กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--ก.ไอซีที
นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า จากการสำรวจและวิเคราะห์ปรากฏการณ์การแข่งขันฟุตบอลโลกกับสังคมไทย เมื่อครั้งฟุตบอลโลก 2006 ในพื้นที่ 75 จังหวัด พบว่า ประชากรส่วนใหญ่มีการเล่นพนันฟุตบอลกว่าร้อยละ 80.7 จึงคาดการณ์ได้ว่าการแข่งขันฟุตบอลโลกในปีนี้ จะมีผู้ติดตามการแข่งขันฟุตบอลโลกจำนวนมากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารที่ทันสมัยขึ้น มีช่องทางต่างๆ ที่ชักนำเข้าสู่การเล่นพนันได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ถูกชักจูงได้ง่าย และเป็นกลุ่มที่ยังไม่มีรายได้ จึงอาจเป็นปัจจัยให้เกิดปัญหาสังคมในด้านต่างๆ ตามมา เช่น ปัญหาการล่อลวงแรงงานให้เล่นการพนันจนเป็นหนี้ที่อาจเชื่อมโยงกับการค้ามนุษย์ จึงเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความพยายามและความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ องค์กรเอกชน องค์การระหว่างประเทศ ผู้ประกอบการ รวมทั้งสถาบันครอบครัวที่ควรเป็นที่ปรึกษาให้เด็กและเยาวชน ตลอดจนควรปลูกฝังความคิดให้ดูฟุตบอลอย่างเข้าใจในการกีฬามากกว่าเป็นเรื่องของการพนัน
“กระทรวงไอซีที ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักที่ดูแลทางด้านเทคโนโลยี จึงได้มีนโยบายเร่งด่วนในการบูรณาการความร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรรม และกระทรวงศึกษาธิการอย่างใกล้ชิด โดยมอบหมายกลุ่มนักเฝ้าระวังให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง สอดส่อง รวมทั้งแจ้งเบาะแสพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ตามชุมชน และสถาบันการศึกษาทุกแห่ง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะการเล่นพนันออนไลน์ที่ระบาดหนักในทุกๆ ประเทศ” นายจุติ กล่าว
สำหรับแนวทางการดำเนินงานต่อการเล่นการพนันฟุตบอลออนไลน์ในช่วงเทศกาลฟุตบอลโลก 2010 นั้น กระทรวงฯ ได้วางเป้าหมายการดำเนินงานไว้ 2 ประการ คือ 1.การระงับการเข้าถึงเว็บไซต์การพนันฟุตบอลออนไลน์ในระดับประเทศ 2.สร้างความตระหนักรู้และรณรงค์ต่อภาคประชาชนให้รับทราบถึงภัยจากการเล่นพนันออนไลน์ในเทศกาลฟุตบอลโลกเกี่ยวกับความผิดทางกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อภาคสังคม ภาคครัวเรือน และภาคธุรกิจของประเทศ
โดยกระทรวงฯ จะใช้ 4 กลยุทธ์ในการดำเนินงาน คือ 1.ให้ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต หรือศูนย์ ISOC ทำการเฝ้าระวัง ติดตาม และวิเคราะห์ข้อมูลของเว็บไซต์ต่างๆ ที่เข้าข่ายการพนันฟุตบอลออนไลน์ เพื่อทำการสืบหาหลักฐานและทำการจับกุมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด โดยกระทรวงฯ จะทำหน้าที่ในการสนับสนุนข้อมูลให้กับทางพนักงานเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนคดี ซึ่งจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
กลยุทธ์ที่ 2.สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยจากการเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ผ่านสื่อ และช่องทางการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ 3.ส่งเสริมให้ภาคประชาชนที่เป็นเครือข่ายตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ได้แจ้งข้อมูล เบาะแสต่างๆ เกี่ยวกับเว็บไซต์การพนันฟุตบอลออนไลน์ที่ได้พบเห็นหรือได้รับผลกระทบไปยังสายด่วน 1212 ตลอด 24 ชั่วโมง และ 4.ตั้งคณะทำงานติดตามผลการดำเนินงานผ่านศูนย์ ISOC ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะมีการประเมินผลการปฏิบัติงานทุก 3 วัน รวมทั้งรายงานต่อผู้บังคับบัญชาอย่างต่อเนื่อง
“กระทรวงฯ ขอความร่วมมือจากเครือข่ายในการร่วมกันสอดส่องและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสามารถแจ้งเบาะแสเข้ามาที่สายด่วน 1212 จำนวน 5 คู่สาย ตลอด 24 ช.ม. รวมทั้งติดต่อมายังศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต ผ่านอีเมล์ 1212 @mict.mail.go.th ได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งกระทรวงฯ หวังว่าแนวทางการดำเนินการต่างๆ ที่ได้ปฏิบัตินี้จะสามารถป้องปรามภัยจากการเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ในระดับที่น่าพอใจ แม้จะไม่สามารถปิดกั้นเว็บไซต์เหล่านั้นได้ทั้ง 100% แต่หากดำเนินการได้ประมาณ 60% ก็จะช่วยลดผลกระทบต่อภาคสังคมและเศรษฐกิจของประเทศได้ในระดับหนึ่ง” นายจุติ กล่าว
สำหรับการปิดกั้นเว็บไซต์การพนัน ณ ขณะนี้ก่อนพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 นั้น สามารถดำเนินการปิดกั้น URL ของเว็บไซต์การพนันฟุตบอลตามคำสั่งศาลไปได้แล้ว 246 URL
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 021416747 MICT