ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 11 มิ.ย. 53

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 11, 2010 10:46 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ข้อมูลทองคำวันนี้ ราคาสมาคม เปิดที่ 18,650 - 18,750 ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,219 อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 32.44 — 32.54 GFM10 Hi- Low 19,150 — 18,900 ปิดที่ 18,930 Gold Insight สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 7.70 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,222.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,216.20 - 1,236.00 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากสำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) กล่าวว่า ตลาดทองคำมีขนาดเล็กและผันผวนเกินกว่าที่จีนจะนำเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมาลงทุนเป็นช่องทางหลัก นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน สหรัฐ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ยังทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ทะยานขึ้น 273.28 จุด หรือ 2.76% ปิดที่ 10,172.53 จุด ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 31.15 จุด หรือ 2.95% ปิดที่ 1,086.84 จุด โดยดัชนีดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 10,000 จุด ขานรับตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง และยอดส่งออกที่แข็งแกร่งของจีน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธ เพราะได้แรงหนุนจากผู้บริหารบริษัทบีพีที่ออกมายืนยันว่า สถานะทางการเงินของบริษัทยังแข็งแกร่ง แม้บริษัทต้องจ่ายเงินจำนวนมากในการแก้ปัญหาน้ำมันรั่วในอ่าวเม็กซิโกก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.48 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจโลกและดีมานด์พลังงานมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง หลังจากนานาประเทศรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่ร่วงลงของสหรัฐ กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือ ทองคำถึง ณ. 10 มิ.ย. ซื้อเข้า 7.61 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,298.53 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,306.14 ตัน USD/EU ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางยุโรปมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ และยังเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรเพื่อคลี่คลายวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป นอกจากนี้ ยูโรยังได้แรงหนุนจากจีนที่รายงานยอดส่งออกแข็งแกร่งและยืนยันว่าวิกฤตการเงินในยุโรปจะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าของจีน ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.21% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 1.2130 ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.1985 ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.2109 ดอลลาร์ต่อยูโร USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 91.260 เยน แต่ร่วงลง 0.55% โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 91.64 เยนต่อดอลลาร์ USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 32.48-32.55 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 32.40-32.48 บาทต่อดอลลาร์ ข่าวเศรษฐกิจโลก กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 มิ.ย. ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 456,000 รายส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยรวม ร่วงลง 255,000 ราย สู่ระดับ 4.5 ล้านคนการเปิดเผยตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์มีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ประจำเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 431,000 ตำแหน่ง แต่ยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 508,000 ตำแหน่ง และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการจ้างพนักงานชั่วคราวของภาครัฐในส่วนงานสำมะโนประชากรจำนวน 411,000 ตำแหน่ง ซึ่งรัฐบาลกลางสหรัฐมียอดการจ้างพนักงานดังกล่าวสูงสุดในเดือนพ.ค. ซึ่งตัวเลขนี้จะเริ่มลดจำนวนลงในเดือนมิ.ย. นายหลี่ เตากุย ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีนและผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชิงหัว กล่าวว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปยังไม่รุนแรงพอที่จะทำให้เกิดวิกฤตการเงินโลกรอบใหม่ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อดีมานด์การส่งออกสินค้าของจีนในระยะยาว โดยการแสดงความคิดเห็นของนายหลี่มีขึ้นหลังจากสำนักงานศุลกากรจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกของจีนในเดือนพ.ค.ขยายตัวแข็งแกร่ง 48.5% ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 48.3% ซึ่งทำให้จีนมียอดเกินดุลการค้าสูงถึง 1.953 หมื่นล้านดอลลาร์ บ่งชี้จีนซึ่งเป็นประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวรวดเร็วสุดในโลก สามารถต้านทานวิกฤตการณ์หนี้สาธารณะในยุโรปได้ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1% ในการประชุมเมื่อเย็นวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ โดยอีซีบียังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรและจัดหาวงเงินกู้ฉุกเฉินระยะ 3 เดือนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยุโรป โดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายวิกฤตหนี้ นอกจากนี้ อีซีบีได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซน หรือ 16 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม อีซีบียอมรับว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซนในปีหน้าไม่ค่อยดีนัก หน่วยงานบริหารจัดการทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีน หรือ SAFE ซึ่งเป็นกองทุนที่มีมูลค่าสูงถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ กล่าวว่า ตลาดทองคำมีขนาดเล็กเกินไป อีกทั้งสภาพคล่องไม่ไหลลื่น และมีความผันผวนมากเกินกว่าที่จีนจะนำเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมาลงทุนเป็นช่องทางหลัก นายเฮอร์มัน ฟาน รอมปุย ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า รัฐบาลของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปจะใช้งบประมาณมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหาด้านการเงิน หากงบช่วยเหลือวงเงิน 7.50 แสนล้านยูโร หรือ 9.05 แสนล้านดอลลาร์ในปัจจุบันนั้นยังไม่เพียงพอ อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า จะมีประเทศใดร้องขอให้มีการนำเงินดังกล่าวมาใช้จนถึงขณะนี้นอกจากนี้ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นอดีตนายกฯเบลเยี่ยม ยังได้กล่าวแสดงความมั่นใจว่า กรีซจะไม่ผิดนัดชำระหนี้ และคงจะไม่มีประเทศใดที่ถูกบีบให้ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มทั้งนี้ กลุ่มอียูได้ตั้งงบดังกล่าวขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศในกลุ่ม เช่น สเปน และโปรตุเกสต้องประสบปัญหาหนี้ หลังจากที่ได้จัดสรรเงินช่วยเหลือกรีซแล้ว 1.10 แสนล้านยูโร ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุด 0.5% เป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน ในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายระยะเวลา 2 วันที่สิ้นสุดลงในวันนี้ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่พร้อมกันนี้ ธนาคารยังได้ตัดสินใจที่จะไม่อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติมภายใต้โครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของตลาดเช่นกันทั้งนี้ ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า แบงก์ชาติอังกฤษจะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกระทั่งปีหน้า หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยตรึงอยู่ที่ระดับ 0.5% มาตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 คำแนะนำการลงทุน Gold Futures DAY TRADER DAY TRADER GFM10 ซื้อในช่วงราคา 18890 — 18940 ขายในช่วงราคา 19020 - 19050 GFQ10 ซื้อในช่วงราคา 18990 - 19050 ขายในช่วงราคา 19130 — 19170 SWING TRADER ทิศทางราคาทองคำระยะกลางยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น คาดว่าทิศทางราคาทองคำระยะสั้นยังคงเป็นช่วงขายทำกำไร โดยมีแนวรับที่1210 คำแนะนำนักลงทุนรายวันเก็งกำไรจากการแกว่งตัวของราคา นักลงทุนรายสัปดาห์ทยอยสะสมLONG POSITION 40-50%ของPORTFOLIO บริเวณแนวรับที่ให้ไว้ สำหรับลูกค้าที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงขาLONG POSITION ให้ทำในลักษณะ SHORT SPREAD กับ GFQ10 และหาโอกาสปิดทีละขา ระวังGFM10จะหมดอายุสัญญาวันที่ 29/06/2010 GFM10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 18880 รอขายที่ระดับ 18970 GFQ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 18980 รอขายที่ระดับ 19050 ปัจจัยสำคัญ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 มิ.ย. ลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 456,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยรวม ร่วงลง 255,000 ราย สู่ระดับ 4.5 ล้านคน ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1% ในการประชุมเมื่อเย็นวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ โดยอีซีบียังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรและจัดหาวงเงินกู้ฉุกเฉินระยะ 3 เดือนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยุโรป โดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายวิกฤตหนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา หลังจาก SAFE ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารจัดการทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนที่มีมูลค่าสูงถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ กล่าวว่า ตลาดทองคำมีขนาดเล็กเกินไป อีกทั้งสภาพคล่องไม่ไหลลื่น และมีความผันผวนมากเกินกว่าที่จีนจะนำเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมาลงทุนเป็นช่องทางหลัก กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุด เข้าถือครองทองคำเพิ่มขึ้น ที่ระดับ 1306.137 ตัน เมื่อวันที่ 10มิ.ย. จากระดับ1298.530ของวันที่ 9มิ.ย. MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,232 $ ส่วน Gold Future M10 เปิดที่ 19,150 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 19,000 ปรับลง 50 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ในช่วงเช้าราคาทองคำทรงตัว สำหรับช่วงบ่าย Spot Gold แกว่งตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ 1,220 $ ปิดตลาด Gold Future M10 ปิดตลาดที่ 18,930 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำปรับลง 50 บาท 4 ครั้ง ปิดตลาดอยู่ที่ 18,800 บาท นักลงทุนเทขายทำกำไรจากการร่วงลงของ Spot Gold NIGHT RECAP:ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1233 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1219 - 1234 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1221 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1214.5 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1217.9 เหรียญ สนใจลงทุนใน Gold Futures กับ MTS Gold Futures สามารถติดต่อที่เบอร์ 02-222-5959

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ