กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--กทม.
คกก. พิจารณางบประมาณรายจ่าย ปี 54 แนะสำนักพัฒนาสังคมส่งเสริมฝึกวิชาชีพให้ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา พร้อมสร้างห้องน้ำผู้พิการให้เพียงพอภายในหน่วยงานกทม. แจงผู้บริหารไม่เสนอขอเงินส่งเสริมให้คนออกกำลังกาย ชี้ควรแก้ปัญหาต้นเหตุ ห่วงไม่คุ้มค่าดูแลรักษา ทั้งนี้ควรวางแผนในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ
นายพิพัฒน์ ลาภปรารถนา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบางรัก เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เพื่อประชุมพิจารณางบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. 2554 ของสำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร โดยมีนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ ดร.ธีระชน มโนมัยพิบูลย์ นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารสำนัก ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 3-6 สภากรุงเทพมหานคร
แนะเสริมฝึกวิชาชีพให้ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา พร้อมสร้างห้องน้ำผู้พิการให้เพียงพอภายในหน่วยงานกทม.
ที่ประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ ตั้งข้อสังเกตหลายประการ เช่น การดำเนิงานของสำนักพัฒนาสังคม พบว่าประชาชนผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมวิชาชีพประชาชนบางส่วนไม่สามารถนำไปประกอบอาชีพ เพราะยังขาดตลาดรองรับและอาชีพที่เรียนไปยังไม่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งต้องพิจารณาในการแนะนำและส่งเสริมในวิชาชีพที่ตรงกับความต้องการ ทั้งควรเพิ่มงบประมาณในการส่งเสริมวิชาชีพให้กับประชาชน โดยการฝึกอาชีพเพื่อนำไปประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ทั้งควรเพิ่มงบประมาณเพื่อฝึกวิชาชีพเสริมทักษะให้เด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษา 5-6 เพื่อเป็นทางเลือกหากเด็กนักเรียนไปประกอบอาชีพแทนการเรียนต่อ ทั้งผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาและผู้พิการ ควรดำเนินสำรวจและส่งเริมอาชีพให้กับคนกลุ่มนี้ รวมทั้งจัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงสถานที่และอำนวยความสะดวก อาทิ ติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณเสียงพูดบอกผู้พิการเข้าออกเวลาใช้บริการและติดตั้งอักษรเบลภายในลิฟต์โดยสาร ภายในหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ทั้งการก่อสร้างห้องน้ำเพื่อคนพิการ พบว่ายังไม่มีเพียงพอซึ่งควรคำนึงถึงความสำคัญของบุคคลเหล่านี้เวลาเดินทางมาติดต่อราชการ
แจงสำนักพัฒนาสังคมไม่เสนอขอเงินส่งเสริมให้คนออกกำลังกาย ชี้ควรแก้ปัญหาต้นเหตุไม่คุ้มค่าดูแลรักษา
ทั้งในส่วนนโยบายในการส่งเสริมให้ประชาชนออกกำลังกาย ควรให้ความสำคัญจัดสรรงบประมาณในกิจกรรมกีฬาต่างๆให้กับประชาชนได้สามารถออกกำลังกายทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพโดยตรง ลดภาระด้านงบประมาณในการรักษาสุขภาพที่กรุงเทพมหานครต้องแบกภาระในการดูแลสุขภาพซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุไม่คุ้มกับค่าดูแลรักษา จากการพิจารณาของคณะกรรมการ ตั้งข้อสังเกตว่า การของบประมาณในด้านการส่งสริมการออกกำลังกาย ควรให้ความสำคัญเพราะอยู่ในแผนแม่บทในการพัฒนาด้านสุขภาพของประชาชนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ตามนโยบายกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการวิสามัญฯ ได้พิจารณาและตั้งข้อสังเกตการใช้จ่ายงบประมาณของกรุงเทพมหานครกันอย่างกว้างขวาง พร้อมมอบหมาย ให้ทางหน่วยงานที่ได้รับการพิจารณานำเอกสารเพิ่มเติมมายื่นให้ทางคณะกรรมการฯ เพื่อการพิจารณากลั่นกรองรายละเอียดในการประชุมครั้งต่อไปด้วย