ออสสิริส ประกาศบุกตลาดทองคำเต็มสูบ มั่นใจเติบโตอย่างมีศักยภาพทั้งตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 18, 2010 07:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--พีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส ออสสิริส ผู้นำด้านการลงทุนทองคำชั้นนำของไทย ประกาศบุกตลาดทองคำและโกลด์ฟิวเจอร์สเต็มสูบ เปิดตัวทีมงานออสสิริส โกลด์ อินเวสต์เมนท์ และออสสิริส ฟิวเจอร์ส พร้อมบริการลูกค้าเต็มประสิทธิภาพ มั่นใจผลิตภัณฑ์หลากหลายสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกรูปแบบ นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทออสสิริส จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2553 ว่า ออสสิริสตั้งเป้าที่จะสร้างความแข็งแกร่งและพัฒนาธุรกิจให้เป็นบริษัทที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้ในหลากหลายรูปแบบ ตลอดจนการให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจรด้านการลงทุนทองคำ โดยเมื่อมาที่ออสสิริส นักลงทุนจะสามารถเลือกลงทุนได้ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในทองคำแท่งและเหรียญทองคำ โปรแกรมออมทอง รวมถึงการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์ส ผ่านช่องทางต่างๆ ที่บริษัทได้พัฒนาขึ้น “ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท จาก 18,000 ล้านบาทในปีที่แล้ว คิดเป็นอัตราเติบโตประมาณ 38% จากปีก่อน หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 15% และจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 1 - 2 สาขา หลังจากที่เพิ่งเปิดสาขาหาดใหญ่ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ขณะที่ในส่วนของ “โปรแกรมออมทอง” ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และการเปิดตัว “เหรียญทองคำออสสิริส” ที่มีให้เลือกหลายขนาดและหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการเปิดให้มีการซื้อขายผ่านทางเว็บไซต์หรืออินเทอร์เน็ตเทรดดิ้ง ต่างก็ได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจจากนักลงทุน” ส่วนบริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส (AFC) ธุรกิจโบรกเกอร์ซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้า ปีนี้ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดการซื้อขายสัญญาทองคำล่วงหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 13% ของตลาด หรือเท่ากับปริมาณการซื้อขาย 21,000 สัญญา/ เดือน จากปี 2552 ที่บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดในระดับ 11.60% หรือเป็นอันดับ 1 ในโบรกเกอร์ทองคำ และตั้งเป้าเพิ่มบัญชีลูกค้าของบริษัทเป็น 1,000 บัญชี โดยตั้งแต่ต้นปี 2553 มีปริมาณซื้อขายเฉลี่ย 17,500 สัญญา/ เดือน และออสสิริส ฟิวเจอร์สมีแผนที่จะเพิ่มจำนวน SA เป็น 10 ราย ภายในปี 2553 โดยจะเน้นขยายผู้ร่วมทำธุรกิจที่สนใจมีตัวแทนรับส่งคำสั่งซื้อขาย (SA) กระจายไปยังภูมิภาคที่เป็นหัวเมืองใหญ่ ทั้งนี้บริษัทสามารถถึงจุดคุ้มทุนไปตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 หรือหลังจากเปิดซื้อขายเพียง 6 เดือน ซึ่งเร็วกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ในช่วงแรก นายบุญเลิศเปิดเผยเพิ่มเติมว่า การเป็น Market Maker ของ Ausiris Gold Futures ส่งผลดีหลายประการต่อตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สโดยรวม อาทิ การสร้างตลาดให้มีความน่าสนใจในการลงทุน การสร้างบุคลากรภายในบริษัทให้มีความรู้ความสามารถในการทำ Market Maker อันส่งผลให้มีการขยายธุรกิจที่ต่อเนื่องได้อีก “นักลงทุนสามารถมั่นใจได้ว่า ออสสิริส มีการบริหารงานด้วยทีมงานมืออาชีพ โดย ออสสิริส โกลด์ อินเวสต์เมนท์ มีคุณธนสิน กลีบลำเจียก หัวหน้าผู้ค้าทองคำ พร้อมทีมที่ปรึกษาการลงทุนทองคำ และออสสิริส ฟิวเจอร์ส มีคุณอภิชาติ ลักษณะสิริศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมทีมโบรกเกอร์ ที่พร้อมให้คำแนะนำการลงทุนและช่วยบริหารความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด” นอกจากนี้ ออสสิริส และออสสิริส ฟิวเจอร์ส จะร่วมมือกันในการพัฒนารูปแบบการให้บริการการลงทุนเกี่ยวกับทองคำใหม่ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกและความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมถึงความร่วมมือกันในการพัฒนาธุรกิจการลงทุนทองคำให้มีความครอบคลุมและครบวงจรมากยิ่งขึ้น อาทิ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนทองคำในรูปแบบต่างๆ ผ่านกิจกรรมสื่อสารทางการตลาดในรูปแบบใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง “ในช่วงครึ่งปีหลัง ออสสิริสมีแผนที่จะจัดโรดโชว์อย่างต่อเนื่องไปตามอาคารสำนักงาน ทั้งนี้เพื่อแนะนำธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของบริษัท รวมถึงขยายฐานลูกค้าคนทำงานซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่สำคัญบริษัทจะมีการต่อยอดแนวความคิด “ออสสิริส โกลด์ คลีนิก” ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทุกระดับในงานมันนี่ เอ็กซ์โป 2010 ที่ผ่านมา ด้วยการให้คำแนะนำในการบริหารพอร์ตการลงทุนทองคำอย่างครบถ้วน เช่น วิธีการออมด้วยทองคำ การลงทุนในทองคำแท่ง รวมถึงการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์ส ทั้งนี้ ยังให้คำปรึกษาการปรับพอร์ตการลงทุนให้ตรงกับลูกค้าแต่ละบุคคล รวมถึงตัวอย่างการจัดสัดส่วนการลงทุนในทองคำประเภทต่างๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น” นายบุญเลิศได้แนะนำถึงกลยุทธ์การลงทุนในทองคำภายในภาวะการณ์ปัจจุบันว่า นักลงทุนควรตัดสินใจในการลงทุนอย่างรอบคอบ หากสนใจซื้อทองคำในช่วงนี้ควรจำกัดปริมาณการซื้อไม่เกิน 10 - 20% เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน สำหรับคนที่ไม่เคยลงทุนมาก่อนให้ชิมลาง หรือเริ่มต้นลงทุนที่ 10% ของพอร์ต ส่วนผู้ที่เชี่ยวชาญอยู่แล้ว แนะนำให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 20% ของพอร์ต โดยนักลงทุนควรให้ความสนใจในการติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดทุนและภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญนักลงทุนควรลงทุนทองคำตามเป้าหมายในการลงทุนของแต่ละบุคคลและควรเลือกประเภทการลงทุนที่เหมาะสมตามประเภทสินค้าของทองคำ ซึ่งมีทั้งทองคำแท่ง เหรียญทองคำ โกลด์ฟิวเจอร์ส และอื่นๆ ทั้งนี้ ด้วยภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกในปัจจุบันที่ยังคงผันผวน โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรปที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้สินของบางประเทศสมาชิก ได้แก่ กรีซ โปรตุเกส สเปน และไอร์แลนด์ และล่าสุดที่ได้ลามไปยังประเทศฮังการี ได้สร้างแรงวิตกกังวลให้กับนักลงทุนทั่วโลกว่าอาจจะกลายเป็นชนวนก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินระลอกใหม่ ที่ไม่เพียงกระทบแค่สหภาพยุโรป แต่ยังมีอิทธิพลเขย่าเศรษฐกิจโลกได้ “ความกังวลในประเด็นข้างต้นส่งผลให้การลงทุนในทองคำจะยังคงได้รับความสนใจอย่างสูงในหมู่นักลงทุน ซึ่งทำให้ราคาทองคำจะยังคงได้รับแรงหนุนต่อไปในฐานะที่เป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย นอกจากนี้นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรงาม ๆ จากการลงทุนในทองคำ โดยประเมินว่าในระยะสั้น 1 - 3 เดือน ราคาทองคำจะมีความผันผวนประมาณ 10% โดยมีโอกาสปรับขึ้นไปได้ถึงประมาณ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ ออนซ์ และปรับลงไปได้ที่ระดับประมาณ 1,100 ดอลลาร์สหรัฐ/ ออนซ์ ส่วนในไตรมาสสุดท้ายอาจต้องประเมินทิศทางอีกครั้งจากความชัดเจนของเศรษฐกิจโลกว่าจะปรับตัวไปในทิศทางใด โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินของประเทศในยุโรปว่าจะขยายตัวเป็นวงกว้างมากขึ้นหรือสามารถรับมือและควมคุมปัญหาได้” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ปัณรษี ไทยวัชรามาศ บริษัทพีอาร์ แอนด์ แอสโซซิเอส จำกัด โทร 0-2651-8989 ต่อ 222 อีเมล์ panarasee@prassociates.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ