กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ในขณะที่โครงการ “แฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 14 ประจำปี 2552 - 2553” อยู่ระหว่างการประกวดในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งขณะนี้ได้ผู้ชนะเลิศแล้วทั้งสิ้น 3 ภาค ได้แก่ ในส่วนกรุงเทพฯ, ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการใกล้ชิดเด็กพร้อมทั้งเห็นพัฒนาการของเยาวชนมาตลอดการประกวด อาจกล่าวได้ว่าโครงการแฟนต้ายุวทูตเป็นดั่งกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนภาพเด็กไทยได้เป็นอย่างดี รวมทั้งสอดคล้องกับคุณลักษณะพึงประสงค์ของนักเรียนที่รัฐบาลเพิ่งกำหนดสดๆ ร้อนๆ เพื่อส่งเสริมการปรองดองในชาติ
ผศ.เฉลิมพล ดาวเรือง ประธานกรรมการตัดสินโครงการแฟนต้ายุวทูต ได้เผยถึงพัฒนาการเด็กไทยว่า “สิ่งที่ผมมองเห็นถึงการพัฒนาของเยาวชนไทยในปัจจุบันอย่างเด่นชัดมากขึ้นคือ เยาวชนไทยรู้จักการทำงานเป็นทีม แต่ยังอยากให้เด็กไทยได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมคือ เรื่องของสามัญสำนึก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี งเยาวชนไทยในตอนนี้คือ นี้ค่ะ ที่ชาการเป็นสิ่งที่เรียนรู้เพิ่มเติมได้ แต่คุณธรรม จริยธรรม เป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังาจไม่เกมีจิตสาธารณะ ใส่ใจแบ่งปันให้คนอื่นมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเด็กเก่งมีมาก แต่ก็เห็นแก่ตัวมาก เยาวชนไทยในอนาคตนั้น ควรเป็นเด็กที่มีพื้นฐานของความเก่ง ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความสุข มีคุณธรรม จริยธรรมที่ดี มีน้ำใจโอบอ้อมอารีให้แก่กัน ซึ่งตลอดระยะเวลา 25 ปี โครงการแฟนต้ายุวทูตก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ช่วยพัฒนาเด็กไทย ทั้งด้านจิตสาธารณะ ความรู้คู่คุณธรรม และปลูกฝังให้เด็กรู้จักที่จะรักวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนผ่านกิจกรรมของโครงการฯ”
ส่วน อ.อุทัยพันธ์ บุณยประสิทธิ์ ครูต้นแบบการสอนภาษาไทย ประจำปี 2539 จากกระทรวงศึกษา หนึ่งในคณะกรรมการการตัดสินโครงการแฟนต้ายุวทูต กล่าวว่า “อยากให้เด็กไทยเป็นแบบที่เห็นในวันนี้ คือมีสติปัญญาที่ดี ความกล้าแสดงออกในเชิงสร้างสรรค์ การมีจิตอาสาช่วยเหลือสังคม และเป็นตัวของตัวเอง ต้องบอกก่อนว่าโครงการแฟนต้ายุวทูตมีความพร้อมในการพัฒนาเยาวชนไทยในทุกๆ ด้าน แต่สิ่งที่อยากเห็นจากเด็กไทยในอนาคต ต้องไม่เป็นเด็กที่เก่งแต่วิชาการอย่างเดียว แต่ต้องรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชาติตัวเองด้วย”
ด้าน ผศ.ประเทือง ครองอภิรดี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในคณะกรรมการการตัดสินโครงการแฟนต้ายุวทูต เผยว่า “เดี๋ยวนี้เด็กไทยมีการพัฒนามากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งในเรื่องของวิชาการ ความกล้าแสดงออก เช่นทีมชนะของกรุงเทพในปีนี้ เป็นธรรมชาติ ไม่เสแสร้งมากจนเกินไป จึงอยากเห็นเด็กไทยในอนาคตโตสมวัย”
สำหรับ อ.จรินทร์ ปัญญาศิริ กรรมการอาวุโสโครงการแฟนต้ายุวทูตแห่งประเทศไทย หนึ่งในคณะกรรมการการตัดสินโครงการแฟนต้ายุวทูต เปิดเผยถึงมุมมองในการพัฒนาเด็กไทยว่า “อยากให้เด็กไทยมีพัฒนาการพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านสติปัญญา บุคลิกภาพ ความสามารถ ปฏิภาณไวพริบ จริยธรรม คุณธรรม และสิ่งที่ควรได้รับการพัฒนาเป็นอันดับแรก คือ การพัฒนาด้านวินัย ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่จะนำมาสู่จริยธรรม และคุณธรรม อันจะทำให้เกิดการปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง”
มาถึง ดร.เจริญศรี ท่วมสุข นักวิชาการด้านเด็ก และเยาวชน หนึ่งในคณะกรรมการการตัดสินโครงการแฟนต้ายุวทูต กล่าวว่า “อยากให้เด็กได้รับรู้และสร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง ถิ่นเกิด และรากเหง้าของตนเอง จะได้เกิดความภาคภูมิใจในชาติ และสิ่งเหล่านี้จะส่งเสริมให้ชาติไทยของเราแข็งแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในเหตุการณ์ปัจจุบัน”
มุมมองของผู้ใหญ่จาก สท. ก็มีความน่าสนใจ เพราะ แฉล้ม ทองเกลา ผู้แทนจากสำนักส่งเสริมสวัสดิภาพ และพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ (สท.) ได้เปิดเผยว่า “อยากให้เด็กไทยได้นึกถึงสังคมมากขึ้น มองคนอื่น ที่อยู่รอบๆ ตัวมากขึ้น อาจเริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น ช่วยเหลือพ่อแม่ ช่วยเหลือเพื่อน ช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ฝึกการสร้างจิตอาสา รวมทั้งครอบครัวก็ควรช่วยกันปลูกฝังให้เด็กรักครอบครัว เมื่อความรักในครอบครัวแข็งแรง เด็กก็จะเริ่มมองไปข้างนอก รู้จักช่วยเหลือคนอื่นที่ไกลตัวออกไป ซึ่งจะช่วยให้สังคมไทยเราน่าอยู่มากขึ้น”
ปิดท้ายที่ ธงชัย ศิริธร ผู้อำนวยการกิจกรรมสังคมและสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด เจ้าของโครงการแฟนต้ายุวทูต ที่ดำเนินกิจกรรมมากว่า 25 ปี ในการร่วมพัฒนาเยาวชนไทยเพื่อสร้างสรรค์สังคมได้ให้ความคิดเห็นไว้ว่า “ผมเชื่อว่าการเรียนเก่งไม่ได้หมายความจะทำให้ชีวิตดี 100% หากแต่การมีชีวิตที่ดีคือการอยู่ในสังคมที่ดี ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีจิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปัน ช่วยเหลือ รู้จักการให้ ซึ่งโครงการแฟนต้ายุวทูตได้พยายามพัฒนาเด็กไทยไปในทิศทางนี้ เชื่อว่าเด็กไทยรุ่นใหม่นี่แหละครับ ที่จะพัฒนาและทำสังคมไทยของเราให้น่าอยู่กว่าเดิม และเขาก็จะเป็นเบ้าหลอมแก่เยาวชนรุ่นลูกรุ่นหลานต่อๆ ไป”
อย่างน้อยโครงการแฟนต้ายุวทูตก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาเยาวชนไทย ให้ไปสู่เป้าหมายที่ผู้ใหญ่และสังคมอยากจะเห็นในอนาคต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร.0-2434-8300, 0-2434-8547
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา