กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--บัตรกรุงไทย
เคทีซี พอใจผลประกอบการเคทีซี 3 เดือนแรก ปี 2550 ชี้แม้ภาพรวมธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคปีนี้จะมีแนวโน้มขยายตัวไม่สูงนัก ด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นเพดานอัตราดอกเบี้ย ตัวเลขสิ้นสุด 31 มีนาคม 2550 มีกำไรสุทธิ 136 ล้านบาท ยอดรวมสมาชิกเพิ่มเป็น 1.83 ล้านบัญชี จากฐานบัตรเครดิตและสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี แคช รีโวลฟ์” เตรียมแผนรองรับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ควบคู่การรักษาคุณภาพพอร์ตลูกหนี้ มุ่งผนึกทีมเวิร์คขยายฐานบัตรเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่มแบบเซ็กเม้นเทชั่น และกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรไปสู่เมืองใหญ่ในต่างจังหวัดมากขึ้น เน้นการให้สิทธิประโยชน์ที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้บริโภคในชีวิตประจำวันที่ได้ผล จากการเชื่อมโยงสิทธิประโยชน์เครือข่ายพันธมิตรหลากธุรกิจ
นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “แม้ว่าภาพรวมของธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคจะมีแนวโน้มขยายตัวไม่สูงนักเช่นปี 2549 เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้น อีกทั้งมีการปรับเกณฑ์ผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำเป็น 10% จาก 5% และการปรับขึ้นเพดานอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตเป็น 20% ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการขยายตัวของสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้บริโภคอีกจำนวนมากที่มีความต้องการสินเชื่อเพื่อยืดระยะเวลาของการถือเงินสด เคทีซี จึงมุ่งเน้นการขยายฐานไปยังสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อพร้อมใช้ เคทีซี แคช รีโวลฟ (KTC CASH Revolve) เป็นหลัก เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสรรหาสิทธิประโยชน์ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เน้นการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายเฉพาะกลุ่มแบบเซ็กเม้นท์เทชั่นอย่างชัดเจน เช่น กลุ่มนักบิน กลุ่มคนเมืองเมโทรไลฟ์ กลุ่มนักกอล์ฟ เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์และความสะดวกสบายในการใช้จ่ายผ่านบัตรและการกู้ยืมผ่านสินเชื่อบุคคลมากที่สุด โดยใช้กลยุทธ์จับมือกับพันธมิตรธุรกิจชั้นนำในลักษณะของพาร์ทเนอร์ชิพ มาร์เก็ตติ้ง”
“สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2550 บริษัทฯ มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 117,270 บัญชี จากธุรกิจบัตรเครดิตและเคทีซี แคช รีโวลฟ์ ทำให้มียอดรวมสมาชิกเพิ่มเป็น 1.83 ล้าน จาก 1.77 ล้านบัญชี ณ สิ้นปี 2549 จำนวนบัตรเครดิตรวม ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 เท่ากับ 1,422,217 บัตร สินเชื่อบุคคล “เคทีซี แคช” เท่ากับ 406,328 บัญชี และสินเชื่อสำหรับบุคคลที่เป็นเจ้าของกิจการ “เคทีซี มิลเลี่ยน” เท่ากับ 3,706 บัญชี ในขณะที่พอร์ตลูกหนี้รวมไตรมาสที่ 1 ปี 2550 มียอดลูกหนี้สุทธิจำนวน 40,027 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากการให้ความสำคัญกับการบริหารคุณภาพหนี้อย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น จึงเป็นผลให้มูลค่ารวมของพอร์ตเพิ่มขึ้นไม่มากนัก”
“ในไตรมาสแรก ปี 2550 บริษัทฯ มีรายได้ดอกเบี้ยรับรวมค่าธรรมเนียมการใช้วงเงิน 1,698 ล้านบาท เติบโต 49% จากช่วงเดียวกันของปี 2549 ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราการเติบโตของยอดลูกหนี้รวม โดยส่วนใหญ่ 90% เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยรับจากธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล เคทีซี แคช เป็นหลัก”
“ในส่วนของค่าใช้จ่ายการดำเนินงานต่อรายได้ (Cost to Income Ratio) เท่ากับ 52% ลดลงจาก 56% ณ สิ้นปี 2549 เป็นผลจากอัตราเติบโตของรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายด้านการบริหารงาน โดยบริษัทฯเน้นการสร้างมูลค่างานที่ทำเพิ่มมากขึ้นจากจำนวนพนักงานที่มีอยู่เดิม”
“แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ในทิศทางที่ลดลง แต่ต้นทุนทางการเงินของเคทีซียังคงสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นกู้เดิมที่บริษัทฯ เคยมีความได้เปรียบด้านต้นทุนเงินในระดับอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำนั้น เริ่มทยอยครบกำหนดชำระคืน บริษัทฯ จึงมีภาระการจัดหาเงินกู้ยืมใหม่ (Refinance) ในอัตราดอกเบี้ยตลาดปัจจุบันที่สูงขึ้น จึงทำให้ต้นทุนเงินทุนของบริษัทฯ เพิ่มเป็น 5.18% ในขณะที่บริษัทฯได้รับอัตรารายได้ดอกเบี้ยรับเฉลี่ยสูงขึ้นมากกว่าต้นทุนเงินที่เพิ่มขึ้น มีผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Net Interest Margin) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และหากในกลางปีนี้บริษัทฯ ทำการปรับเพดานอัตราดอกเบี้ยจาก 18% เป็น 20% อาจทำให้บริษัทฯ มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้น”
“สำหรับฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2550 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 42,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 41,675 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2549 ลูกหนี้การค้ารวมสุทธิ 40,027 ล้านบาท ประกอบด้วยยอดลูกหนี้บัตรเครดิตสุทธิ คิดเป็นสัดส่วน 65% ของสินทรัพย์รวมเท่ากับ 27,380 ล้านบาท สินเชื่อบุคคล “เคทีซี แคช” สุทธิ 21% เท่ากับ 8,988 ล้านบาท และสินเชื่อสำหรับบุคคลที่เป็นเจ้าของกิจการ “เคทีซี มิลเลี่ยน” สุทธิ 7% เท่ากับ 3,047 ล้านบาท”
“อย่างไรก็ตาม เคทีซียังคงความสามารถในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง และจะแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่าง ควบคู่ไปกับการบริหารคุณภาพของลูกหนี้เป็นสำคัญโดยเฉพาะในช่วงสภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาสแรก 136 ล้านบาท” นายนิวัตต์กล่าวปิดท้าย
ออกข่าวในนาม: ฝ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจสัมพันธ์
“เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 0-2828-5047-49, 0-2828-5085, 0-2828-5732, 0-2828-5057
โทรสาร 02-828-5046 อีเมล์ : ktc_pr@ktc.co.th
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net