สรรพสามิตรุกปราบปรามน้ำมันเถื่อนและสุรายาดอง

ข่าวทั่วไป Friday June 18, 2010 16:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--กรมสรรพสามิต ดร.อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังได้มอบนโยบายให้กรมสรรพสามิตดูแลสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษี รวมถึงการดำเนินงานตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามน้ำมันเถื่อน บุหรี่เถื่อน และสุราเถื่อน และจูงใจผู้ที่อยู่นอกระบบให้เข้ามาสู่ระบบภาษี ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจของสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม ได้ดำเนินงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตอย่างจริงจังและต่อเนื่อง อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจของสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม และกลุ่มงานวิเคราะห์สินค้าและของกลางลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อตรวจวิเคราะห์และปราบปรามน้ำมันเถื่อน โดยเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2553 ตรวจสอบปั๊มน้ำมันและรถบรรทุกน้ำมันจำนวน 1 คัน ในเขตอำเภอเทพา อำเภอจะนะ และอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พบของกลางเป็นน้ำมันดีเซล จำนวน 9,200 ลิตร และน้ำมันเบนซิน จำนวน 2,200 ลิตร ที่ไม่ได้เสียภาษี พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 (น้ำมัน) ในข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าโดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษี และทำการปรับเป็นเงินจำนวน 321,260 บาท มูลค่าของกลางจำนวน 331,836 บาท และคิดเป็นค่าภาษีจำนวน 64,252 บาท และเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2553 เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจของสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปรามได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบนำน้ำมันเถื่อนเข้ามาในทะเลบริเวณจังหวัดสงขลา ซึ่งห่างจากเกาะหนูไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 16 ไมล์ จึงได้ประสานงานกับผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อสนธิกำลังจับกุมผู้กระทำผิด พบของกลางเป็นน้ำมันดีเซลจำนวน 25,000 ลิตร บรรจุอยู่ในเรือประมง “อ่าวไทยทอง 15” ซึ่งดัดแปลงระวางบรรทุกหน้าเก๋งเรือให้เป็นห้องบรรจุน้ำมัน พร้อมผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย ซึ่งให้การรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของน้ำมันจำนวนดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่ามีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้า (น้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล) โดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่มิได้เสียภาษี หรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน หรือมีสินค้าซึ่งได้รับยกเว้น หรือได้รับคืนภาษีแล้ว ไว้ในครอบครองโดยไม่มีสิทธิ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 (น้ำมัน) และทำการปรับเป็นเงินจำนวน 663,750 บาท มูลค่าของกลางจำนวน 692,250 บาท และคิดเป็นค่าภาษีจำนวน 132,750 บาท สำหรับการปราบปราบสุราที่มิชอบด้วยกฎหมาย(ยาดอง) อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวต่อว่าเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2553 เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ สำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปรามได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 ในเขตประเวศ กรุงเทพฯ จึงได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดพระโขนงเพื่อทำการตรวจค้น พบของกลางเป็นสุรากลั่นผสมบรรจุถังพลาสติก (ขนาด 4 ลิตร) จำนวน 105 ถัง สุรากลั่นผสมบรรจุโอ่ง (ขนาด 150 ลิตร) จำนวน 15 ใบ และสุรากลั่นบรรจุถุงพลาสติก (ขนาด 20 ลิตร) จำนวน 19 ถุง รวมน้ำสุราจำนวนทั้งสิ้น 3,050 ลิตร ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อน้ำสุรามาจากจังหวัดทางภาคเหนือ เพื่อนำมาหมักดองกับสมุนไพรและทำเป็นสุรากลั่นผสมสำหรับส่งซุ้มสุรายาดองในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพมหานคร โดยจำหน่ายในราคาถังละ 400 บาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่าทำสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต และขายสุราที่รู้ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา 5 ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลอุดมสุข เพื่อดำเนินคดี ทั้งนี้หากนำสุราจำนวนดังกล่าวไปจำหน่ายในท้องตลาดจะมีมูลค่าประมาณ 305,000 บาท และคิดเป็นค่าภาษีจำนวน 146,400 บาท นอกจากนี้เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2553 เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ สำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปรามได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบขายสุรายาดองในเขตหนองแขม กรุงเทพฯ จึงได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดตลิ่งชันเพื่อทำการตรวจค้น พบของกลางเป็นสุรากลั่นผสมบรรจุถังพลาสติก (ขนาด 150 ลิตร) จำนวน 19 ถัง และสุรากลั่นผสมบรรจุแกลลอน (ขนาด 25 ลิตร)จำนวน 11 แกลลอน รวมน้ำสุราจำนวนทั้งสิ้น 3,125 ลิตร คิดเป็นมูลค่าของกลางประมาณ312,500 บาท และคิดเป็นค่าภาษีจำนวน 150,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกัน นำออกแสดงเพื่อขายซึ่งสุราที่รู้ว่าทำขึ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา 5 และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลหนองค้างพลูเพื่อดำเนินคดีต่อไป สำหรับผลการปราบปรามผู้กระทำผิดในคดีน้ำมันและคดีสุรา 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2553 (ตุลาคม 2552 — พฤษภาคม 2553) กรมสรรพสามิตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในคดีน้ำมันได้จำนวน 2,166 คดี ค่าปรับจำนวน 101.13 ล้านบาท และจับกุมผู้กระทำผิดในคดีสุราได้รวม 18,868 คดี ค่าปรับจำนวน 59.65 ล้านบาท “หากประชาชนท่านใดทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Hot line 1713 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ www.excise.go.th หรือแจ้งที่ตู้ ป.ณ. 10 เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 ซึ่งกรมสรรพสามิตจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสเป็นความลับ และจะมอบสินบนนำจับให้ภายหลังจากคดีเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว”อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าว ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมสรรพสามิต โทร/โทรสาร 0 2241 4778 www.excise.go.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ