพราะว่าไม่มีไหล่ทางเลยขับยาก เวลารถสวนแทบติดกันเลยครับ แถมมีอุบัติเหตุตามทางเยอะด้วย ด้วยความที่ต้องขับบนพื้นที่สูงๆ “ไอ-จินนี่” จะช่วยได้มาก เพราะบางครั้งเหมือนลงเนินในสายตาเรา แต่“ไอ-จินนี่” บอกขึ้นอยู่ตลอดเวลา ตอนแรกก็ไม่เชื่อแต่ทดลองจากการดูรอบเครื่องแล้วมันไม่ได้ ตอนขับผมเซ็ทระบบให้บอกระดับความสูง ระยะทาง บอกทิศทางว่าเราจะไปทางไหนเอาไว้ ทำให้ขับได้ดีขึ้นมาก ประหยัดกว่าที่ไม่มีเยอะมากครับ เพราะระบบสามารถบอกได้ว่าข้างหน้าระดับความสูงขนาดไหน เราควรจะใช้อัตราเร่งเท่าไหร่ถึงจะได้รอบเครื่องพอดีระดับนี้ที่จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ แม้ว่าปกติผมจะขับเกียร์ออโต้ แต่พอมาขับเกียร์ธรรมดาก็รู้สึกว่าเราสามารถสั่งได้ตามใจต้องการ” รถหมายเลข06: รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม สเปซแค็บ เครื่องยนต์ 3000 ดีดีไอ เกียร์ออโตเมติก ผู้ขับ : คุณนาวา แก้วผ่อง อาชีพ : เจ้าของธุรกิจสเตนเลส ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 56.25 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 19.80 กม./ลิตร “ปกติขับอีซูซุแต่ไม่เคยขับเกียร์ออโต้มีงวดนี้ที่ได้มาทดลองขับก็ชอบจนลืมเกียร์ธรรมดาไปเลย ตอบสนองดี การขับขี่ดี เส้นทางวันแรกในลาวก็โอเค แต่พอมาฝั่งจีนทางจะแคบลง รถบรรทุกใหญ่ๆ เยอะ แถมไม่ยอมหลบให้ด้วย ยิ่งช่วงทำถนนและสองฝั่งเป็นร่องน้ำ หรืออีกฝั่งเป็นเหว ทำให้แซงกันลำบาก หรือพอแซงได้ก็เจอโค้งพอดีต้องให้เลี้ยวขึ้นอีก เจอทางลูกรังที่วิ่งกันฝุ่นคลุ้งจนมองกันแทบไม่ค่อยเห็นเลย เข้าอุโมงค์ เจอฝนครบหมด แต่ก็สนุกไปอีกแบบ ใช้ความเร็วกันพอสมควรเพราะการขับเป็นขบวนคาราวานจะใช้ความเร็วคงที่บางครั้งมันไม่ได้ คันหน้า 90 หรือ 100 ก็ต้องตามเขาไปเลย แต่ว่าเทคนิคก็คือไม่ให้รอบมันเกินถึง 2000 ตอนผมอยู่เมืองไทยก็ขับอย่างนี้เหมือนกัน เราไม่ได้รีบไปไหน ช่วยประหยัดค่าน้ำมันดีกว่า ขนาดผมเห็นว่าเส้นทางนี้โหด ไม่มีอะไรสะดวกเลยจึงไม่น่าประหยัด ไฟแดงเราก็ติด ขับไปขับมายังแปลกใจว่าทำไมน้ำมันเหลือเยอะ เหลือเกือบๆ ขีด รู้สึกว่าเราจะขับขึ้นที่สูงเกือบตลอดทางแต่หูไม่อื้อนะ ไม่รู้ว่าเป็นที่รถดีหรือเปล่าจึงไม่รู้สึกอะไร และมีอยู่สองสามช่วงที่ทิ้งโค้งมากๆ ก็ยึดเกาะถนนตอบสนองได้ดีมาก ขนาดทางลูกรังที่บางช่วงเจอน้ำที่รถบรรทุกจีนเขาฉีดเบรกแล้วไหลตามล้อลงมาที่ถนน เวลาเลี้ยวโค้งนี่ไม่สไลด์ไม่ลื่นเลยนะ ได้ใช้ “ไอ-จินนี่” เต็มที่เหมือนมีคนนำทางคอยบอกแล้วเราก็คอยฟัง เดี๋ยวนี้ผมว่าคนไทยก็ขับรถช้าลงนะ ขับรถดีขึ้น คำนึงถึงความประหยัดน้ำมันมากขึ้น “ รถหมายเลข07: รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม สเปซแค็บ เครื่องยนต์ 2500 ดีดีไอ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณสุรพล วงศ์รจิต อาชีพ: เจ้าของกิจการขนส่งถ่านหิน ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 49.15 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 22.67 กม./ลิตร “มั่นใจตั้งแต่แรกแล้วว่ายังไงก็ถึงครับ แม้ว่าจะหนักใจอยู่สักหน่อยเรื่องเส้นทาง เพราะสภาพถนนตลอดเส้นทางมีผลต่อการขับประหยัดน้ำมัน แต่เริ่มมั่นใจมากขึ้นเมื่อวันแรกผ่านลาวมาถึงจีนที่เชียงรุ้ง น้ำมันลดลงไปนิดเดียวครับ ไม่ถึงขีด พอวันที่สองเริ่มจับรอบเครื่อง รู้ว่าไม่ควรเกิน 1800 ไม่ต่ำกว่า 1500 แล้วจะประหยัดน้ำมัน แถมขึ้นเขาได้ดีมาก เพราะแรงบิดมันจะอยู่ตรงนั้น เป็นรถที่น่าใช้มาก ทั้งๆที่เขาก็บอกแล้วว่าทางครั้งนี้จะยากแต่ผมก็ไม่เคยหวั่นถ้าเป็นอีซูซุ การเดินทางครั้งนี้ทำให้ทำให้ผมได้เห็นประโยชน์ของ“ไอ-จินนี่” ว่ามีมากกว่าที่เราคิดครับ เราสามารถเช็คได้ ตั้งแต่เรื่องเส้นทางที่ผ่านมาใช้ความเร็วสูงสุดที่เท่าไหร่ ความสูงยังไง รถขึ้นหรือรถลงเขา ตรงนี้เรารู้หมดเลยนะครับ ไม่ใช่เฉพาะว่าเอามานำทางอย่างเดียวนะครับ ตรงนี้สามารถเป็นผู้ช่วยทำให้เราขับประหยัดน้ำมันได้มาก ขึ้น เหลือบตามองแป๊ปเดียวเราก็รู้รถเริ่มลงเขาแล้วนะให้ระวัง นี่ขึ้นเขาแล้วนะไม่ควรใช้รอบต่ำเกินไป การขับประหยัดน้ำมันไม่ใช่เรื่องยาก ขอให้เราใจเย็นศึกษารถ ศึกษาเครื่องยนต์ เราสามารถทำได้ทุกคนครับ แต่ขอเน้นว่าต้องเป็นอีซูซุเท่านั้นเอง” หมายเลข08: รถอีซูซุดีแมคซ์ ซูเปอร์ แพลททินั่ม สปาร์ค เครื่องยนต์ 2500 ดีดีไอ เกียร์ธรรมดา ผู้ขับ : คุณชนะ แสงโพธิ์แก้ว อาชีพ:เจ้าของกิจการค้าส่งสินค้าอุปโภค บริโภค ใช้น้ำมันไปทั้งสิ้น 49.92 ลิตร อัตราการประหยัดน้ำมัน 22.32 กม./ลิตร “ไม่ได้หนักใจเรื่องเส้นทาง แต่กลัวว่าจะตามรุ่นใหญ่ๆ เขาไม่ทันเพราะเครื่องยนต์เราแค่ 2500 ปกติใช้เครื่อง 3000 อยู่ แต่จากที่ผมทดลองใช้มา 1,114 กม. ใช้ได้เลยครับ เดิมทีคิดว่ารุ่นนี้เหมาะสำหรับบรรทุกเท่านั้น แต่ก็พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่าเอาไปท่องเที่ยวได้สบาย เพราะการทรงตัวและช่วงล่างดีมาก ช่วงเข้าโค้งใช้ความเร็วที่ 80-100 กม./ชม.สนุกมาก ผมตามเขามาด้วยความเร็ว 120-130 กม./ชม. เพราะเราคันสุดท้าย ต้องยอมรับว่าตัวเครื่องยนต์ออกแบบมาดี แต่ไม่ว่าจะเร่งความเร็วยังไงก็ต้องคำนึงไม่ให้รอบเครื่องสูงกว่าที่จำเป็น เพราะหลักง่ายๆ ของการขับประหยัดน้ำมันโดยทั่วๆ ไปของผม คือ ถ้าหากเราทำรอบเครื่องให้สูงกว่าที่จำเป็น หมายถึงเราใช้น้ำมันมากกว่าความเร็ว นี่คือความคิดง่ายๆ พื้นฐานเลย ตราบใดที่เราทำให้ความเร็วรถเร็วกว่าความเร็วรอบเนี่ยโอกาสที่เราจะใช้น้ำมันน้อยก็มีสูงกว่า เวลาเร่งเครื่องเราดูรอบอย่าให้สูงกว่าความจำเป็น ถ้ารอบสูงกว่าความจำเป็นก็หมายถึงว่าเราใช้น้ำมันมากกว่าใช้รถ การใช้รถเราต้องรู้จักวิธีการใช้ให้เหมาะกับชีวิตประจำวัน ถ้าเราใช้แล้วเปลืองมากก็เหมือนเราเสียต้นทุนมาก ก็ไม่คุ้มกับการลงทุน ถ้าหากว่าเราลดการใช้น้ำมันลงมาวันละ 2-3 ลิตร อย่างน้อยมันก็เป็นสตางค์ของเราที่จะเก็บเอาไว้ได้”

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ