กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาวหุ้นกู้ไม่หลักประกันไม่ด้อยสิทธิของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP (อันดับเครดิต ‘AA-(tha)’ / ‘F1+(tha) / Negative Outlook) มูลค่า 3 พันล้านบาทครบกำหนดไถ่ถอนปี 2565 ที่ขายให้กับกลุ่มผู้ลงทุนแบบเฉพาะเจาะจงที่ระดับ ‘AA-(tha)’ เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้นี้นำไปใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียน ชำระคืนเงินกู้เดิม และเป็นเงินลงทุน
อันดับเครดิตของบริษัทสะท้อนถึงการที่บริษัทดำเนินกิจการโรงกลั่นน้ำมันที่มีกำลังการผลิตขนาดใหญ่ ซึ่งมีกระบวนการกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ที่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปชนิดที่มีมูลค่าสูงได้ในสัดส่วนที่สูงโดยมีต้นทุนการผลิตต่ำ อันดับเครดิตยังได้พิจารณารวมถึงความสำคัญของบริษัทที่มีต่อ บมจ. ปตท. หรือ ปตท. และลักษณะการดำเนินธุรกิจที่เชื่อมโยงระหว่างกัน การที่บริษัทมีการผลิตต่อเนื่องไปยังการผลิตพาราไซลีนและน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานยังเป็นการเพิ่มระดับการผลิตแบบครบวงจร ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์น้ำมันและลดความผันผวนของรายได้จากค่าการกลั่นน้ำมัน นอกจากนี้การเข้าไปดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าของบริษัทยังช่วยลดความผันผวนของรายได้จากธุรกิจการกลั่นน้ำมันได้บางส่วนเช่นกัน แม้ว่าปัจจุบันกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่ายจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าจะมีสัดส่วนที่ยังน้อยอยู่ก็ตาม
ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตของบริษัท ถูกลดทอนลงจากปัจจัยเสี่ยงจากการที่บริษัทต้องเผชิญกับความผันผวนที่สูงของราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันสำเร็จรูป ค่าการกลั่น ตลอดจนวัฎจักรของธุรกิจปิโตรเคมี บริษัทยังมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดหาน้ำมันดิบ เนื่องจากประเทศไทยต้องพึ่งพาแหล่งน้ำมันดิบจากต่างประเทศในสัดส่วนที่สูง นอกจากนี้อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงความเสี่ยงจากการที่บริษัทมีฐานลูกค้าที่ไม่กระจายตัวมากพอ การมีฐานการผลิตเพียงแห่งเดียว และการที่บริษัทต้องพึ่งพาตลาดเพียงตลาดเดียวเนื่องจากบริษัทขายผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ในตลาดในประเทศ อย่างไรก็ตามความเสี่ยงจากการที่บริษัทมีฐานลูกค้าที่ไม่กระจายตัวมากพอได้ถูกบรรเทาลงบางส่วนจากการที่ ปตท. ซึ่งเป็นผู้รับซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปรายใหญ่ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจรายใหญ่ในการจัดจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศไทย และมีอันดับเครดิตที่แข็งแกร่งที่ระดับ ‘AAA(tha)’
แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบสะท้อนถึงอัตราส่วนหนี้สินต่อกระแสเงินสดของบริษัทที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปี 2552 นอกจากนี้สภาวะอุตสาหกรรมที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่อาจทำให้การปรับลดอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทในช่วง 2 ปีข้างหน้าอาจจะล่าช้าออกไปอีก ในขณะที่อัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการพิจารณาอันดับเครดิตของบริษัท ณ ปัจจุบันอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงกว่าอัตราส่วนที่ควรจะเป็นสำหรับอันดับเครดิตที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ณ สิ้นปี 2552 บริษัทมีหนี้สินสุทธิอยู่ 36.1 พันล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินดำเนินงาน (funds from operations-adjusted net leverage) และอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (adjusted net debt to EBITDAR) อยู่ที่ระดับ 1.5 เท่า และ 1.7 เท่าตามลำดับ เทียบกับอัตราส่วนดังกล่าวในช่วงปี 2548 — 2550 ที่อยู่ที่ระดับ 1 เท่า
อันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับลดลง ถ้าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (adjusted net debt to EBITDAR) ไม่สามารถลดลงมาที่ระดับ 1.0 เท่าภายในปี 2554 หรือค่าการกลั่นน้ำมันเฉลี่ย (ที่ไม่รวมผลกำไรขาดทุนจากสินค้าคงคลัง) อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลอย่างต่อเนื่องในช่วง 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า ในทางกลับกัน แนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับสู่แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพเช่นเดิม หากบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดได้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งนำไปสู่การลดลงของอัตราส่วนหนี้สินเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
หลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตหาได้ที่ www.fitchratings.com ในการจัดอันดับเครดิตฟิทช์ได้ใช้หลักเกณฑ์ตาม Corporate Rating Methodology ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 และ Credit Rating Methodology for Refiners ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2550
ติดต่อ: เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, เอกพันธ์ พรหมประพันธ์, Vincent Milton, + 662 655 4755
หมายเหตุ: การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้ที่ www.fitchratings.com
การใช้อันดับเครดิตที่จัดทำโดยฟิทช์เรทติ้งส์มีข้อจำกัดและขอบเขตการใช้ ซึ่งข้อจำกัดและขอบเขตของการใช้อันดับเครดิตดังกล่าวสามารถหาได้จาก HTTP://FITCHRATINGS.COM/UNDERSTANDINGCREDITRATINGS นอกจากนี้คำจำกัดความของอันดับเครดิตและการใช้อันดับเครดิตของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ สามารถหาได้จาก www.fitchratings.com อันดับเครดิตที่ประกาศ หลักเกณฑ์และวิธีการจัดอันดับเครดิต ได้แสดงไว้ในเว็บไซต์ดังกล่าวตลอดเวลา หลักจรรยาบรรณ การรักษาข้อมูลภายใน ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น แนวทางการเปิดเผยข้อมูลระหว่างบริษัทในเครือ กฎข้อบังคับรวมทั้งนโยบายและกระบวนการที่เกี่ยวข้องอื่นๆของฟิทช์ ได้แสดงไว้ในส่วน ‘หลักจรรยาบรรณ’ ในเว็บไซต์ดังกล่าวเช่นกัน