กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--กรมศุลกากร
นายเอกลาภ รัตนรุจ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แถลงข่าวเจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุมชายชาวอินเดีย ลักลอบนำเข้ายาเคตามีน วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 63 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 180 ล้านบาท ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากการสืบทราบว่าจะมีชาวต่างชาติลักลอบนำ ยาเสพติดให้โทษเข้ามาในราชอาณาจักร จึงได้สั่งการให้ นางกรศิริ พิณรัตน์ รองอธิบดีด้านยุทธศาตร์ นายเอกลาภ รัตนรุจ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสิทธิชัย จึงจิรานนท์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร นายสรศักดิ์ มีนะโตรี ผอ.ส่วนบริการผู้โดยสาร และ นายถวัลย์ รอดจิตต์ หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปราม นายสมบัติ ชาติไชยไววิทย์ หัวหน้าฝ่ายบริการการผู้โดยสารที่1 กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามตามนโยบายปกป้องสังคมของกรมศุลกากรในการสกัดกั้นการลักลอบหนีศุลกากรและยาเสพติดให้โทษ
จนกระทั่งวันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2553 เวลาประมาณ 19.15 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้พบชายต้องสงสัย 2 คนนำกล่องสีน้ำตาลขนาด 37x56x47 Cm. จำนวน 10 กล่องมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจที่บริเวณช่องตรวจมีสิ่งของต้องสำแดง (ช่องแดง) หมายเลข 15 โซน C อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศขาเข้า จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางหมายเลข J0085473 พบว่าเป็น ชาวอินเดีย ชื่อ MR. CHAKRABORTY JOY (นายจักราวารตี จอย) อายุ 30 ปี และหนังสือเดินทางหมายเลข J0085835 เป็นชาวอินเดีย ชื่อ MR.ROY ABHIJIT (นายรอย อภิจิต) อายุ 28 ปี ทั้งคู่เดินทางจากเมือง โกลกาตา ประเทศอินเดีย มายังประเทศไทยโดยสายการบิน Jet Airways เที่ยวบินที่ 9W006/15.06.53 ประสงค์จะนำภาชนะแก้ว(ใส) ซึ่งบรรจุอยู่ในกล่องดังกล่าว ขอชำระอากรต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่สังเกตพบว่ากล่องสีน้ำตาลจำนวน 10 กล่อง ข้างกล่องระบุว่า Vitalo Group นั้นมีน้ำหนักผิดปกติ จึงได้ทำการ X-RAY และตรวจสอบกล่อง ทั้ง 10 กล่องอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจสอบพบผงผลึกสีขาวบรรจุอยู่ในแผ่นพลาสติกสีดำซ่อนอยู่ในช่องลับข้างกล่องกระดาษสีน้ำตาล จำนวน 10 กล่องดังกล่าว ภายหลังตรวจสอบแล้วพบเป็นยาเคตามีน น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 63 กิโลกรัม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มูลค่าของกลางประมาณ 180 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ฯจึงได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการนำของต้องห้ามประเภทวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 27 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 และพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท พ.ศ. 2518 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงได้ยึดของกลางดังกล่าว และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ การจับกุมยาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทของกรมศุลกากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ตั้งแต่ ต.ค.52 — ปัจจุบัน) จำนวนทั้งสิ้น 59 ราย มูลค่าประมาณ 497.335 ล้านบาท ดังนี้
1. เฮโรอีน จำนวน 13 ราย น้ำหนัก 9.291 กิโลกรัม
2. ไอซ์(ICE) จำนวน 35 ราย น้ำหนัก 65.882 กิโลกรัม
3. ยางกัญชา จำนวน 2 ราย น้ำหนัก 12.2 กิโลกรัม
4. โคคาอีน จำนวน 4 ราย น้ำหนัก 6.552 กิโลกรัม
5. เคตามีน จำนวน 3 ราย น้ำหนัก 73.20 กิโลกรัม(รวมรายล่าสุด63 Kgs)
6. ฝิ่น จำนวน 1 ราย น้ำหนัก 0.215 กิโลกรัม