สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 11 มิถุนายน 2553

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 14, 2010 08:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--PRdd สรุป แรงเทขายทองคำเพื่อปรับพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนยังคงมีอย่างต่อเนื่องหลังจากมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาอย่างแข็งแกร่งของจีน สหรัฐ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ซึ่งทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง บวกกับ ความต้องการพันธบัตร สเปนที่มีเป็นจำนวนมากนั้นได้คลายความวิตกเกี่ยวกับความสามารถของสเปนในการหาเงิน ชำระหนี้ รวมทั้งการที่สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE)ได้ออกมากล่าว ว่า ตลาดทองคำมีขนาดเล็กและผันผวนเกินกว่าที่จีนจะนำเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมาลงทุนเป็นช่องทางหลัก กลยุทธ์การลงทุน หลังจากที่ทำจุดสูงสุดใหม่ที่บริเวณราคา 1,252US$ วันที่ 8 มิ.ย.2010 หลังจากที่เคยเกิดก่อนหน้านี้บริเวณ 1,248 US$. ช่วงวันที่ 14 พ.ค.2010 รูปแบบทางเทคนิคหลังทดสอบแนวจุดสูงสุดเดิมเกิดขึ้น อาจจะเกิดได้ 2 รูปแบบ - รูปแบบที่ 1 ทำจุดสูงสุดใหม่ บริเวณ 1,248 — 1,260 US$ ( อาจจะเกิดหลังการปรับฐานรูปแบบที่ 2 เกิดขึ้นจบไปก่อน ) - รูปแบบที่ 2 ได้เริ่มเกิดการปรับฐานลงมาหลังเกิดรูปแบบ Double Top แล้วราคาเริ่มปรับฐานลงมาบริเวณ 1,214 , 1,204 US$ กลยุทธ์ เล่นสั้น อาจจะรอปิดสถานะขายบริเวณราคา 1,125 — 1,130 US$ สำหรับคนที่มี สถานะซื้อเป็นจังหวะช่วงเวลาที่ดีในการปิดสัญญาณซื้อ เพราะอาจจะเกิดดีดทางเทคนิคได้ วัน สองวันเกิดขึ้น เพื่องลงต่อ ส่วนคนที่มี สถานะขาย อาจจะปิดทำกำไร และหาจังหวะเปิด สถานะขาย อีกครั้งบริเวณ 1,125 — 1,130 US$ มองว่าช่วงนี้อาจจะเกิดการเด่งทางเทคนิคเท่านั้น ระยะกลาง — ยาว อาจเป็นการดีดทางเทคนิคเพื่อลงทำจุดต่ำใหม่อีกครั้ง บริเวณ 1,214 , 1,204 US$ ส่วน GFM10 แนวรับ อยู่ที่ประมาณ 18,700 บาท และถัดไปที่ 18,630 บาท แนวต้าน อยู่ที่ประมาณ 19,000 บาท และถัดไปที่ 19,100 บาท ปัจจัยบวก - กองทุน SPDR Gold Trust ซื้องทองเพิ่ม 7.607 ตัน กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลกเปิดเผยว่าทางกองทุนได้ถือครองทองคำระดับ 1,306.137 ตัน โดยเพิ่มขึ้น 7.607 ตัน จากวันก่อนหน้าซึ่งข้อมูลจากสภาทองคำโลกบ่งชี้ว่า กองทุน SPDR Gold Trust มีทองคำสำรองมากเป็นอันดับ 6 ของโลก รองจากฝรั่งเศสที่มีทองคำสำรองอยู่ 2,435 ตัน(รอยเตอร์) - ยอดส่งออกจีนหนุนน้ำมันดิบปิดบวก 1.1 ดอลล์ ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ในวันพฤหัสบดี โดยราคาน้ำมันปิดตลาดในแดนบวกเป็นวันที่ 3ติดต่อกัน ในขณะที่จีนยืนยันว่ายอดส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค.และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ตัวเลขอุปสงค์น้ำมันที่สดใส และปัจจัยเหล่านี้ก็กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.48 %มาปิดตลาดที่ 75.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ปิดที่75.65 ดอลลาร์ในวันที่ 12 พ.ค.เป็นต้นมา หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 73.72-76.30ดอลลาร์(รอยเตอร์) - ธ.กลางยุโรปประกาศตรึงดอกเบี้ยที่ 1% ตามคาด ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ตามความคาดหมายในวันนี้เป็นเดือนที่ 1ติดต่อกันนอกจากนี้ ECB ยังตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนที่ 0.25% และตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 1.75%.(อินโฟเควสท์) - ธ.กลางอังกฤษประกาศคงดอกเบี้ยที่ 0.5% ตามคาด ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในตามความคาดหมายก่อนการประกาศงบประมาณของรัฐบาลใหม่ในวันที่ 22 มิ.ย.ซึ่งจะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการคุมเข้มด้านการคลัง(รอยเตอร์) ปัจจัยลบ - ทองคำปิดลบ $7.70 หลังจีนส่งสัญญาณเมินลงทุนตลาดทอง สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากสำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) กล่าวว่า ตลาดทองคำมีขนาดเล็กและผันผวนเกินกว่าที่จีนจะนำเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมาลงทุนเป็นช่องทางหลัก นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีน สหรัฐ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ยังทำให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงโดย สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 7.70 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,222.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,216.20 - 1,236.00 ดอลลาร์ - สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานลด 3,000 คนในสัปดาห์ล่าสุด กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 มิ.ย.ลดลง 3,000 ราย สู่ 456,000 ราย จาก459,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น(รอยเตอร์) - ธปท.คาดดบ.นโยบายปรับขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ การธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดจะได้เห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อย่างน้อย 1 ครั้ง ภายในปีนี้ หลังมองเศรษฐกิจไทยยังมีแรงส่งของการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ที่ทำให้เศรษฐกิจสะดุดไปบ้าง แต่การส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ(รอยเตอร์) ปัจจัยที่ต้องติดตาม - คาดยอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.3% กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ค.ในวันศุกร์ที่ 11 มิ.ย.เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทยโดยคาดว่า ยอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. และยอดค้าปลีกที่ไม่รวมรถยนต์จะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. (รอยเตอร์) - คาด ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 74.0 รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.ในวันศุกร์ที่ 11 มิ.ย.ในเวลา 20.55 น.ตามเวลาไทยโดยคาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจะอยู่ที่ 74.0 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 73.6 ในเดือนพ.ค., ดัชนีภาวะปัจจุบันจะอยู่ที่ 81.1 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 81.0 ในเดือนพ.ค.และดัชนีคาดการณ์จะอยู่ที่ 69.2 ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจาก 68.8 ในเดือนพ.ค. (รอยเตอร์) - คาดสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจจะเพิ่มขึ้น 0.4% กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนเม.ย.ในวันศุกร์ที่ 11 มิ.ย.เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย โดยคาดไว้ว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจจะเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% เช่นกันในเดือนมี.ค. (รอยเตอร์) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมทปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร. 02-287-1155 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร. 02-677-5520 หรือ www.ylgbullion.com หากสนใจเข้าร่วมสัมมนาหัวข้อ “การลงทุนในโกล์ดฟิวเจอร์ส” ฟรี!!! ทุกวัน จันทร์, พุธ เวลา 14.00-16.00 น.และ วันเสาร์ เวลา 10.00-12.00 น. สำรองที่นั่งได้ทุกวันทาง เว็บไซด์ หรือ โทร 02-2871155 ต่อ 139

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ