กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
ดูเหมือนว่ากระแสความตื่นตัวต่อปัญหา “ภาวะโลกร้อน” จะยังคงเป็นประเด็นร้อนมาแรงแห่งปีเพราะตั้งแต่เกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติต่อเนื่องในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้บางคนเชื่อว่าแนวโน้มน้ำทะเลสูงขึ้นอาจไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันอีกต่อไป ยิ่งตอกย้ำให้มนุษย์เราเกิดความตื่นกลัวและตื่นตัวต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น
หากจะพูดถึงความพยายามในการแสวงหาแนวทางเพื่อลดพฤติกรรมเบียดเบียนธรรมชาติ คงต้องยอมรับว่า เอสซีจี คือหนึ่งในบริษัทชั้นนำของเมืองไทยที่ดำเนินธุรกิจตามหลักบรรษัทภิบาล ควบคู่ไปกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม มาตลอดระยะเวลา 96 ปี ด้วยอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นอันเป็นรากฐานสำคัญนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ซึ่งปลูกฝังให้ทุกองค์กรในเครือยึดถือปฏิบัติและดำเนินการอย่างจริงจังเสมอมา
นายอนุวัตร เฉลิมไชย แบรนด์ไดเร็คเตอร์คนแรกกับนโยบายการบริหารงานใหม่ใน เอสซีจีผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง โดยเข้ามารับหน้าที่ดูแลภาพลักษณ์และวางตำแหน่งทางการตลาดให้กับ แบรนด์ คอตโต้ ผู้นำผลิตภัณฑ์กระเบื้อง สุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำคุณภาพเยี่ยมและการบริการที่ครบวงจร ภายใต้การบริหารงานรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของ ดร.ปริญญา สายน้ำทิพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซรามิคอุตสาหกรรมไทย จำกัด และ นายสราวุฒิ สำราญทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซานิทารีแวร์อิสดัสทรี จำกัด
ด้วยวิสัยทัศน์ของความเป็นผู้นำ หรือ Trend Setter ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์กระเบื้อง สุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ จึงทำให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของคอตโต้ดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ทันสมัย เติมเต็มฟังก์ชั่นการใช้งาน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ความต้องการที่แตกต่างของผู้บริโภค
ผลิตภัณฑ์ ECO COTTO จึงเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจอันเกิดจากความตั้งใจพัฒนาศึกษาวิจัยโดยทีมงาน COTTO Trend Decoder ที่ช่วยกันระดมสมองถอดรหัสเทรนด์ผู้บริโภคให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม จนพบคำตอบของความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยรักษ์โลกและมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
นายอนุวัตร ได้เล่าถึงแนวทางการพัฒนานวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมของกระเบื้อง สุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำคอตโต้ บนพื้นฐานหลักการ Reduce Reuse และ Recycle อาทิ การนำเอาวัตถุดิบรีไซเคิลมาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิต การพัฒนาระบบพลังงานทดแทนก๊าซธรรมชาติ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ตลอดจนนโยบายลดปริมาณของเสียและนำกลับมาใช้ใหม่ การบำบัดน้ำเสีย มาตรการจัดซื้อวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ทรัพยากรน้ำอีกด้วย
สำหรับไฮไลต์ของสินค้าในกลุ่ม ECO COTTO ที่เปิดตัวไปแล้วและได้รับกระแสการตอบรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น กระเบื้อง รุ่น Eco Touch Series ลายไม้สวยงามเข้ากับแนวคิดการห่วงใยสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว และกระเบื้อง รุ่น Eco Rockrete Series ที่เน้นดีไซน์ทันสมัยอวดลวดลายบนปูนเปลือยแบบสถาปัตยกรรมยุคใหม่ และที่สำคัญกระเบื้องทั้ง 2 รุ่น ยังผลิตจากวัตถุดิบรีไซเคิลถึง 60% จึงทำให้คอตโต้เป็นผู้ผลิตกระเบื้องเซรามิกรายแรกของโลกที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์
ส่วนของสุขภัณฑ์ไฮไลต์ได้แก่ ECO DUAL FLUSH รุ่น TETRAGON SERIES รุ่น 3 หรือ 4.5 ลิตร ที่ช่วยประหยัดน้ำมากกว่ามาตรฐาน มอก.ถึง 25% เมื่อเทียบกับสุขภัณฑ์รุ่น 6 ลิตร ผ่านมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยจากสถาบันรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรมเป็นรายแรกของไทย ถ้าคนที่กำลังมองหาก๊อกน้ำต้องเป็น รุ่น MINIMUS SERIES เพราะถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติลดอัตราการไหลของน้ำได้น้อยกว่า 4.8 ลิตรต่อนาที จึงประหยัดน้ำสูงสุดถึง 20% เมื่อเทียบกับมาตรฐานฉลากเขียว
“สำหรับก้าวต่อไปบนเส้นทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ และกระเบื้องคอตโต้ จะยังคงยึดมั่นในแนวทางการพัฒนากระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้หลากหลายต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง” นายอนุวัตร กล่าว
จนถึงวันนี้ จึงกล่าวได้ว่า คอตโต้ เป็นแบรนด์กระเบื้อง สุขภัณฑ์ และก๊อกน้ำที่มีแนวคิดในการสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบาย SCG ECO Value ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง