กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ประกาศผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!!...ในส่วนกรุงเทพฯ และภาคกลาง สำหรับผู้ครองตำแหน่ง “แฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 14 ประจำปี 2552 - 2553” ที่จัดขึ้นโดยผู้ใหญ่ใจดีอย่าง กลุ่มธุรกิจ โคคา - โคลา ในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) เวทีสร้างสรรค์ของวัยรุ่นยุคใหม่ ซึ่งปีนี้ได้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ร่วมทำสิ่งดีๆ ที่แตกต่าง เพื่อเรา...เพื่อโลก” โดยในส่วนกรุงเทพฯ ผู้คว้าตำแหน่งแฟนต้ายุวทูตไปครองนั้น ได้แก่ ทีม "BCT” จากชมรม บริดจ์ คลับ ไทยแลนด์ ที่โชว์ โครงการ “พื้นที่สร้างสรรค์...บานเป็นดอกเห็ด” จนชนะใจกรรมการแบบเต็มๆ ในขณะที่ตำแหน่งแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย ประจำภาคกลาง ตกเป็นของ 3 สาวตัวจิ๋วจากทีม "โรงเรียนวัดสระแก้ว (รุ่งโรจน์ธนกุลอุปถัมภ์) โรงเรียนวัดสระแก้ว (รุ่งโรจน์ธนกุลอุปถัมภ์) จ.อ่างทอง ที่มาพร้อมไอเดียเด็ดกับ โครงการ “ธนาคารขยะรีไซเคิล "ตามรอยเท้าพ่ออย่างพอเพียง"” ท่ามกลางเสียงเฮกึกก้องจากกองเชียร์ที่มาร่วมลุ้น ร่วมให้กำลังใจแน่นขนัด เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน โดยทีมที่ชนะเลิศจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ทุนการศึกษาคนละ 10,000 บาท พร้อมบินลัดฟ้าไปเผยแพร่และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและทัศนศึกษาที่งานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2010 ที่นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 9-14 สิงหาคมศกนี้
ท่ามกลางความตื่นเต้นด้วยใจระทึก วินาทีแห่งชัยชนะก็มาถึง เมื่อสิ้นเสียง ป้าจิ๊ - อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ พิธีกร กองเชียร์ก็เฮลั่น เพราะผู้ที่คว้าตำแหน่งแฟนต้ายุวทูต ในส่วนกรุงเทพฯ ไปครอง ได้แก่ ทีม "BCT” จากชมรม บริดจ์ คลับ ไทยแลนด์ ที่นำเสนอ โครงการ “พื้นที่สร้างสรรค์...บานเป็นดอกเห็ด” บนเวทีได้อย่างน่ารักและเข้าใจง่ายสไตล์นิทานเพลง ด้วยการค่อยๆ สร้างพื้นที่สร้างสรรค์...บานเป็นดอกเห็ดให้ชม ประกอบเพลงสดใส ดูเพลินตา พร้อมตอบคำถามเพื่อวัดปฏิภาณไหวพริบ ความรู้รอบตัวที่ว่า “มีความคิดเห็นอย่างไร ถ้าเยาวชนไทยไม่หวงแหนรักษาศิลปวัฒนธรรมไทยอันดีงามของชาติไว้” ได้อย่างน่าทึ่งว่า “คงจะสูญหายไป ลูกหลานไทยภายหน้าจะไม่ได้เห็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ดังนั้น เยาวชนไทยควรรักและหวงแหนสิ่งดีงามของชาติไว้ ง่ายๆ เช่น การไหว้แบบไทย หรือฟังดนตรีไทย หรือชมการรำไทย เป็นต้น”
ส่วนผู้ครองตำแหน่งแฟนต้ายุวทูตปีล่าสุด ประจำภาคกลางนั้น ตกเป็นของน้องๆ ทีม "โรงเรียนวัดสระแก้ว (รุ่งโรจน์ธนกุลอุปถัมภ์) โรงเรียนวัดสระแก้ว (รุ่งโรจน์ธนกุลอุปถัมภ์) จ.อ่างทอง เจ้าของ โครงการ “ธนาคารขยะรีไซเคิล "ตามรอยเท้าพ่ออย่างพอเพียง"” ที่โชว์ละครสะท้อนปัญหาขยะ พร้อมบอกเล่าวิธีการนำขยะมาเพิ่มมูลค่าหลากหลายแบบ แม้กระทั่งชุดที่ใส่แสดงก็ทำจากของเหลือใช้เช่นกัน ขณะที่คำถามที่ได้จากกรรมการคือ “ถ้าเพื่อนขอลอกการบ้าน น้องๆ มีความคิดเห็นอย่างไร” ซึ่ง 3 สาวจากอ่างทองก็ตอบได้ดีว่า “ให้เพื่อนลองทำดูก่อน ผิดถูกก็ไม่เป็นไร จะได้รู้ว่าทำได้เท่าไร ไม่เข้าใจตรงไหนก็มาถามคุณครูหรือปรึกษาเพื่อน”
ผศ.เฉลิมพล ดาวเรือง ประธานกรรมการการตัดสินโครงการแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงผลการประกวดรอบชิงชนะเลิศแฟนต้ายุวทูต ในส่วนกรุงเทพฯ และภาคกลางครั้งนี้ว่า “การตัดสินในครั้งนี้กรรมการดูจากหลายๆ อย่าง ทั้งจากการสัมภาษณ์บนเวที โครงการที่นำเสนอ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม ฯลฯ รวมทั้งความคิดเห็นของคณะกรรมการด้วยกัน ซึ่งวันนี้มีทีมเด่นหลายทีม แต่ต้องคัดทีมที่พร้อมที่สุด ดีที่สุด ซึ่งทีมที่ชนะเลิศในส่วนของกรุงเทพ เป็นทีมตัวอย่างในเรื่องของการนำเสนอที่เด่นมาก ด้วยการนำเสนอโครงการผ่านการร้องเพลงที่เข้าใจง่าย ครอบคลุมเนื้อหาและเห็นภาพรวมทั้งหมดได้อย่างชัดเจน ในขณะที่ทีมที่ชนะเลิศภาคกลางนั้น ทีมนี้ชนะใจกรรมการด้วยความใส ซื่อ ในความเป็นธรรมชาติของเขา ประกอบกับโครงการนั้นมีความน่าสนใจ ทำให้ภาพรวมของทีมนี้ดูดีและลงตัว”
แฟนต้ายุวทูตคนใหม่ อย่าง ทีม “BCT” จากชมรม บริดจ์ คลับ ไทยแลนด์ ได้แก่ น้องเลม่อน - ด.ญ.สริตา ปูรณวัฒนกุล, น้องน่อน - ด.ญ.ยอดสร้อย โอฬารศิริกุล และน้องพราว - ด.ญ.ดรัลรัตน์ ปูรณวัฒนกุล ที่ชนะใจกรรมการ ด้วยโครงการ “พื้นที่สร้างสรรค์ บานเป็นดอกเห็ด” เผยด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุขว่า “เริ่มต้นจากความคิดว่าเราเป็นเด็ก เราอยากทำกิจกรรมอะไรที่เราสามารถทำได้ เลยปิ๊งไอเดียการเอาร่มมาตกแต่งให้คล้ายดอกเห็ด เป็นซุ้มกิจกรรมมีมุมเล็กๆ เช่น พับกระดาษ วาดรูป เล่านิทาน เล่นเกมโยนห่วง ทำงานฝีมือ หรืออื่นๆ ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายช่วงวัย 4-14 ปี เพื่อให้น้องๆ เพื่อนๆ มีสังคมและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยได้ทดลองโครงการในวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาลที่ผ่านมา จากนั้นลองไปประชาสัมพันธ์ที่อุทยานการเรียนรู้ (ทีเค ปาร์ค) ต่อ ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมากทั้ง 2 แห่ง ล่าสุด เตรียมจัดที่สวนสาธารณะ 72 พรรษา หมู่บ้านประชานิเวศน์ 3 เพราะแค่เห็นรอยยิ้มของน้องๆ เราก็มีความสุขและหายเหนื่อยแล้วค่ะ วันนี้กับตำแหน่งแฟนต้ายุวทูต ในส่วนกรุงเทพฯ คิดว่าน่าจะโดนใจกรรมการตรงที่มีการนำเสนอที่เป็นนิทานเพลงไม่เหมือนคนอื่น มีความเป็นตัวของตัวเอง พวกเราอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม ผ่านการทำกิจกรรมง่ายๆ ที่สร้างสรรค์”
มาถึงน้องๆ แฟนต้ายุวทูตคนใหม่ ประจำภาคกลาง ทีม “โรงเรียนวัดสระแก้ว (รุ่งโรจน์ธนกุลอุปถัมภ์)” ได้แก่ น้องเยาว์ - ด.ญ.พะเยาว์ แซ่หาง, น้องนัท - ด.ญ.สมใจ แซ่หาง และน้องกุ้ง - ด.ญ.วริษา พุฒิไชยจรรยา
จากโรงเรียนวัดสระแก้ว (รุ่งโรจน์ธนกุลอุปถัมภ์) จ.อ่างทอง กับโครงการพิชิตใจกรรมการ “ธนาคารขยะ รีไซเคิล ตามรอยเท้าพ่ออย่างพอเพียง” กล่าวด้วยน้ำเสียงตื้นตันว่า “ดีใจ ภูมิใจ เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต โครงการของพวกเราเป็นโครงการ 1 ใน 4 ส่วนของโรงเรียนที่มีอยู่แล้ว แต่พวกเราเอามาต่อยอดและขยายผล เพื่อลดปัญหาเรื่องขยะล้นเมืองอย่างจริงจัง หลังจากได้เข้าค่ายแฟนต้ายุวทูตในรอบสองไปนั้น พวกเราก็ได้ขอความร่วมมือจากเพื่อนๆ ซึ่งตอบรับกว่า 600 คน โดยขอพื้นที่โรงอาหารแล้วปรับปรุงซ่อมแซมเป็นธนาคารขยะ ให้ทุกคนเอาขยะมาฝากและเปิดบัญชีให้ ขยะที่ได้จะแบ่งประเภทดังนี้ กระดาษ ขวดพลาสติก กล่อง แก้ว โลหะ สิ่งเหล่านี้จะดูว่าส่วนไหนสามารถนำไปทำอะไรได้ เช่น กระดาษทำเปเปอร์มาเช่ ขวดพลาสติกประดิษฐ์เป็นแจกัน โมบาย พวกเราพยายามนำขยะมาเพิ่มมูลค่า แล้วชิ้นงานเหล่านั้นจะเก็บไว้มอบตอบแทนผู้มีจิตศรัทธา ที่มาเยี่ยมโรงเรียนของพวกเราซึ่งเป็นสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าและเด็กที่ยากจนค่ะ นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มจุดวางขยะ 1 จุดมี 4 ถัง นั่นคือ ขยะเปียก ขยะแห้ง ขยะทั่วไป ขยะอันตราย รวมทั้งสอนน้องๆ คัดแยกขยะ ขณะที่เศษอาหารก็จะมีการนำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพและน้ำหมักชีวภาพสำหรับการเกษตร มูลสัตว์ที่เลี้ยงก็จะนำไปทำไบโอก๊าซไว้ใช้หุงต้มและกระแสไฟฟ้าภายในโรงเรียนค่ะ โครงการของเราจะทำให้ทุกคนเห็นคุณค่าของขยะ นำขยะที่ทุกคนไม่สนใจและรังเกียจ กลับมาทำใหม่ให้มีคุณค่า มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น ช่วยลดขยะ ช่วยลดโลกร้อน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน สำหรับวันนี้คิดว่าความเป็นตัวเอง ความสดใสสมวัยน่าจะถูกใจกรรมการค่ะ ขอบคุณเวทีแห่งนี้ที่ให้ความรู้ ความรัก และเสริมสร้างความเป็นคนดีให้กับพวกเรา ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”
ผศ.เฉลิมพล ดาวเรือง กล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งที่เห็นความเปลี่ยนแปลง คือ เยาวชนไทยรู้จักการทำงานเป็นทีมมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้เด็กไทยได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมคือ เรื่องของสามัญสำนึก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี งเยาวชนไทยในตอนนี้คือ นี้ค่ะ ที่ชาการเป็นสิ่งที่เรียนรู้เพิ่มเติมได้ แต่คุณธรรม จริยธรรม เป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังาจไม่เกมีจิตอาสาเสียสละ ใส่ใจแบ่งปันให้คนอื่นมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเด็กเก่งมีมาก แต่ก็เห็นแก่ตัวมาก จึงอยากเห็นเยาวชนไทยในอนาคตมีพื้นฐานของความเก่งในขณะเดียวกันก็ต้องมีความสุข มีคุณธรรม จริยธรรม มีน้ำใจโอบอ้อมอารีให้แก่กัน”
ทีมไหนจะเป็นสุดยอดยุวทูตคนใหม่ ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคเหนือ, ภาคตะวันออก และภาคใต้ไปครอง ตามเชียร์ได้ในรอบชิงชนะเลิศ...ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่เดอะมอลล์ โคราช ในวันที่ 12-13 มิถุนายน, ภาคเหนือ จัดที่เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ในวันที่ 19-20 มิถุนายน, ภาคตะวันออก จัดที่เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช ในวันที่ 26-27 มิถุนายน และปิดท้ายที่ภาคใต้ ที่โอเดียน แฟชั่นมอลล์ หาดใหญ่ วันที่ 3-4 กรกฎาคม...สอบถามเพิ่มเติมโทร. 0-2984-2745 และ 0-2984-2742 หรือ www.fyathai.com
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300, 0-2434-8547
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา